สุดสัปดาห์นี้ วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม แบดมินตันชิงแชมป์ผสมประเภททีม รายการสุธีรมานคัพ TOTAL BWF Sudirman Cup 2017 ที่เมือง Gold Coast ประเทศออสเตรเลีย ก็จะเปิดฉาก และเป็นอีกครั้ง ที่ไทยกับฮ่องกง จะเจอกัน ในเกม”หลังพิงฝา” นั่นคือ ทีมไหนแพ้ ก็จะตกรอบ
 

ที่ใช้คำว่า”ตกรอบ” เพราะไทยกับฮ่องกง อยู่ในกลุ่ ม 1A ที่มี”จีน” ทีมเต็งหนึ่งและแชมป์เก่า 10 สมัยเป็นทีมวาง ซึ่งตามฟอร์มและความเป็นไปได้ เชื่อว่าทั้งไทยและฮ่องกง ยากที่จะชนะจีน เกมระหว่างไทยกับฮ่องกง จึงถือเป็น”เกมหยุดโลก” ที่ทั้งสองทีมจะต้องส่งผู้เล่นที่ดีสุดลงสนามเพื่อชัยชนะและการเข้ารอบ ศึกครั้งนี้เป็นเสมือน”หนังม้วนเดิม”ของสุธีรมานคัพ 2013 ที่ไทยเจอกับฮ่องกงเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2013 ใน”สุธีรมานคัพ2013” ซึ่งทีมชาติไทยชนะฮ่องกง 3-2 ในวันนั้น โดย 3 คะแนนที่ไทยได้ คือหญิงเดี่ยว เมย์ รัชนก อินทนนท์ ชนะ Yip Pui Yin , ชายคู่ “เอ-ต้นน้ำ” มณีพงษ์ จงจิตร -นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ชนะ Wong Wai Hong - Chan Yun Lung และคู่ผสม”นินจาเต่า-หมวดส้ม” สุดเขต ประภากมล -สราลีย์ ทุ่งทองคำ ชนะ Lee Chun Hei - Chau Hoi Wah

ส่วน 2 ประเภทที่ทีมไทยแพ้ฮ่องกงวันนั้นคือชายเดี่ยว”ซูเปอร์แมน” บุญศักดิ์ พลสนพ แพ้ Hu Yun และหญิงคู่”โอ๋-หญิง” กุลชลา วรวิจตรชัยกุล –ดวงอนงค์ อรุณเกษร แพ้ Poon Lok Yan - Tse Ying Suet
 

ที่น่าสนใจก็คือ 3 คะแนนที่ไทยได้ เป็นการชนะ 2 เกมรวด ขณะที่ 2 คะแนนที่ไทยแพ้ เป็นการแพ้ 1-2 เกม ในยุคที่ถูกกล่าวขานกันว่า “นักแบดไทย”มักจะหมดแรงในเกม 3 แมทช์ที่ทีมชาติไทยจะลงสนามนักแรกพบฮ่องกง ในเวลา 18.00 น.วันจันทร์ที่ 22 พ.ค. ตามเวลาที่ออสเตรเลีย จึงเป็นเกมที่ทั้ง 2 ทีมพลาดไม่ได้ โดยเฉพาะ”ฮ่องกง” ที่ต้องการล้างแค้น เพราะการพ่ายแพ้ไทยปี 2013 ทำให้พวกเขาต้องตกชั้นไปเล่นในกลุ่ม 2 ในปี 2015 ก่อนที่จะกลับมาอยู่กลุ่ม 1 ได้อีกครั้งในปีนี้

 

ขณะที่ไทย ก็คงต้องการสร้างประวัติศาสตร์ เพราะสุธีรมานคัพ 2013 ทีมชาติไทยทำผลงานได้ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ นั่นคือได้ที่ 3 ร่วมกับเดนมาร์ค หลังจากในรอบ Quarter Final ไทยเอาชนะญี่ปุ่น 3-1 ก่อนจะมาแพ้เกาหลีในรอบรองชนะเลิศ 1-3 โดยคะแนนเดียวที่ไทยได้ในรอบรองฯ คือชายเดี่ยว บุญศักดิ์ พลสนะ ชนะ Lee Dong-keun

ศึกศักดิ์ศรีแบบ”หลังพิงฝา”ของทั้ง 2 ทีมภายใต้สมมติฐานว่าทั้งคู่พ่ายจีน จึงเป็นศึกที่พลาดไม่ได้ของทั้ง 2 ทีม

โดยนักแบดมินตันไทยที่ไปร่วมศึก TOTAL BWF Sudirman Cup 2017 ครั้งนี้ ไทยต้องเจอ”ข่าวร้าย”ในนาทีสุดท้าย เมื่อ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล นักแบดหญิงคู่และคู่ผสม ต้องถอนตัวไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ทีมไทยชุดนี้ จึงประกอบด้วย นักกีฬาชาย  ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข , โฆษิต เพชรประดับ , สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ , อดุลรัชต์ นามกูล , บดินทร์ อิสสระ , นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร , เดชาพล พัววรานุเคราะห์ , กิตตินุพงษ์ เกตุเรน , ตราวุธ โพธิ์เที่ยง , นันทกานต์ ยอดไพสง

ส่วนนักกีฬาหญิง ได้แก่ รัชนก อินทนนท์ , บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ , ณิชชาอร จินดาพล , พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ , ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย , จงกลพรรณ กิติธรากุล , รวินดา ประจงใจ , สาวิตรี อมิตรพ่าย ส่วน พุธิตา สุภจิรกุล ตัดสินใจไม่ร่วมทีมไปเพราะบาดเจ็บ
 

