การแข่งขันแบดมินตันในกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่ Porte de la Chapelle Arena ในมหานครปารีส ที่เสร็จสิ้นลงไปแล้ว โดยถือเป็นความสำเร็จของไทย เพราะเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาสามารถทำเหรียญรางวัลได้ และเป็นเหรียญเงิน ทำให้ไทยเป็นอันดับ 5 ของโลกรองจากจีน เกาหลี เดนมาร์กและไต้หวัน เหนือกว่ามาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่ทำได้แค่เหรียญทองแดง ส่วนอินเดียกลับมบ้านมือเปล่า
การได้เหรียญรางวัลแบดมินตันโอลิมปิกครั้งนี้ ทำให้ประเทศไทยเป็นชาติที่ 13 ที่ได้เหรียญรางวัลจากแบดมินตันในกีฬาโอลิมปิก ต่อจาก จีน, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, เดนมาร์ก, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, สเปน, มาเลเซีย, สหราชอาณาจักร, อินเดีย, เนเธอร์แลนด์ และ รัสเซีย รวมทั้งเป็นกีฬาแรกต่อจากมวยสมัครเล่น เทควันโดและยกน้ำหนัก ที่เป็น 3 กีฬาที่ทำเหรียญให้ประเทศไทยในโอลิมปิก
จบปารีส 2024 อีกสี่ปีจะเป็นแอลเอ 2028 เรามาดูว่าแบดมินตันไทยพร้อมแค่ไหน เพราะความสำเร็จครั้งนี้ ไม่ควรแค่จดจำ แต่ควรจะเป็นบันไดให้เราเดินขึ้นไปสูงกว่านี้ และที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ โอลิมปิก 2028 ที่ลอส แองเจลีส นักแบดมินตันไทยแทบจะเปลี่ยนตัวแทบจะยกชุด
|
|
เริ่มจากชายเดี่ยว ที่”วิว”กลุวุฒิ วิทิตศานต์ สร้างประวัติศาสตร์ต่อจากการเป็นแชมป์โลกชายเดี่ยว ก็เป็นนักกีฬาแบดมินตันไทยคนแรกที่ได้เหรียญรางวัล และในวัย 23 ปีนี้ที่หมายถึงอีก 4 ปีข้างหน้าจะอายุ 27 ถือเป็นช่วงพีคสูงสุดของนักกีฬาที่จะเป็นช่วงอายุ 25-27 ทำให้หากไม่เกิดอะไรขึ้น”วิว”น่าจะเป็นเต็งหนึ่งของการแข่งขัน |
เนื่องจากคู่แข่งคนสำคัญคือ Viktor AXELSEN ที่อายุ 30 ก็อาจจะไม่สามารถรักษาความสดของร่างหายในอีก 4 ปีข้างหน้าในวัย 34 ส่วน SHI Yu Qi มือหนึ่งโลกจากจีนก็ตัดสินใจไม่ไปแล้ว ขณะที่ Jonatan CHRISTIE และ Anthony Sinisuka GINTING สองผู้เล่นอินโด อีกสี่ปีจะอายุ 30 และ 31 ที่เลยจุดพีคไปแล้ว หรือแม้แต่ Anders ANTONSEN ที่แม้นักกีฬายุโรปจะรักษาสภาพร่างกายได้ดี แต่ก็จะ 31 ในอีก 4 ปีข้างหน้า |
|
|
|
|
คู่แข่งของ”วิว”ในอีก 4 ปีข้างหน้าก็จะมี LEE Zii Jia จากมาเลเซีย รวมทั้งเพื่อนร่วมรุ่นทั้ง LI Shi Feng จากจีน Kodai NARAOKA จากญี่ปุ่น และ Lakshya SEN ที่เคยแข่งขันกันมาตั้งแต่ศึกเยาวชนโลก |
การบ้านชายเดี่ยวของไทยจึงมีเพียงต้องเร่งให้“อิคคิว”พณิชพล ธีระรัตน์สกุล ที่ตอนนี้อยู่อันดับ 68 ต้องเร่งทำอันดับเพื่อลงแข่งขันระดับสูงขึ้น ส่วน”กัน”กันตภณ หวังเจริญ มือ 40 ของโลก คงต้องยอมรับว่าคงยากที่จะคืนฟอร์มเหมือนตอนอายุยังไม่มาก
|
|
ในประเภทหญิงเดี่ยว โอลิมปิก 2028 น่าจะเป็นการ”เปลี่ยนยกชุด” เพราะ”เมย์”รัชนก อินทนนท์ จะมีอายุ 33 ในปี 2028 ที่คงไม่สามารถแข่งขันได้ ขณะที่”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะอายุ 30 “ครีม”บุศนันทน์ อึ้งบำรุงพันธ์ ก็จะ 32 ในปีนั้น ส่วน”เม”ศุภนิดา เกตุทอง ก็ใกล้เคียงกัน |
นักกีฬาหญิงเดี่ยวของไทย การบ้านจึงต้องเป็นการเร่งพัฒนาผลงานของ“พิงค์”พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ , "แครอท" พรพิชชา เชยกีวงศ์ และ“มินนี่” ธมนวรรณ นิธิอิทธิไกร รวมถึง”ส้ม”สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ ให้ทำอันดับเพื่อไปแข่งขันระดับโลกให้ได้ |
