ชื่อของ"บาส-ปอป้อ" ทำให้แฟนแบดมินตันไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังคว้าแชมป์แบดมินตันระดับ Grand Prix Gold ในรายการ  Swiss Open 2017 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยเอาชนะ Praveen Jordan และ Debby Susanto คู่มือ 8 ของโลกจากอินโดนีเซีย 21-18 และ 21-15

ที่สำคัญก็คือ ก่อนหน้านั้น ในรอบรองชนะเลิศ "บาส-ปอป้อ" ก็เอาชนะ Zheng Siwei กับ Chen Qingchen เต็งหนึ่งและคู่มือ 1 โลกมาแบบสุดทัน 2-1 เกม 21-19 ,13-21 และ 21-19
 

แม้จะเป็นแชมป์แรกของทั้งคู่ในรายการระดับ Grand Prix Gold แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี และอาจจะชดเชยการขจาดหายไปของ"คู่อมตะ" ประเภทคู่ผสมของไทย หลังจาก"นินจาเต่า-หมวดส้ม" สุดเขต ประภากมล กับ สราลีย์ ทุ่งทองคำ ต้องเลิกราเพราะ"หมวดส้ม" ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่คู่ของ"อาท-เอ็มเอ็ม" บดินทร์ อิสระ กับ สาวิตรี อมิตรพ่าย ก็ไม่ค่อยจะได้ลงแข่งขันบ่อย เพราะอาท มีอาการบาดเจ็บเรื้อรังประเภท 3 วันดี 4 วันไข้

"บาส-ปอป้อ" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย จึงเป็นคำตอบนั้น

ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รันตชัย เป็น"รุ่นพี่" และสร้างชื่อมาก่อน โดยเริ่มเล่นในประเภทหญิงเดี่ยว และเริ่มคุ้นหูแฟนๆแบดมินตัน เมื่อคว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยวในการแข่งขัน Youth Olympic Games ในปี 2010 เมื่อเอาชนะ Deng Xuan จากจีนในรอบชิง 21-14, 21-17 แต่ได้รองแชมป์ Asia Junior Championships ในปีเดียวกัน เมื่อพ่าย Di Suo นักแบดมินตันเยาวชนหญิงจากจีนอีกคนในรอบชิง 13-21, 11-21

และเมื่อก้าวขึ้นมาเล่นระดับทีมชาติชุดใหญ่ "ปอป้อ" สามารถคว้าแชมป์รายการ BWF Grand Prix ของสหพันธ์แบดมินตันโลก หรือ Badminton World Federation (BWF) โดยเป็นแชมป์หญิงเดี่ยวการแข่งขัน U.S. Open ในปี 2013 เมื่อเอาชนะ Yuka Kusunose สาวนักตบลูกขนไก่จากญี่ปุ่น 21-12, 21-13 
 

ส่วน"แชมป์" รายการแรกในชีวิตนักแบดมินตันทีมชาติของปอป้อ คือการแข่งขันระดับ International Challenge คือแชมป์หญิงเดี่ยว Malaysia International ในปี 2009 เมื่อเอาชนะรุ่นน้องเพื่อนร่วมชาติ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ ในรอบชิง 21-11, 19-21, 22-20

นอกจากนั้น "ปอป้อ" ยังลงเล่นในประเภทหญิงคู่ โดยในตอนแรก เล่นคู่กับ"เอ็มเอ็ม" สาวิตรี อมิตรพ่าย และเคยคว้าแชมป์รายการ Syed Modi International ที่ประเทศอินเดียในปี 2012 โดยชนะ Komala Dewi กับ Jenna Gozali จากอินโดนีเซียในรอบชิง 21-12, 21-6 และเป็นรองแชมป์ Australian Open ในปี 2013 และเมื่อเปลี่ยนมาเล่นคู่กับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล ทั้งคู่ก็ยังคงมีผลงานดีต่อเนื่อง สามารถเข้าชิงหลายรายการ และเคยร่วมกันคว้าแชมป์รายการ SCG Thailand Open 2016 โดยชนะ Mayu Matsumoto กับ Wakana Nagahara จากญี่ปุ่น 21-12, 21-17
 

ต่อมา สตาฟฟ์โค้ชได้ให้"ปอป้อ"ลงสนามประเภทคู่ผสมใหม่ จากที่เคยเล่นกับ"เอ" มณีพงษ์ จงจิตร ที่ต้องเลิกเล่นเพราะอาการบาดเจ็บ โดยให้จับคู่กับ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และสามารถสร้างผลงานได้ในระดับที่น่าพอใจ และเคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศมาแล้ว 3 รายการ แต่ยังไม่เคยคว้าแชมป์ นั่นคือ Syed Modi International ในปี 2016 , Korea Masters ในปี 2016 และรายการ Princess Sirivannavari Thailand Masters 2017 เมื่อต้นปี

ก่อนจะมาคว้าแชมป์รายการแรกคือ Swiss Open พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันหญิงคนแรกที่ได้แชมป์ Grand Prix Gold ครบ 3 ประเภทคือหญิงเดี่ยว หญิงคู่ และคู่ผสม  
 

ส่วน"บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ก็ไม่ใช่มาแบบโชคช่วย โดยเป็นที่รู้จักของแฟนๆ เมื่อจับคู่กับ "สกาย"  กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คว้าแชมป์ชายคู่ในการแข่งขันแบดมินตันเยาวชนโลก หรือ BWF World Junior Championships 2014 ที่เมืองอลอร์สตาร์ มาเลเซีย ด้วยการเอาชนะ Masahide Nakata กับ  Katsuki Tamate คู่ชิงจากญี่ปุ่น 21-16, 21-18

อย่างไรก็ตาม ชายคู่"บาส-สกาย" ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก อาจจะเป็นเพราะอายุและประสยบการณ์ยังไม่มาก โดยเคยเข้าชิงแชมป์เพียงรายการระดับ International Challenge แค่ 2 ครั้งและพ่ายทั้ง 2 หนคือ Smiling Fish International หรือแบดมินตันปุ้มปุ้ยในปี 2014 และ Polish Open 2016
 

ส่วนคู่ผสมนั้น ตอนเล่นทีมเยาวชน "บาส" เคยถูกสตาฟฟ์โค้ชให้ลงเล่นกับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล ในการแข่งขัน Asian Youth Games ในปี 2013 แต่ได้แค่รองแชมป์ ก่อนจะมาลงตัวและเล่นได้ดีกับปอป้อ ในทุกวันนี้

ในวัยเพียง 19 สำหรับบาส และ 24 สำหรับปอป้อ ถือว่ายังมีโอกาสมากมายที่จะพัฒนาฝีมือ หลังจากเริ่มนับหนึ่งด้วยการคว้าแชมป์ที่สวิตเซอร์แลนด์ และอันดับโลกก็ขยับมาอยู่ที่ 11 และพรุ่งนี้(29มี.ค.) ส่งใจเชียร์"บาส-ปอป้อ" ลงแข่งขันซูเปอร์ซีรีส์รายการ YONEX SUNRISE India Open ในฐานะคู่มือวางอันดับ 5 ประเภทคู่ผสม โดยจะลงดวลกับ KIM Gi Jung และ SHIN Seung Chan จากเกาหลี

ส่งใจไปเชียร์พร้อมกัน ให้ทั้งคู่คว้าชัยและคว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์