วันนี้ วงการกีฬาไทย ไม่มีใครไม่รู้จัก "สอง ทนงศักดิ์" เพราะทันทีที่คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันระดับ World Superseries Premier รายการ YONEX Denmark Open เมื่อเอาชนะ SON Wan Ho นักแบดมือ 7 ของโลกจากเกาหลี 21-13 และ 23-21 พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการระดับใหญ่นี้ ชื่อของ"ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข" ก็เป็นที่กล่าวถึงทันที
|
|
กล่าวถึงว่าถึงเวลาแล้วที่"สอง" จะขึ้นเป็น"หนึ่ง"ของทีมแบดมินตันไทย
"สอง"ทนงศักดิ์ ไม่ได้ถูกจับตามากนักในคอร์ตเขียว นั่นเป็นเพราะแม้เคยขึ้นมาเป็นมือ 9 ของโลกเมื่อเดือนตุลาคม 2013 แต่สองก็ไม่เคยเป็นแชมป์รายการใหญ่ในระดับอาชีพ โดย"แชมป์" ที่สองสามารถ"อวด"ใครต่อใครได้ก็คือปี 2013 ที่เขาเป็นแชมป์ชายเดี่ยวซีเกมส์ที่เมียนมาร์ และแชมป์ชายเดี่ยวกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่ยูเครน |
นอกเหนือจากนั้นก็เป็นแค่แชมป์รายการเล็กๆคือปุ้มปุ้ย..จึงแทบไม่น่าเชื่อว่าเขาเป็นนักแบดหมายเลข 2 ของทีมชาติไทยมายาวนาน
"สอง" เป็นนักแบดที่มี "พรสวรรค์" แต่หลายคนบอกว่าเขาไม่มี "พรแสวง"
"เจ้าสองมันเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย" คนในวงการแบดมินตันที่รู้จักสองดีกล่าวถึงนักแบด"สิงห์มือซ้าย"คนนี้
ความ"กล้าได้กล้าเสีย"ของสอง สะท้อนผ่านรูปแบบการเล่นของเขา นั่นคือ "บู๊" แบบไม่มีถอย
ใครหยอดมา สองจะหยอดกลับ ใครตบมา สองจะตบกลับ |
|
|
|
|
ใครที่ได้ดูเกมรอบชิง YONEX Denmark Open จึงได้เห็นลีลา"กล้าได้กล้าเสีย" ชนิดที่ SON Wan Ho ที่ถือเป็นหนึ่งในนักแบดฝีมือดีและมีพละกำลังตามแบบฉบับ"นักกีฬากำลังโสม" ยังพลิกตำราแทบไม่ทันเมื่อเจอเกม"ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"ของไอ้หนุ่มจากเมืองไทย 2 แชมป์ใน 2 ทัวร์นาเมนต์ในเดือนตุลาคม คือ SCG Thailand Open และ YONEX Denmark Open คือผลสะท้อนอุปนิสัยการเล่นแบบ"กล้าได้กล้าเสีย"ของเขา |
สำหรับคนที่รู้จักดี "สอง"ไม่ได้น่ารักมากนัก ที่บอก"ไม่ได้น่ารัก" เพราะความเป็น"เด็กหนุ่ม"ที่ทำให้บ่อยครั้ง สองไม่ได้เป็นนักกีฬาที่มีระเบียบวินัย เหมือนที่หลายคนย้ำเสมอว่า "เจ้าสอง"มันมี"พรสวรรค์" แต่ไม่มี"พรแสวง" สองจึง"เดินเข้าเดินออก"ในการเป็นนักแบดสังกัดทีมต่างๆหลายครั้ง ทั้งแกรนนูลาร์ ทหารอากาศ กระนั้นก็ตาม แม้จะ"ไม่น่ารัก" แต่ไม่มีใครเกลียดสอง และพร้อมที่จะให้โอกาสเสมอ เพราะเชื่อในศักยภาพของเขา
ซึ่งถึงตอนนี้ สองแสดงให้เห็นว่าถ้าเขาพร้อมที่จะเล่น เขาก็เล่นได้ดี
คนที่ทำให้"สอง"มีวันนี้ก็คือ"แสนสมบูรณ์สุข" กล่าวได้ว่า"ลมใต้ปีก"ที่ทำให้"สอง"บินสูงถึงขั้นคว้าแชมป์ระดับ World Superseries Premier ก็คือคนในครอบครัว"แสนสมบูรณ์สุข" ที่เชื่อมั่นว่า"เจ้าสอง"จะต้องเป็นที่หนึ่ง...ไม่ว่าจะเกเร ไม่ว่าจะไม่ซ้อมหรือออกท่องราตรีแบบเด็กหนุ่มทั่วๆไป แต่สองไม่เคยถูกซ้ำเติมจากครอบครัว เพราะครอบครัว"แสนสมบูรณ์สุข"เชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า เมื่อ"สอง"รักแบดมินตันตั้งแต่จับแร็กเก็ตครั้งแรกในวัยเพียง 4 ขวบ และเรียนอย่างจริงจังกับ"ครูเบิ้ม" ชลาชัย สงวนแก้ว เมื่อตอน 8 ขวบ เขาก็จะไม่ทิ้ง"ความฝัน"ที่จะเป็นหนึ่งให้ได้ การเป็น"แชมป์"รายการใหญ่ จึงเป็นการส่งสัญญาณให้แฟนแบดมินตันไทยรู้ว่า เขาพร้อมแล้วที่จะขึ้นเป็น"มือหนึ่ง" เพื่อสานต่อภารกิจทีมแบดมินตันไทยต่อจาก"พี่ใหญ่"ซูเปอร์แมน บุญศํกดิ์ พลสนะ ที่รับภาระนี้มานานนับสิบปี
เส้นทางความสำเร็จของสองไม่ได้ปูด้วยกลีบกุหลาบ วันนี้ "สอง"ขึ้นมาอยู่ในจุดที่กองเชียร์แบดมินตันไทยชื่นชม แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ทุกอย่าง"สอง"สร้างขึ้นมาเอง
"สอง"เดินทางไปแข่งรายการต่างๆด้วยตัวเอง ไม่มีโค้ช ไม่มีสปอนเซอร์ ไปโดยมี"เพื่อนทีมชาติ"เท่านั้นที่ร่วมเดินทาง
แต่ผลงานที่เดนมาร์ค เชื่อว่าจากนี้ไป ไม่มีใครมองข้ามสองอีกต่อไป
"สอง"ในวันนี้ จึงเป็น "ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข" ที่จะได้รับการชื่นชมมากมาย กับผลงานที่ทำในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่คนที่ทำให้"สอง"เป็น"หนึ่ง"ในวันนี้ก็คือ คนในครอบครัว"แสนสมบูรณ์สุข"
ครอบครัวที่จับมือเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าสองจะเดินออกมาจากสนามในฐานะ"ผู้แพ้"หรือ"ผู้ชนะ"
เจน ปิยะทัต