สำหรับ Goh Jin Wei อดีตแชมป์หญิงเดี่ยวเยาวชนโลก 2015 ที่ถูกสื่อมาเลเซียวาดฝันและนำเสนอว่าเป็น”ยอดนักแบดมินตัน” โดยยกย่องเป็น Lee Chong Wei หญิงของมาเลเซีย วันนี้ดูเหมือนเริ่มมีข้อกังขามากขึ้น เพราะเธอไม่ใช่”เด็กหญิง” เหมือนในอดีต เพราะที่ไม่น่าเชื่อก็คือ เมื่อขยับมาเล่น”ชุดใหญ่” นักแบดมินตันหญิงที่เพิ่งฉลองวันเกิด 17 ปีเมื่อเดือนมกราคม ยังไม่เคยได้แชมป์ระดับ Grand Prix Gold หรือ Grand Prix เลย โดยเคยเข้าชิงชนะเลิศเพียงรายการเดียวคือ Indonesian Masters เมื่อปี 2016 และแพ้ “ครีม”บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ 15-21 และ 13-21
 

ถึงตอนนี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสังเกตว่าเธอเป็น”ของแท้” หรือ”ของทำเหมือน”  เพราะเมื่อถึง”รายการใหญ่” อดีตแชมป์เยาวชนโลกปี 2015 มักจะตกรอบแรกๆ ทั้งที่ถูกคาดหวังจากกองเชียร์มาเลเซียสูง ในฐานะ”นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ1”ของประเทศ โดยทุกครั้งที่พ่ายแพ้ มักจะมีคำถามว่าเป็นเพราะอาการ”บาดเจ็บ”ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีหรือไม่ เพราะในความเป็นจริง ปฏิเสธไม่ได้ว่า Goh Jin Wei เป็นนักแบดมินตันหญิงที่เก่งและครบเครื่องคนหนึ่ง

ทั้งนี้ หลังกลับมาลงสนามเมื่อฟื้นจากอาการบาดเจ็บเข่าเมื่อเดือนมกราคม  Goh Jin Wei ก็ลงแข่งในบ้านเกิดรายการ Malaysian Open และแพ้ Chen Yufei ในรอบ 2 ก่อนจะมาตกรอบแรก Singapore Open เมื่อพ่าย Sung Ji-hyun ไป 1-2 เกม 16-21, 21-19 และ 13-21
 

มาถึงศึกชิงแชมป์เอเชีย  Asian Badminton Championships (ABC) ที่เมือง Wuhan ประเทศจีน “สาวน้อยมหัศจรรย์”ของมาเลเซีย ก็”ตกรอบแรก”อีกครั้งด้วยฝีมือ  Akane Yamaguchi จากญี่ปุ่น ทั้งๆที่เธอบอกว่า มีเวลาเตรียมตัวนานเพราะได้พักตั้งแต่จบรายการที่สิงคโปร์ และสภาพร่างกายก็ไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตาม Goh Jin Wei ยอมรับว่า การพ่ายแพ้ Akane Yamaguchi เพราะเป็นเรื่องยากในยามที่เจอผู้เล่นที่มีความสามารถและครบเครื่อง แต่ก็มองว่า กว่าจะชนะเธอได้ Akane Yamaguchi ก็ต้องเหนื่อยไม่น้อย และเชื่อว่า หากเจอ Sung Ji-hyun อีกครั้ง คราวนี้เธอมั่นใจว่าสามารถชนะได้ เพราะการพ่ายแพ้ที่สิงคโปร์ เป็นการพ่ายแพ้ที่เธอเกือบชนะ
 

การให้สัมภาษณ์หลังตกรอบแรกศึกชิงแชมป์เอเชีย มองในแง่”ความมั่นใจ” แสดงให้เห็นว่า Goh Jin Wei มีความมุ่งมั่นและเชื่อตัวเองสูง แต่นักกีฬาจะต้องพิสูจน์กันในสนาม และนั่นคือสิ่งที่ “สาวน้อยมหัศจรรย์”คนนี้ ยังไม่ได้ทำผลงานให้ใครเห็นว่าเธอเป็น”ของแท้”หรือ”ของทำเหมือน”