แม้กองเชียร์แบดมินตันไทย จะชื่นชมความสำเร็จของ "สอง" ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข แต่กองเชียร์ไม่น้อยก็ส่งใจเชียร์ อาร์ท – ต้นน้ำ บดินทร์ อิสสระ กับ นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ที่ได้รองแชมป์แบดมินตันระดับ World Superseries Premier รายการเดียวกันที่เดนมาร์ค ในเวทีกีฬา มีคำกล่าวว่า"ไม่มีที่ยืนสำหรับผู้แพ้" แต่เชื่อว่า นาทีนี้

"อาร์ท-ต้นน้ำ" ก้าวเข้ามายืนอยู่ในหัวใจของกองเชียร์ทีมลูกขนไก่ไทย และเป็นคู่ความหวังต่อจากคู่ประวัติศาสตร์ "อาร์ท-เอ" บดินทร์ อิสระ กับ มณีพงศ์ จงจิตร เจ้าของฉายา "คู่หูนรกแตก" ที่ทำให้โลกตะลึงในลอนดอนเกมส์ โอลิมปิก 2012

สำหรับ"อาร์ท" ถือเป็น BadBoy ของวงการแบดมินตันโลกแต่กระนั้น โลกก็ยอมรับในฝีมือของเขา และถือว่าการกระทำที่เลวร้ายของเขาในสนาม เป็นเพราะ"ความมุ่งมั่น"ที่มากเกินไป ไม่ต่างจากนักกีฬาดังหลายคนเคยทำ เช่น อีริก คันโตน่า กระโดดถีบแฟนบอล หรือหลุยส์ ซัวเรซ กัดคู่ต่อสู้ เพียงแต่สำหรับ"แบดมินตัน" อาจจะเป็นเพราะไม่มีการปะทะกันแบบฟุตบอล การแสดงออกของอาร์ท จึงถูกจดจำมากเป็นพิเศษในสถานะ BadBoy ของวงการแบดจากเหตุการณ์ในการแข่งขัน รายการแคนาดาโอเพนกรังด์ปรีซ์ 2013

สมัยเป็น"คู่หูนรกแตก" อาร์ทกับเอ สร้างประวัติศาสตร์มากมาย เพราะเคยเป็นแชมป์คู่ผสมเยาวชนโลก 2009 ที่ประเทศมาเลเซีย แชมป์กีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน 2011 ที่เซินเจิ้น ประเทศจีน แชมป์เยอรมันโอเพน 2011 

 

แชมป์อินเดียซูเปอร์ซีรีส์ 2012  แต่เมื่อต้องแยกทางกัน แบดมินตันชายคู่ของไทยก็ "เงียบเหงา"ไประยะหนึ่ง จนกระทั่งมีความพยามนามในเวลาต่อมา ที่จะให้ "อาร์ท-เอ"กลับมา" เขย่าโลก"อีกครั้ง แต่สุดท้าย แผนงานนี้ต้องยกเลิกไป เมื่อ เอ-มณีพงษ์ บาดเจ็บเรื้อรังจนต้องเลิกราแขวนแร็คเก็ต ทิ้งไว้เพียงตำนาน "คู่หูนรกแตก" ให้โลกจดจำ

ส่วน"ต้นน้ำ" นิพิฐพนธ์ 
จากเด็กฝึกหัดของ "เอสซีจี อคาเดมี" ต้นน้ำที่เริ่มจากเล่นประเภทเดี่ยว ถูกมองว่าเหมาะสมที่จะเล่นประเภทคู่ และถูกเลือกให้เล่นคู่กับ ปฏิพัทธ์ ฉลาดแฉลม การจับคู่กับปฏิพัทธ์ ก็ถือว่าสร้างผลงานได้ไม่เลวนัก เพราะสามารถเข้าชิงแชมป์แบดมินตันชิงแชมป์ประเทศไทยปี 2554 แต่ก็พ่าย "คู่หูนรกแตก" อาร์ทกับเอ ..ได้แค่รองแชมป์

แต่ก็ถือว่า"ต้นน้ำ"ได้รับการแนะนำตัวแล้ว และเมื่อ"อาร์ท-เอ"แยกทางกัน ต้นน้ำก็ถูกเลือกให้แทนที่อาร์ทในการจับคู่กับเอ แต่ยังไม่ทันสร้างผลงาน แผนงานที่จะให้ "อาร์ท-เอ" กลับมาผงาดในวงการ ต้นน้ำก็ต้องย้ายไปจับคู่กับปฏิพัทธ์ แม้จะไม่ถึงขั้นโดดเด่น แต่ก็ทำผลงานได้เหรียญทองแดงซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมาร์

เมื่อเอแขวนแร็กเก็ต ...ทุกอย่างก็เหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่
คราวนี้ ต้องถือว่า "ลงตัว" สำหรับ "อาร์ท-ต้นนำ" บดินทร์ อิสสระ - นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ที่จะต้องเป็น "มือหนึ่ง" ประเภทชายคู่ของไทย ถึงตอนนี้ แม้อาจจะยังไม่มีรางวัล "แชมป์" ติดมือมาฝากคนไทย แต่ผลงานที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศรายการ YONEX Denmark Open ก่อนจะแพ้ โก๊ะ วี เชม และ ตัน วี เกียง เจ้าของเหรียญเงินริโอเกมส์ ก็ถือว่าเป็นผลงานที่น่าชื่นชม

 

โดยเฉพาะช็อต "ขัดใจแฟน" เมื่ออาร์ท ถูกกรรมการจับเสิร์ฟฟาล์วในแต้มแชมเปี้ยนชิพพอยต์ ที่ทำให้หลายคนมองว่าไทยถูกปล้นชัยชนะ แต่ก็ถือเป็นการนับหนึ่งครั้งสำคัญ "อาร์ท-ต้นน้ำ" เป็นอนาคตของแบดมินตันไทย แม้วันนี้ สองหนุ่มจะอยู่อันดับ 27 ของโลก แต่ก็ถือเป็นคู่ที่น่าจับตามอง และมีโอกาสพัฒนาสูง

อย่าลืมว่า "อาร์ท" อายุเพิ่ง 25-26 ส่วนต้นน้ำ ก็เพิ่ง 25 หมายถึงยังมีโอกาสพัฒนาก่อนจะถึงจุดพีคของนักแบดมินตัน ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมว่า "อาร์ท-ต้นน้ำ" เพิ่งเริ่มจับคู่กัน และแผน "ทดลอง"การเล่นคู่ของทั้งคู่ ก็ทำผลงานได้ดีในระดับน่าพอใจ เมื่อคว้าแชมป์รายการ ที่ยูเครนมาแล้วเมื่อปี 2015 ก่อนจะพลาดโควตาไปโอลิมปิก 2016 แบบหวุดหวิด ขณะที่ผลงานปี 2016 ก็ถือว่าทั้งสองคนเริ่มเข้าขากันได้ดี และการเข้าถึงรอบชิงที่เดนมาร์ค ก็ถือเป็นการนับหนึ่งของทั้งสองหนุ่ม

นับหนึ่งเพื่อแสวงหาความสำเร็จในวันหน้าเพื่อให้คนไทยส่งเสียงเชียร์ "อาร์ท-ต้นน้ำ"แบบที่เคยตะโกนเชียร์ "อาร์ทกับเอ" ในอดีต

เจน ปิยะทัต