ในปี 2024 กล่าวได้ว่า รายการสำคัญที่สุดของนักแบดมินตันทั่วโลกคือโอลิมปิก 2024 ที่มหานครปารีส ประเทศฝรี่งเศส ที่จะจัดการแข่งขันในวันที่ 23 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม ส่วนโปรแกรมแบดมินตันนั้น กำหนดจัดแข่งขันวันที่ 27 กรกฎาคมถึง 5 สิงหาคม ที่ปอร์ต เดอ ลา ชาแปล อารีน่า ที่จะมีนักแบดมินตันเข้าแข่งขันทั้งหมด 172 คน โดยแบ่งชายและหญิงเท่ากัน เพื่อชิงเหรียญรางวัล 5 รายการ 

การแข่งขันที่จะมี 4 ปีครั้ง ทำให้นี่คือเป้าหมายสูงสุดของนักกีฬา โดยในส่วนของไทยนั้น ยังไม่เคยมีเหรียญรางวัลใดๆ ขณะที่ประเทศอย่างมาเลเซีย ก็มีเหรียญรางวัลมาแล้วทั้งเหรียญเงินและเหรียญทองแดง แต่ยังไม่มีเหรียญทอง ที่ถือเป็นเป้าหมายใหญ่ของสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย
 

สำหรับการแข่งขันโอลิมปิก กำหนดให้แต่ละชาติได้โควตาสูงสุดประเภทละไม่เกิน 2 คนหรือ 2 คู่ โดย”มือวาง”ของการแข่งขัน จะเป็นนักกีฬาที่ได้โควตาอัตโนมัติ คือนักกีฬาประเภทเดี่ยว 16 อันดับแรกที่จะให้ 8 อันดับแรกเป็นมือวาง 1-8 ของการแข่งขัน ขณะที่ประเภทคู่ 3 ประเภท จะให้สิทธิอัตโนมัติกับนักกีฬาที่ติด 8 อันดับแรก ส่วนหลังจากนั้นก็จะได้โควตาตามสิทธิ์ของประเทศและทวีป แต่ชาติที่มีนักกีฬาแล้วจะไม่ได้สิทธิ์

สำหรับนักกีฬาไทยนั้น การแข่งขันรายการแรกของปี คือ PETRONAS Malaysia Open 2024 ที่รายการใหญ่สุดระดับ Super 1000 ที่กรุง Kuala Lumpur ประเทศมาเลเซีย นักกีฬาทุกคนจะต้องทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อเก็บคะแนนสะสม Olympic Games Qualification ที่จะไปสิ้นสุดในเดือนเมษายนนี้
 

โดยคะแนน Olympic Games Qualification ของนักกีฬาไทยนับถึงขณะนี้ ตามอันดับล่าสุดที่ประกาศสัปดาห์แรกของปี 2024 วันที่ 2 มกราคม ในประเภทชายเดี่ยว”วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ อันดับ 7 ของโลกและได้โควตามที่ 7 ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับการไปปารีส แต่ที่สำคัญคือจะต้องทำอันดับติด 1-8 เพื่อเป็นมือวาง

ในประเภทหญิงเดี่ยว “เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่อันดับโลกร่วงไปที่ 13 เพราะไม่ได้ลงสนามปลายปี แต่คะแนนไปโอลิมปิกอยู่ที่ 11 จึงต้องเร่งทำคะแนนเพื่อติด 1-8 ในการเป็นมือวางของการแข่งขัน ตามด้วย”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 15 โลกที่ได้โควตาคนที่ 13 ที่ได้ไปแข่งขัน
   
ส่วนอีก 2 คนที่ยังมีโอกาส คือ”เมย์”ศุภนิดา เกตุทอง ที่อันดับโลกอยู่ที่ 17 และ”ครีม”บุศนันทน์ อึ้งบำรุงพันธ์ ที่อันดับโลกอยู่ที่ 19 ที่หากยังต้องการไปแข่งขันโอลิมปิก ก็จะต้องทำผลงานให้ดีเพื่อแซง”หมิว”ที่ได้โควตา 13 หรืออาจจะถึงขึ้นแซง”เมย์”รัชนกเพื่อติด 2 คนแรกของไทย
   

ประเภทชายคู่ “เอ็ม-สกาย”สุภัค จอมเกาะ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน อันดับโลกอยู่ที่ 31 แต่ได้โควาตาที่ 12 เพราะอันดับที่ดีกว่าคู่ไทย มีนักกีฬาจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวันมากกว่า 2 คู่

 

ประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ อยู่อันดับ 10 ของโลก ได้โควตาที่ 8 ที่จะได้เป็นมือวาง ขณะที่ “มูนา-อันนา”เบญญาภา เอี่ยมสอาด / นันทกาญจน์ เอี่ยมสะอาด อันดับโลกอยู่ที่ 14 และอาจจะยากสำหรับการชิงโควตาเพราะต้องติด 1-8  แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้

 

ปิดท้ายคู่ผสม”บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย อันดับโลกอยู่ที่ 5 และได้โควตาที่ 5 ส่วน”เอ็ม-เฟม”สุภัค จอมเกาะ / ศุภิสรา เพียวสามพราน อันดับโลกอยู่ที่ 17 และต้องยอมรับว่าเป็นงานยากที่จะได้ไปแข่งขันเพราะจะต้องทำอันดับไปติดที่ 1-8 ของคะแนนสะสม

การแข่งขันรายการแรกที่มาเลเซียในสัปดาห์หน้า จึงเป็นงานแรกและงานหนักของนักกีฬาไทยเพราะเป็นรายการ Super1000 ที่นักกีฬามือทอปจะมาแข่งขัน และจะต้องทำผลงานได้ดี ซึ่งการแข่งขันปีก่อน นักกีฬาไทยคือชายเดี่ยว”วิว”กุลวุฒิ และ”บาส-ปอป้อ”ในประเภทคู่ผสม ทำผลงานดีที่สุดคือเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ

ร่วมกันเชียร์นักกีฬาไทย ที่ไม่ใช่แค่รายการนี้ แต่เป็นทุกรายการเพื่อเป้าหมายโอลิมปิก