ขณะที่”ฮ่องกง” ก็ขนนักกีฬาชุดใหญ่มาออสเตรเลีย โดยมีนักแบดมินตันมา 16 คน เป็นชายและหญิงประเภทละ 8 คน โดยนักกีฬาชาย ประกอบด้วย HU Yun , LAW Cheuk Him , LEE Cheuk Yiu , LEE Chun Hei Reginald , NG Ka Long Angus , OR Chin Chung , TANG Chun Man และ WONG Wing Ki Vincent

 

ส่วนนักตบลูกขนไก่สาวทั้ง 8 คนได้แก่  CHAU Hoi Wah , CHEUNG Ngan Yi , FAN Ka Yan , NG Tsz Yau , POON Lok Yan  ,TSE Ying Suet ,YEUNG Nga Ting และ YIP Pui Yin

ลองวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของเกมแมทช์นี้ โดยเริ่มที่ชายเดี่ยว ซึ่งไทยคงจะส่ง”สอง” ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ขณะที่ฮ่องกง น่าจะเป็น NG Ka Long Angus โดยการตรวจสอบสถิติของ BWF พบว่านักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 10 ของโลกจากฮ่องกง กับนักแบดมินตันมือ 11 ของโลกจากไทย ยังไม่เคยเจอกัน และหากวัดกันตามฟอร์มและสภาพร่างกาย ก็ต้องยอมรับว่าหนุ่มไทยเป็นรองดาวรุ่งพุ่งแรงจากฮ่องกงอยู่เล็กน้อย

มาถึง”หญิงเดี่ยว” ที่แน่นอนว่าไทยจะส่ง เมย์ รัชนก อินทนนท์ มือ 8 ของโลกลงสนาม ส่วนฮ่องกง น่าจะเป็น CHEUNG Ngan Yi นักแบดหญิงเดี่ยวมือ 16 ของโลกที่ถือเป็น”หญิงเดี่ยวมือ1”ของทีม และเช่นเดียวกับชายเดี่ยว คือไม่มีสถิติว่าทั้งคู่เคยเจอกัน  และฟันธงได้เลยว่าเมย์น่าจะชนะไม่ยาก
 

ถัดมาเป็น”ชายคู่”ซึ่งไทยคงจะส่ง”อาท-ต้นน้ำ” บดินทร์ อิสสระ - นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ชายคู่มือ 13 ของโลกลงสนาม ขณะที่ฮ่องกง น่าจะเป็น OR Chin Chung กับ TANG Chun Man ชายคู่มือ 24 ของโลก และสถิติคู่นี้เจอกันครั้งเดียวในรายการ VICTOR FAR EAST MALAYSIA MASTERS เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2016 แบบไม่ง่ายนัก 2-1 เกม สกอร์ 21-13, 18-21, 21-17 และเชื่อว่าหากเจอกันอีกครั้ง คู่มือ 1 ของไทยก็น่าจะย้ำแค้นได้อีกครั้ง

 

จากนั้นเป็นหญิงคู่ ซึ่งเมื่อไม่มี”เอิร์ธ” ไทยก็คงจะต้องเลือก “กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิติธรากุล - รวินดา ประจงใจ หญิงคู่มือ 11 ของโลกลงสนาม ส่วนฮ่องกง น่าจะเป็น  POON Lok Yan กับ TSE Ying Suet หญิงคู่มือ 39 ของโลกลงสนาม และจากสถิติที่เคยเจอกันครั้งเดียว คือเมื่อต้นปีเมื่อวันที่ 22 มกราคม ในรายการ VICTOR FAR EAST MALAYSIA MASTERS 2017 ซึ่ง 2 สาวไทยเอาชนะไม่ยาก 21-17, 21-9 และหากไม่ตื่นสนามเพราะต้องแบกรับภาระ ก็เชื่อว่าคู่สาวไทยน่าจะชนะเช่นเดิม

 

ปิดท้ายที่คู่ผสม ซึ่งแน่นอนว่า ไทยคงเลือก “บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมือ 9 ของโลกลงสนาม ขณะที่ฮ่องกง น่าจะเป็น LEE Chun Hei Reginald กับ CHAU Hoi Wah คู่มือ 12 ของโลก มากกว่าคู่ TANG Chun Man กับ TSE Ying Suet คู่มือ 15 ของโลก เพราะ TSE Ying Suet น่าจะล้าจากลงเล่นหญิงคู่ และเช่นเดียวกับ 2 คู่ที่ผ่านมา นั่นคือ นักตบลูกขนไก่ไทยเคยชนะในการเจอกันครั้งเดียวเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2016 ในรายการ YONEX OPEN JAPAN 2-1 เกม 21-16, 21-23, 21-12 แต่หากต้องเจอกับคู่มือ 15 ของโลก นักตบลูกขนไก่ไทยกับฮ่องกงคู่นี้ยังไม่เคยเจอกัน แต่ไม่ว่าคู่ไหน เชื่อว่า”บาส-ปอป้อ” ที่ฟอร์มกำลังดีจะชนะไม่ยาก

สรุปว่า ศึกหยุดโลกที่ผลชนะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมระหว่างไทย-ฮ่องกง ตามฟอร์มแล้ว นักแบดมินตันไทยน่าจะเหนือกว่า ส่วนถึงตอนลงสนาม ก็คงต้องดูฟอร์มกันอีกครั้ง แต่หากคนไทยส่งกำลังใจเชียร์ เชื่อว่านักกีฬาของไทยจะสู้สุดฤทธิ์สุดแรง

"ส่งใจไปเชียร์พร้อมกัน"