ถึงตอนนี้ วงการแบดมินตันโลกยังต้องการความชัดเจนว่า"ลีชองเหว่ย" Lee Chong Wei นักแบดมินตันชายเดี่ยวหมายเลข 1 ของโลก จะไปร่วมแข่งขันโอลิมปิก 2020 หรือไม่ เนื่องจากในตอนนั้น เขาจะอายุมากถึง 37-38 ปี ซึ่งถือว่า"อายุมาก"สำหรับการลงแข่งแบดมินตันที่ทุกวันนี้ เร็วและแรงมาก
 

แต่คำถามนี้ ยังมีต่อเนื่อง ทั้งๆที่เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 3 สมัยซ้อนจากมาเลเซีย เคยบอกว่า รายการสุดท้ายที่เขาจะลงสนามคือศึกชิงแชมป์โลก 2017 ที่กลาสโกว์ สก๊อตแลนด์ ในเดือนสิงหาคมนี้ "ลีเขาถูกถามบ่อยมากเกี่ยวกับแผนการไปแข่งโอลิมปิก 2020 ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจ" เฮนดราวัน Hendrawan โค้ชชาวอินโดฯของนักแบดมือ 1 โลกจากมาเลย์บอก และว่า ตัวเขาเองก็เคยบอกลีชองเหว่ยว่า ในปีนี้ ให้ตั้งเป้าไปยังรายการชิงแชมป์โลกก่อนคิดเรื่องอื่น  "ถ้าเขาได้แชมป์โลกปีนี้ ทุกคนคงหมดข้อสงสัย"

โค้ช Hendrawan ยอมรับว่า "เทพลี" ก็รู้ดีว่าเขากังขากับสภาพร่างกายของเขาตั้งแต่จบโอลิมปิกเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ได้เหรียญเงินสมัยที่ 3 ก่อนจะไปคว้าแชมป์ Super series ครั้งที่ 44 ของเขาในการแข่งขันJapan Open เมื่อเดือนตุลาคม และมี"อาการ"บางอย่างเกิดขึ้น ตั้งแต่การตกรอบ quarter-final ที่เขาพ่าย Brice Leverdez ในรายการ Denmark Open ในเดือนตุลาคมจนต้องถอนตัว French Open ในสัปดาห์ถัดมา และตกรอบแรกในการแข่งขัน BWF Superseries Finals ที่ดูไบ ซึ่งลีชองเหว่ยได้ขอคุยส่วนตัวแบบเปิดใจกันกับโค้ช Hendrawan 
 
"ลียอมรับว่าเขาเหนื่อย และบอกผมว่า "โค้ช ..ผมแก่แล้วจริงๆ ตอนโค้ชเลิกเล่น โค้ชอายุเท่าไร" ซึ่งผมบอกเขาไปว่า ผมเลิกเล่นเพราะบาดเจ็บ ผมเจ็บง่ายจนหมดแรงจูงใจที่จะเล่นต่อ" Hendrawan เปิดเผย
 

ยอดโค้ชชาวอินโดฯบอกด้วยว่า เขาย้ำกับลีชองเหว่ย ว่า"เทพลี" ต่างกับเขา ลีชองเหว่ยยังฟิตและที่สำคัญคือยังมีไฟที่จะลงสนาม "เป้าหมายของเขาในตอนนี้คือคว้าแชมป์โลกครั้งแรกให้ได้ ซึ่งผมเชื่อว่านั่นไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ หากเขายังรักษาความฟิตแบบนี้ได้ และผมย้ำกับเขาว่าผมสนับสนุนเขาทุกอย่าง" จบศึกชิงแชมป์โลกปีนี้ อาจจะมีคำตอบชัดเจนขึ้นว่า"เทพลี" จะไปโอลิมปิก 2020 หรือไม่