|
|
เพราะหญิงเดี่ยวในอีก 4 ปีข้างหน้า ยังมี AN Se Young แชมป์ปีนี้เป็นเต็งหนึ่ง รวมทั้ง Gregoria Mariska TUNJUNG เจ้าของเหรียญทองแดงจากอินโด แถม WANG Zhi Yi ดีกรีแชมป์เอเชียที่จะขยับมาเป็นตัวแทนจีน Tomoka MIYAZAKI แชมป์เยาวชนโลกจากญี่ปุ่นที่พัฒนาเร็วมาก Ester Nurumi Tri WARDOYO ดาวรุ่งอินโดนีเซีย ที่ทุกคนได้มีโอกาสลงสนามเจอมือดีมาแล้ว รวมทั้งนักกีฬาอินเดียอีกหลายคน |
|
|
งานหญิงเดี่ยวจึงยากกว่าที่จะจินตนาการได้
|
|
ในประเภทชายคู่ ที่จบจาก”เอ็ม-สกาย”สุภัค จอมเกาะ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน ก็จะผลัดใบสู่รุน่ใหม่อย่าง"ภีม-ทีม" ภรัณยู ขาวสำอาง / วรพล ทองสง่า หรือ"พี-โอโม่" พีรัชชัย สุขพันธ์ / พรรคพล ธีระรัตน์สกุล ที่สมาคมต้องเร่งส่งไปแข่งขันเพื่อทำอันดับให้สามารถลงแข่งขันระดับใหญ่โดยเร็ว |
เพราะอีก 4 ปีข้างหน้า ชายคู่ยังมี LIANG Wei Keng / WANG Chang เจ้าของเหรียญเงินจากจีนเป็นเต็งหนึ่ง และอาจจะต้องรอดูการสลับคู่ของเกาหลีและอินโดนีเซียว่าจะเป็นแบบไหน ขณะที่ Satwiksairaj RANKIREDDY / Chirag SHETTY ต้องรอลุ้นว่าอีก 4 ปีจะยังรักษาสภาพร่างได้ไหวแค่ไหน ส่วนยุโรปก็ถึงการเปลี่ยนยุค |
|
|
|
|
ประเภทหญิงคู่ ต้องทำใจว่า”กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ ทำผลงานดีที่สุดคือการเข้าร่วม 2 สมัยที่โตเกียวกับปารีส โอลิมปิกแอลเอ 2028 จึงเปลี่ยนเป็นยุคใหม่อย่าง”มูนา-อันนา”เบญญาภา เอี่ยมสอาด / นันทกาญจน์ เอี่ยมสอาด และคู่"เกน-จ๋อมแจ๋ม" ลักษิกา กัลป์ละหะ / ผไทมาส เหมือนวงศ์ |
ขณะที่การเปลี่ยนแปลงของคู่แข่งที่มีแน่นอนคือเกาหลี ที่จะมีการเปลี่ยนคู่เพราะปารีส 2024 ถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ส่วน CHEN Qing Chen / JIA Yi Fan เจ้าของเหรียญทองจากจีน รายการที่ญี่ปุ่นมีการสลับคู่ จะเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศหรืออะไรก็ต้องรอดู แต่ที่แน่ๆคือ LIU Sheng Shu / TAN Ning กับ Nami MATSUYAMA / Chiharu SHIDA เหรียญเงินและเหรียญทองแดงครั้งนี้จะยังไปร่วมแข่งขันแน่นอน
ปิดท้ายที่คู่ผสม แม้”ปอป้อ”ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ประกาศว่าอีก 4 ปีจะยังคงคู่กับ”บาส”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ไปแข่งขันโอลิมปิก 2028 แต่อย่าลืมว่าในอีก 4 ปี “ปอป้อ”ที่ตอนนี้อายุ 32 จะยังกระโดดไหวหรือไม่ การบ้านจึงต้องเร่งสร้าง"ไตเติ้ล-เจน" รุษฐนภัค อูปทอง / เฌอย์นิชา สุดใจประภารัตน์ ที่เป็นคู่มือ 3 ของไทยที่มีอันดับ 26 ขณะที่คู่”เอ็ม-เฟม”สุภัค จอมเกาะ / ศุภิสรา เพียวสามพราน ที่อยู่อันดับ 24 ก็น่าสนใจว่า SCG จะทดลองเปลี่ยนคู่หรือไม่ |
|
|
แต่อีก 4 ปีข้างหน้าจีนจะมี JIANG Zhen Bang / WEI Ya Xin เป็นตัวแทนแน่นอน แต่จะมาแทนใครคือการบ้านที่โลกรอผลสรุปจากแผ่นดินใหญ่
โอลิมปิก 2024 ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกของแบดมินตันไทย อีก 4 ปีที่แอลเอ เวลาจึงไม่น้อยที่จะพัฒนานักกีฬาขึ้นมาแทนที่รุ่นเก่า แต่สำหรับกีฬา เวลา 4 ปีก็ไม่มากพอสำหรับการพัฒนาแบบก้าวกระโดด
การบ้านนี้จึงหนักพอสมควร เพราะโอลิมปิก 2028 ไทยควรจะมีเหรียญมากกว่าหนึ่งเหรียญ
cr
.รูปภาพบางส่วนจาก Badmintonphoto