งง..ไร้เงานักแบดไทยศึกซูเปอร์ซีรีส์ที่เกาหลี
วันนี้ (23ก.ย.) ในการแข่งขันแบดมินตันซูเปอร์ซีรีส์รายการ Yonex Open Japan 2015 ปรากฏว่านักแบดไทยตกรอบหมด ทำให้รายการนี้ในรอบรองชนะเลิศ จะไม่มีนักแบดจากไทยลงสนามแม้แต่คนเดียว
แต่สิ่งที่แฟนแบดมินตันไทยตั้งคำถาม ไม่ใช่เรื่องการแข่งขันที่ญี่ปุ่น หากแต่เป็นการแข่งขันแบดมินตันรายการต่อไปที่เกาหลี นั่นคือรายการซูเปอร์ซีรีส์ต่อจากที่ญี่ปุ่น คือ Victor Korea Open 2016 ที่จะแข่งขันระหว่างวันที่ 27 กันยายน-2 ตุลาคม เพราะปรากฏว่า ไม่มีนักแบดมินตันไทยลงแข่งขัน..ทั้งๆ ที่รายการนี้เป็นรายการระดับซูเปอร์ซีรีส์
แฟนแบดมินตันไทยตั้งกระทู้ถามกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ส่งนักแบดไปแข่งขัน”รายการใหญ่” ที่จะพิสูจน์ว่านักแบดไทยฝีมือระดับไหน เพราะตรวจสอบรายชื่อแล้ว พบว่ามีนักแบดไทยไปแข่งขันเพียง 2 คน
หนึ่งคือเมย์ รัชนก อินทนนท์ ที่ถูกวางเป็นมือ 3 ประเภทหญิงเดี่ยว และมีโปรแกรมลงแข่งรอบแรกพบ Hsu Ya Ching จากไต้หวัน ส่วนอีกคนคือ ตะวัน ปัณณวิชย์ ทองน่วม ที่จะต้องลงเล่นชายเดี่ยวรอบคัดเลือกกับ Kim Min Ki จากเกาหลี
ส่วนนักแบดมินตันไทยที่มีฝีมือติดอันดับโลกและไปร่วมแข่งขันที่ญี่ปุ่นกลับไม่มีชื่อไปแข่งที่เกาหลี
คำถามของแฟนแบดมินตันไทยจึงเหมือนกัน นั่นคือเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ไปแข่งขันรายการใหญ่ ที่นักแบดทั่วโลกมีโอกาสเจอ ”ของจริง” ที่จะได้รู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าพร้อมหรือยัง
ขนาดประเทศที่ไม่มีนักตบลูกขนไก่มือดี ยังตัดสินใจส่งและลงแข่งตั้งแต่รอบคัดเลือก เพราะนี่คือโอกาส ”วัดฝีมือ” ของพวกเขา ว่าหากต้องเจอ”บิ๊กเนม”แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ฟอร์มการเล่นจะเป็นอย่างไร
หากมีคำตอบว่า การที่นักแบดมินตันไทยไม่ไปแข่งขันที่เกาหลีเพื่อเก็บตัวสำหรับแข่งขัน SCG Thailand Open ก็ดูจะตอบแบบกำปั้นทุบดินมากเกินไป นี่ไม่ใช่เหตุผลที่น่ารับฟัง เพราะเมื่อมองถึงการจัดการและบริหารสมาคม น่าจะถึงเวลาแล้วที่”นักแบดทีมชาติไทย” จะต้องแบ่งเป็น 2 หรือ 3 ชุด
ชุดใหญ่ คือชุดที่ไปแข่งญี่ปุ่น ก็ต้องเป็นชุดที่ลงแข่งซูเปอร์ซีรีส์ หรือ กรังด์ปรีซ์ โกลด์ ตามมาด้วยชุดสอง เตรียมตัวไปแข่งขันระดับ กรังด์ปรีซ์ และปิดท้ายด้วย”ชุดเล็ก” หรือนักแบดมินตัน”มือใหม่” ที่สมาคมฯจะต้องหาทางส่งไปแข่งขันเพื่อหาประสบการณ์รายการระดับอินเตอร์เนชั่นแนล
นี่คือการบริหาร ”ทีมแบดมินตัน” ที่สมาคมแบดมินตันชาติต่างๆ ทำงานกัน
เมื่อมองถึงจุดนี้ โปรแกรมการแข่งขันและรายชื่อที่ออกมา ซี่งเป็นครั้งแรกของการแข่งขันระดับซูเปอร์ซีรีส์ที่ ”ไร้เงา” นักแบดมินตันไทย จึงถือเป็นเรื่องที่เรื่อง ”น่าเสียดายมาก” ที่นักแบดมินตันระดับโลกของไทย อดไปพิสูจน์ฝีมือหลังการฝึกซ้อมมาอย่างหนัก
อดไปแข่งขันเพียงเพราะขาดการจัดการและบริหารทีมแบบ ”มืออาชีพ”
(ดอกปีกไก่)