รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
GUANGZHOU
เส้นทางยอดฝีมือ(ตอนจบ)..ตรวจผลสอบนักกีฬาไทย
  8 ธ.ค. 2561
แบ่งปัน



วันนี้”เส้นทางยอดฝีมือ”มาถึงตอนจบ ที่จะตรวจสอบผลงานของนักกีฬาไทยว่าปี 2018 ที่กำลังจะจบลง ทำผลงานได้ดีแค่ไหน
 
  ก่อนอื่น ต้องบอกว่ามี”ภาพลวงตา”ที่อาจจะบอกว่าดีก็ได้ นั่นคือ เมื่อเราวัดถึงการแข่งขัน 2018 BWF World Tour Finals ในปีนี้ มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปชิงชัยถึง 6 คนจาก 5 ประเภทคือชายเดี่ยว “กัน”กันตภณ หวังเจริญ หญิงเดี่ยว “เมย์”รัชนก อินทนนท์ หญิงคู่ “กิ๊ฟ-วิว” จงกลพรรณ กิติธรากุล /รวินดา ประจงใจ และคู่ผสม “บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย
 
ขณะที่รายการนี้ปีก่อน คือ 2017 BWF Super Series Finals มีเพียงหญิงเดี่ยว ”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่ทำผลงานได้ดี โดยคว้าแชมป์ใหญ่ระดับ Superseries Premier ที่เดนมาร์ค และเป็นรองแชมป์ระดับนี้คือ All England  

อย่างไรก็ตาม การได้สิทธิ์มากถึง 6 คน จะบอกว่านักกีฬาไทยทำผลงานดีก็อาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่ถ้าจะบอกว่า”แย่ลง”ก็คงไม่ตรงกับผลงานเช่นกัน หากแต่การเข้าแข่งขัน2018 BWF World Tour Finals ในปีนี้ จะให้คะแนนจากผลการแข่งขันรายการ 2018 BWF World Tour ทั้ง 38 รายการ ขณะที่ปี 2017 นั้น จะพิจารณาจากผลงานในการแข่งขัน Superseries Premier และ Superseries รวม 12 รายการ
 
  โดยในปี 2017 จาก 12 รายการระดับ Superseries Premier และ Superseries มีเพียง”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่ได้แชมป์หญิงเดี่ยวรายการ Denmark Open ซึ่งเป็นรายการแข่งขันระดับ Superaeries Premier รวมทั้งรองแชมป์ระดับเดียวกันคือ All England ที่อังกฤษ
 
แต่ผลงานนักกีฬาไทยปีนี้ ในรายการระดับ Super 1000 และ Super 750 ซึ่งถือเป็นการแข่งขัน Superseries Premier ไม่มีนักกีฬาไทยคนไหนได้แชมป์ โดย”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ทำผลงานได้ดีที่สุด คือได้แชมป์หญิงเดี่ยว Malaysia Masters ซึ่งเป็นรายการระดับ Super 500 หรือรายการ Superseries  

ส่วนรายการระดับ Super 300 หรือระดับ Grand Prix Gold เดิม ถือว่านักกีฬาไทยทำผลงานได้ดี โดยรายการแรกของปีในประเทศไทย คือ Thailand Masters มี “แน๊ต”ณิชชาอร จินดาพล คว้าแชมป์หญิงเดี่ยว , “ติน-ดีโก้”ติณณ์ อิสริยะเนตร / กิตติศักดิ์ นามเดช คว้าแชมป์ชายคู่ และ “กิ๊ฟ-วิว” จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ แชมป์หญิงคู่ แต่หลังจากนั้นอีก 10 รายการ ไม่มีนักกีฬาไทยได้แชมป์อะไรเลย
 
  นอกจากนั้น นักกีฬาไทยยังทำผลงานคว้าแชมป์ระดับ Super100 หรือระดับ Grand Prix ได้อีก 2 แชมป์ คือ”โอ๊ต”สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ เป็นแชมป์ชายเดี่ยว Akita Masters ที่ญี่ปุ่น และ “ต้นน้ำ-เอ็มเอ็ม” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร / สาวิตรี อมิตรพ่าย เป็นแชมป์คู่ผสม Vietnam Open 
 
ดังนั้น ภาพลวงตาที่เกิดขึ้นเพราะมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมศึก2018 BWF World Tour Finals มากถึง 6 คน อาจจะยังไม่ได้เป็นคำตอบว่าปี 2018 เป็นปีที่นักกีฬาแบดมินตันไทยประสบความสำเร็จ เพราะคำว่า”ความสำเร็จ” การแข่งขันกีฬามักจะวัดกันที่การเป็น”แชมป์”ในการแข่งขัน  

การไม่มีแชมป์รายการ Super1000 ไม่มีแชมป์รายการ Super750 มีแชมป์เดียวรายการ Super500 มี 3 แชมป์รายการ Super300 และมี 2 แชมป์ในรายการ Super100 จึงเป็นคำตอบที่ดีว่านักกีฬาไทยทำผลงานได้ดีแค่ไหนในปี 2018
 
  เพราะนักกีฬาที่ถือว่าเป็นระดับ”โนเนม”อย่าง  Mark Lamsfuß / Isabel Herttrich คู่ผสมเยอรมันที่คว้าแชมป์ Swiss Open หรือ Lu Guangzu และ Cai Yanyan ที่คว้าแชมป์ชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยวในศึก  Australian Open ซึ่งเป็นรายการระดับ Super300 ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ชี้ว่านักกีฬาไทยเหมือนกับ”หยุดพัฒนา”ไประดับหนึ่ง
 
ยิ่งในระดับ Super100 ที่มีนักกีฬาอย่าง Mark Caljouw คว้าแชมป์ชายเดี่ยวที่ฝรั่งเศส Ho Yen Mei สาวมาเลย์คว้าแชมป์หญิงเดี่ยวที่รัสเซีย  Chow Mei Kuan / Lee Meng Yean หญิงคู่มาเลย์คว้าแชมป์ที่อินเดีย และ Liu Haichao หนุ่มจีนที่คว้าแชมป์ชายเดี่ยวที่สกอตแลนด์ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าวงการแบดมินตันไทยยังขาด”คลื่นลูกใหม่”มาเสริมทีม  

ดังนั้น บทสรุปปี 2018 แม้นักกีฬาไทยอาจจะทำผลงานคว้าแชมป์ได้ไม่มากนัก แต่เชื่อว่าปี 2019 นักกีฬาทุกคนจะมุ่งมั่นและพัฒนามากขึ้นเพราะมีเป้าหมายใหญ่คือโอลิมปิก 2020 รออยู่



โดยเชื่อว่าแฟนแบดมินตันไทยทุกคนพร้อมให้กำลังใจเสมอ
GUANGZHOU อื่นๆ