รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
ความสำเร็จของแบดมินตันไทยในสุธีรมานคัพ ... One for All and All for One
  30 พ.ค. 2560
แบ่งปัน
ความสำเร็จของแบดมินตันไทยในสุธีรมานคัพ ... One for All and All for One

ความสำเร็จของแบดมินตันไทยในสุธีรมานคัพ ... One for All and All for One

ก่อนอื่น..ต้องขอแสดงความชื่นชมกับทีมแบดมินตันทีมชาติไทย ที่สร้างผลงานในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลกประเภททีมผสม หรือสุธีรมานคัพ TOTAL BWF Sudirman Cup 2017 ที่สามารถคว้าอันดับ 3 ในการแข่งขันที่ออสเตรเลียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 
 
  ว่าไปแล้ว การมาถึง"อันดับ 3"ต้องบอกว่า"เกินเป้า" เพราะเบื้องต้น สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ตั้งความหวังว่าเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย และเมื่อจับสลากในรอบ 8 ทีมเจอ "เต็ง 2" คือเดนมาร์ค แฟนแบดมินตันไม่น้อยที่คาดว่าไทยอาจจะแพ้เดนมาร์ค แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังตั้งความหวังลึกๆว่าไทยสามารถโค่นเดนมาร์คเข้ารอบรองชนะเลิศได้ และสุดท้าย นักกีฬาและทีมงานผู้ฝึกสอน สามารถทำผลงานนั้นได้สำเร็จ
 
ถ้าไม่ปฏิเสธความจริง ก็ต้องยอมรับว่า ในสุธีรมานคัพครั้งนี้ ทีมที่มีศักยภาพที่จะเป็น"แชมป์" มีเพียง 4 ชาติ คือ จีน ที่"อ่อน"เพียงประเภทหญิงเดี่ยว ขณะที่เต็ง 2 คือเดนมาร์ค ก็ไม่มีนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวระดับโลก เต็ง 3 เกาหลี ที่ขาดผู้เล่นประเภทคู่ผู้ชาย เนื่องจากนักกีฬาตัวหลักของทีมในประเภทนี้ ต่างเลิกเล่นทีมชาติพร้อมกัน และเต็ง 3 ร่วมคือญี่ปุ่น ที่ขาดผู้เล่นชายเดี่ยวหลัง"แบน"นักตบมือหนึ่งของทีมที่พบว่าไปเล่นพนันในคาสิโน  
 
ขณะที่ทีม"ม้ามืด" ก็มี"อินเดีย" ที่จะมีแต้มแน่ๆ ในประเภทหญิงเดี่ยว "อินโดนีเซีย"ซึ่งมีผู้เล่นประเภทคู่แข็งแกร่ง "ไต้หวัน"ที่มีหญิงเดี่ยวชูโรงและผู้เล่นประเภทคู่ติดอันดับโลก และ"ไทย" ที่มีหญิงเดี่ยวและนักตบคู่ผสมเป็นกำลังสำคัญ

สุดท้าย ทีม"ม้ามืด"ที่เป็นม้านอกสายตา"ก็ผ่านเข้ามาเพียงทีมเดียวในรอบ 4 ทีมสุดท้าย นั่นคือ THAILAND ที่คว้าอันดับ 3 ร่วมกับญี่ปุ่น เมื่อแพ้"แชมป์" เกาหลี ในรอบรองชนะเลิศ 1-3
 
  ความสำเร็จของทีมชาติไทยครั้งนี้ ต้องบอกว่า มาจากการทำงานร่วมกันของ"ทุกคน"ในรูปแบบ One for All and All for One คือรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว ยามที่ลงสนาม นั่นคือเป็น THAILAND ไม่มีคำว่า บ้านทองหยอด SCG หรือสโมสรใดๆ
ต้องขอชื่นชม "คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล" นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันไทยฯที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการเปลี่ยนแปลงทีมงานผู้ฝึกสอนโดยการจ้าง "เร็กซี่ ไมนากี้"มาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมชาติไทย และจ้างนักกายภาพชาวญี่ปุ่น "ทากูยะ โฮริกาวา" ที่เชี่ยวชาญในวงการแบดมินตันระดับโลกเพื่อมาดูแลสภาพนักกีฬาของไทย 
 
