หลังการพ่ายแพ้ต่อ"หลินตัน" Lin Dan ในศึกซูเปอร์ซีรีส์ในบ้านเกิดของตัวเอง คือรายการ CELCOM AXIATA Malaysia Open "ลีชองเหว่ย" Lee Chong Wei กล่าวถึงการพ่ายแพ้ที่ถือว่า "ห่างกันมาก" ด้วยสกอร์ 19-21 และ 14-21 ต่อสำนักข่าวทางการมาเลเซีย หรือ สำนักข่าว Bernama ว่าเป็นเรื่องน่าวิตกสำหรับทีมแบดมินตันมาเลเซีย
 |
|
"ผมรู้ว่าแฟนๆจำนวนมากผิดหวังที่ไม่เห็นการเป็นแชมป์ครั้งที่ 12 ของผม ผมยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ แต่ไม่ชนะในปีนี้ไม่เป็นไร ผมตั้งใจที่จะกลับมาอีกครั้งในปีหน้า และจะคว้าแชมป์ให้ได้" นักแบดมินตันมือ 1 โลกวัยย่าง 35 ชาวมาเลเซียกล่าวถึงการพ่ายแพ้ต่อ "หลินตัน" ในการชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในบ้านเกิด |
ขณะเดียวกัน การพ่ายแพ้ครั้งนี้ "ลีชองเหว่ย" ยังยอมรับว่า ทำให้เขาวิตกว่านักแบดมินตันรุ่นน้อง จะรับความกดดันและความคาดหวังจากแฟนแบดมินตันชาวมาเลย์ได้แค่ไหน โดยเฉพาะนักกีฬา"เหรียญเงินโอลิมปิกทั้งชายคู่และคู่ผสม" นั่นคือ V Shem Goh กับ Wee Kiong Tan และ Peng Soon CHAN และ Liu Ying GOH ในประเภทคู่ผสม
ทั้งนี้ ในรายการ CELCOM AXIATA Malaysia Open ที่ผ่านมา CELCOM AXIATA Malaysia Open ที่เป็นมือวางอันดับ 1 กลับตกรอบแรกพ่ายต่อนักแบดมินตันจากรอบคัดเลือกฮ่องกง เช่นเดียวกับคู่ผสม Peng Soon Chan และ Liu Ying Goh ที่ตกรอบแรกจากฝีมือของนักตบลูกขนไก่จากอินโดนีเซีย |
|
 |
"เราคงไม่สามารถตำหนิผู้เล่นเหล่านี้ เพราะผมบอกแล้วว่าพวกเขาจะอยู่ภายใต้ความกดดันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันในบ้าน แต่เมื่อเป็นมืออาชีพ พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับความกดดันเหล่านี้ ผมหวังว่าพวกเขาสามารถทำผลงานได้ดีในการแข่งขันครั้งต่อไป"
 |
|
ขณะเดียวกัน "ลีชองเหว่ย"ยอมรับว่าที่เขาห่วงมากที่สุดก็คือ ประเภทชายเดี่ยว ที่ดูเหมือนมาเลเซียจะยังไม่มีผู้เล่นฝีมือดีขึ้นมาเพื่อรับช่วงต่อจากเขา ซึ่งอาจจะเป็นเพราะนักกีฬาระดับเยาวชนของมาเลเซีย ไม่ได้ถูกส่งไปแข่งขันทัวร์นาเมนต์เล็กๆเพื่อทดสอบฝีมือ ซึ่งต่างจากเกาหลี เดนมาร์ค หรือญี่ปุ่น ที่ทำงานในเรื่องนี้ได้ดี โดยกล่าวว่า "ผู้เล่นเยาวชนจากชาติเหล่านั้นได้เรียนรู้จากการไปแข่งขันระดับ International Challenge แต่ผู้เล่นของมาเลเซียไม่ได้ไปแข่งขัน เราจะทำอย่างไร" |
"ลีชองเหว่ย"ยังกล่าวฝากถึงนักแบดมินตันมาเลเซียรุ่นใหม่ ว่าแม้หลายคนจะมีคุณภาพ แต่ระบบการฝึกสอนยังปล่อยให้พวกเขาขาดจิตวิญญาณการต่อสู้และความปรารถนาที่จะชนะ ซึ่งต่างจากสมัยที่เขาเล่น ที่จะถูกถามเพื่อกระตุ้นตัวเองก่อนลงสนามว่ามุ่งมั่นที่จะชนะแค่ไหน ขณะที่ผู้เล่นยุคใหม่ มีรายได้มากมายแต่ขาดการกระตุ้นให้มุ่งมั่นเพื่อคว้าแชมป์
"ผมเชื่อว่าพวกเขารู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแบดมินตันมาเลเซียคืออะไร" ลีชองเหว่ยกล่าวตอนท้ายฝากถึงรุ่นน้องที่จะรับภาระต่อจากเขาในการสร้างทีมแบดมินตันมาเลเซียให้ยิ่งใหญ่ต่อไป
สำหรับไทย คำกล่าวของ"ลีชองเหว่ย" น่าสนใจว่าในช่วงหลัง สโมสรต่างๆ เช่น SCG บ้านทองหยอด หรือแม้แต่สมาคมแบดมินตันไทย ได้ส่งนักแบดมินตันรุ่นใหม่ไปแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่างๆในต่างประเทศมากขึ้น จนทำให้"ทีมชาติไทย" มีนักแบดมินตันใหม่เข้ามาให้เลือกมากขึ้น เช่น หญิงเดี่ยว หมิว พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ที่น่าจะขยับมาแทนที่พีซ พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ซึ่งบาดเจ็บและอาจจะต้องเลิกเล่น หรือ "น้องจิว"ภัทรสุดา ไชยวรรณ "น้องวิว"กุลวุฒิ วิทิตศานต์ "น้องไตเติ้ล"รุษฐนภัค อูปทอง |
|
 |
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ "ลีชองเหว่ย" พูดถึงและฝากเป็นข้อคิด คือ
"แม้หลายคนจะมีคุณภาพ แต่ระบบการฝึกสอนยังปล่อยให้พวกเขาขาดจิตวิญญาณการต่อสู้และความปรารถนาที่จะชนะ" ซึ่งต่างจากสมัยที่เขาเล่น ที่จะถูกถามเพื่อกระตุ้นตัวเองก่อนลงสนามว่ามุ่งมั่นที่จะชนะแค่ไหน ขณะที่ "ผู้เล่นยุคใหม่มีรายได้มากมายแต่ขาดการกระตุ้นให้มุ่งมั่นเพื่อคว้าแชมป์"
(ดอกปีกไก่)