เอสซีจี สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ
พร้อมจัด การแข่งขันแบดมินตันนานาชาติระดับ BWF Grand Prix Gold รายการ SCG Thailand Open 2017 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “สำหรับการแข่งขันแบดมินตันนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ระดับ BWF Grand Prix Gold รายการ SCG Thailand Open 2017 ณ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2560 และเป็นอีกครั้งหนึ่งสำหรับพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศประเภทชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว นำมาซึ่งความปลื้มปีติยังผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายและผู้เข้าร่วมแข่งขัน โดยผู้ได้ครองถ้วยพระราชทาน ย่อมเป็นสิริมงคลและเป็นเกียรติสูงสุดแก่ตนเอง แก่ครอบครัวและวงศ์ตระกูล รวมทั้งประเทศของตนเองด้วย
กลับมาอีกครั้งกับศึกตบลูกขนไก่รายการระดับนานาชาติที่เก่าแก่สุดของแดนสยาม "เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น" ปีที่ 33 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,200,000 บาท วันที่ 30 พฤษภาคม–4 มิถุนายน โดยยังคงเลือกใช้อาคารนิมิบุตร ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ |
|
|
สำหรับปีที่แล้วนักแบดมินตันไทยสร้างผลงานไว้อย่างยอดเยี่ยม คว้าได้ถึง 2 แชมป์ จากชายเดี่ยว "สอง"ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ซึ่งนับเป็นบันไดขั้นแรกในการคว้าแชมป์ระดับ "กรังด์ปรีซ์ โกลด์" ก่อนที่ 2 สัปดาห์ถัดมาจะขยับขึ้นไปสอยแชมป์ระดับ "ซูเปอร์ซีรี่ส์ พรีเมียร์" ที่เดนมาร์ก ขณะที่หญิงคู่ก็ไม่น้อยหน้าเมื่อ "ปอป้อ"ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กับ "เอิร์ธ"พุธิตา สุภจิรกุล ก็หยิบแชมป์ "กรังด์ปรีซ์ โกลด์" ร่วมกันได้เป็นรายการแรก ทำให้ประวัติศาสตร์ต้องจารึกว่าในปี พ.ศ.2559 เป็นครั้งแรกที่มีนักแบดมินตันไทยคว้าแชมป์รายการพร้อมกันได้ถึง 2 ประเภทเป็นครั้งแรก
|
|
การแข่งขันในครั้งที่ 28 ยังคงมีนักกีฬายอดฝีมือจากนานาชาติรวมกว่า 23 ประเทศเดินทางมาเพื่อจุดหมายเดียวกันคือครองถ้วยแห่งศักดิ์ศรีนี้ แน่นอนว่า ชายเดี่ยว ต้องจับตามอง ทนงศักดิ์ ในฐานะมือวางอันดับ 1 ของรายการ แต่เส้นทางคงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเพราะมีคู่ปรับ และรุ่นพี่อย่าง "ไบร์ท"สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ หรือ อดุลรัชต์ นามกูล ซึ่งอาจพบกันในรอบ 16 คน หากผ่านไปได้ยังมี อิห์ซาน มัวลาน่า มุสโตฟา อดีตรองแชมป์เมื่อ 2 ปีก่อน รวมไปถึงโซนี่ ดวี่ คุนโคโร่ รองแชมป์ปีที่แล้ว อดีตแชมป์ปี พ.ศ.2555 จากอินโดนีเซีย แต่รายหลังคงต้องผ่าน ปัณณวิชญ์ ทองน่วม ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงเพิ่งคว้าแชมป์ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ชาลเลนจ์ "เดอะ สไมลิ่ง ฟิช" ที่ จ.ตรัง เมื่อต้นเดือนให้ได้เสียก่อน รวมไปถึง หนาน เว่ย จากฮ่องกง และ ชอง เหว่ย เฟง จากมาเลเซีย |
นอกจากนี้ ยังมีด่านอรหันต์ทั้ง มาร์ค ชวีบเลอร์ มือ 2 ของรายการ จากเยอรมนี และมือดีจากอินโดนีเซีย โจนาธาน คริสตี้ ขณะที่ดาวรุ่งที่น่าจับตามองของไทย ก็มีทั้ง โฆษิต เพชรประดับ และกันตภณ หวังเจริญ ฯลฯ