และที่ไม่ขอบคุณไม่ได้เลยคือ SCG โดย "โค้ชโอม" เทศนา พันวิศวาส ที่สามารถสร้างนักกีฬาประเภทคู่ผสม "ปอป้อ-บาส" ออกมาล้มชาติต่างๆที่ฝีมือดีและเก็บแต้มให้ทีมไทย 1 แต้มจากคู่นี้ทุกๆครั้ง จนตอนนี้คู่ผสมของเรากลายเป็นคู่ระดับท้อปของโลกโดยไม่มีข้อกังขาแล้ว 

อีกหนึ่งกำลังหลักสำคัญจากบ้านทองหยอดโดย "โค้ชเป้" ภัททพล เงินศรีสุข ที่ดูแลน้องเมย์จนบอกได้ว่าเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมชาติไทยไปได้อีกนาน
 
 
ในการเดินทางไปครั้งนี้ เมื่อ "เร็กซี่ ไมนากี้" หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยติดภารกิจ ก็มอบหมายให้ "โค้ชโอม" เทศนา พันวิศวาส ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมผู้ฝึกสอนในการแข่งขันรายการนี้ ส่วนสตาฟฟ์โค้ชก็มี "โค้ชเป้" ภัททพล เงินศรีสุข "โค้ชส้ม" สราลีย์ ทุ่งทองคำ และ "โค้ชอาร์ต" กฤติน กฤตตานุกูลย์ และเมื่อทุกคนอยู่ในสนามแข่งขัน ก็ไม่มีคำว่าค่าย สโมสร หรืออื่นๆ หากแต่มีคำว่า”ทีมชาติไทย”อยู่ในหัวใจ  
 
    ขณะที่”นักกีฬา” ก็ไม่มีการแยกว่าใครมาจากไหน ใครมาจากสโมสรไหน ทุกคนพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศเพื่อลงสนาม เพราะมั่นใจว่าทีมงานผู้ฝึกสอนมั่นใจแล้วว่า"เหมาะสม" ดังจะเห็นได้ว่า ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อสตาฟฟ์โค้ชเลือก "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย มาลงเล่นหญิงคู่กับ "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล และสามรารถทำแต้มสำคัญเอาชนะ Kamilla Rytter JUHL กับ Christinna PEDERSEN ทำให้ไทยเข้ารอบรองชนะเลิศ ก็จะเห็น"วิว" รวินดา ประจงใจ วิ่งลงสนามเป็นคนแรกๆไปยินดีกับเพื่อนร่วมทีม
 
หรือในรอบรองชนะเลิศ การเลือก"บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ลงเล่นชายคู่กับ "อาท" บดินทร์ อิสระ รวมทั้งชายเดี่ยวที่โค้ชเลือก "ไบรท์" สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ เพราะเห็นว่าเหมาะสมกว่า"สอง" ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ก็ไม่มีปฏิกิริยาไม่พอใจจากนักกีฬาคนเดิม เพราะทุกคน"เข้าใจ"และ"เชื่อใจ" ว่าเป็นการเลือกเพื่อชัยชนะ และ"มั่นใจ" ว่าเพื่อนร่วมทีมที่ถูกเลือก จะทำหน้าที่ดีที่สุด

นี่คือ"ทีมเวิร์ค"ที่นำไปสู่ความสำเร็จของไทยในแบบ One for All and All for One
 
 
 

แม้จะไม่ได้แชมป์ ได้แค่อันดับ 3 แต่ก็ต้องถือว่า กองทัพนักแบดมินตันชุดนี้ ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดตามที่คนไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์ จึงขอบันทึกรายชื่อทุกคนไว้ ไม่ว่าจะได้ลงไปทำหน้าที่หรือไม่ก็ตาม โดยนักกีฬาชาย ประกอบด้วย ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข , โฆษิต เพชรประดับ , สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ , อดุลรัชต์ นามกูล , บดินทร์ อิสสระ , นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร , เดชาพล พัววรานุเคราะห์ , กิตตินุพงษ์ เกตุเรน , ตราวุธ โพธิ์เที่ยง , นันทกานต์ ยอดไพสง
 
   
 
ส่วนนักกีฬาหญิง ได้แก่ รัชนก อินทนนท์ , บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ , ณิชชาอร จินดาพล , พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ , ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย , จงกลพรรณ กิติธรากุล , รวินดา ประจงใจ , สาวิตรี อมิตรพ่าย และ พุธิตา สุภจิรกุล ที่มีชื่อแต่ตัดสินใจไม่ร่วมทีมไปแข่งขันเพราะบาดเจ็บ

ทั้งหมดคือ"ทีมชาติไทย"ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กองเชียร์ไทยทุกคน
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