ด้านหญิงเดี่ยว "เมย์"รัชนก อินทนนท์ อดีตแชมป์ปี พ.ศ.2556 ที่อยู่ระหว่างเรียกความฟิตกลับมาแข่งขันอีกครั้งในฐานะมือ 1 ของรายการ หลังจากปีก่อนพักรักษาอาการบาดเจ็บ และเป็นเรื่องน่าเสียดายที่แชมป์เก่าปีก่อน อายะ โอโฮริ สุดสวยแดนอาทิตย์อุทัยไม่ได้มาป้องกันแชมป์ แต่ก็มี ไซน่า เนห์วาล อดีตแชมป์ปี พ.ศ.2555 จากอินเดีย มาเป็นก้างชิ้นโต ของรองแชมป์เก่า "ครีม"บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ที่อาจเจอกันในรอบตัดเชือก
ส่วนเส้นทางของ รัชนก ก็ถือว่าหฤโหด ตั้งแต่รอบสองเพราะมีลุ้นเจอ ซายากะ ทาคาฮาชิ จากญี่ปุ่น หากเข้ารอบ 8 คนมีลุ้นเจอ "แน็ต"ณิชชาอร จินดาพล และในรอบตัดเชือกมีสิทธิ์เจอทั้ง จาง เป่ยเหวิน สาวอเมริกัน และแชมป์ประเทศไทยคนล่าสุด "หมิว"พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ที่พัฒนาฝีมือขึ้นมามาก |
|
|
ขณะที่ ชายคู่ ยังคงเป็นประเภทเดียวที่นักตบลูกขนไก่ไทยไม่เคยสัมผัสแชมป์ได้ และต้องจับตามองคู่มือ 2 ของรายการ "อาท"บดินทร์ อิสสระ กับ นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ว่าจะเข้ารอบลึกได้เพียงใด หลังจากครั้งก่อนเข้าถึงรอบก่อนรองฯ รวมถึง "บาส"เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "สกาย"กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มือ 6 ของรายการ ที่แม้ผลงานไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ก็ไม่เป็นรองใคร นอกจากนี้ ยังมีคู่ที่น่าจับตามมองทั้ง คิม แอสทรัพ-แอนเดิร์ส ราสมุสเซ่น คู่มือ 1 ของรายการ ซึ่งเพิ่งคว้าที่ 3 ของยุโรป มาได้ รวมถึง มาคัส เอลลิส-คริส แลงริดจ์ สองหนุ่มแดนผู้ดีเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ ครั้งล่าสุด และ ตัน บูน เฮือง-เฮนดร้า เซเตียวาน คู่มือเก๋าชาวมาเลเซีย-อินโดนีเซีย
|
|
หญิงคู่ แน่นอนว่าคู่ ทรัพย์สิรี-พุธิตา เป็นเต็ง 1 โดยมี "กิ๊ฟ"จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ "วิว"รวินดา ประจงใจ เป็นคู่ปรับ แต่คู่แชมป์เก่า อาจต้องวัดความเหนียว เกรเซีย โปลลี่-อาพริยานี่ ราฮายู จากอินโดนีเซีย รวมถึงคู่สาวสวย กรอนย่า ซัมเมอร์วิล-เซ็ตยาน่า มาปาซ่า จากออสเตรเลีย ด้วย ส่วนคู่ กิ๊ฟ-วิว ที่ครั้งก่อน พลาดท่าในรอบรองฯ หนนี้ อาจเจองานหนักในรอบก่อนรองฯ เพราะได้ลุ้นเจอคู่ดาวรุ่งดีกรีรองแชมป์เยาวชนโลกหนล่าสุด ที่ปีนี้ประเดิมแชมป์แรกในรายการ "ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ชาลเลนจ์" มาแล้ว |
ปิดท้ายที่ คู่ผสม เวลานี้ไม่มีคู่ใดน่าจับตามองไปกว่าคู่ของ เดชาพล-ทรัพย์สิรี คู่มือ 1 ของรายการ ที่โชว์ผลงานคว้า 2 รองแชมป์หลังสุดมาได้ และยังได้ลุ้นดวลกับคู่ นิพิฐพนธ์-จงกลพรรณ ในรอบรองฯ หลังจากปีก่อนฝ่ายหลังต้องโดนเขี่ยตกรอบก่อนรองฯ ซึ่งเส้นทางดูแล้วสดใสไม่น้อย ส่วนคู่ บดินทร์-สาวิตรี อมิตรพ่าย คู่มือ 3 ของรายการ เจองานไม่ง่ายตั้งแต่รอบแรก แม้จะพบ ราฟาเอล เบ็ค-อีวา แยนส์เซ่นส์ จากเยอรมนี และถ้าไปถึงรอบรองฯ อาจเจอคู่มือ 2 ของรายการ ยอง ไค เทอร์รี่ ฮี-ตัน เหว่ย หาน จากสิงคโปร์
ต้องบอกเลยว่าปีนี้มันสุดๆ และอาจมีการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมา เพราะอย่าลืมว่า ไม่เคยมีนักแบดมินตันไทยคนใดป้องกันแชมป์ หรือคว้าแชมป์ได้ถึง 2 สมัย ประกอบกับเทคนิคการจัดแสง สี เสียง พร้อม มัลติมีเดีย สกรีน 180 ยิ่งทำให้รายการนี้ยิ่งใหญ่ และน่าสนใจไม่น้อย โดยแฟนกีฬาสามารถซื้อบัตรเข้าชมทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขาในราคา 50, 100, 200, 400 และบัตรวีไอพี 2,000 บาท