รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
เป้าหมายนักกีฬาไทย 2024
  28 ธ.ค. 2566
แบ่งปัน


​​​ในปีหน้า 2024 ถือว่ามีรายการใหญ่ นั่นคือการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นรายการใหญ่ที่นักกีฬาไทยยังไม่เคยมีเหรียญรางวัลใดๆเลย ทีทำให้ยังเป็นรายการที่นักกีฬาแบดมินตันไทยต้องมุ่งมั่นเป็นพิเศษ ต่างจาก”แชมป์โลก” ที่เรามีมาแล้ว 3 ประเภท
 



มาดูโอกาสในรายการโอลิมปิก เริ่มตั้งแต่ชายเดี่ยว ที่แน่นอนว่า “วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์โลกคนปัจจุบันที่อันดับโลกร่วงไปอยู่ที่ 7 เพราะมีปัญหาสภาพร่างกายและความฟิตหลังจากคว้าแชมป์โลกที่ทำให้ไม่มีแชมป์อะไร ซึ่งหากไม่มีปัญหาเรื่องร่างกาย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาว่ามีโอกาสไปแข่งขันหรือไม่
 

​​​​​​
ส่วนชายเดี่ยวอีกคนคือ”กัน”กันตภณ หวังเจริญ อันดับโลกร่วงไปอยู่ที่ 36 ที่หมายถึงยังมีโอกาสแข่งขันรายการใหญ่ แต่ปัญหาคือในปีนี้ เป็นปีที่”กัน”ฟอร์มตกจนผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอันอะไร มักจะตกรอบแรกไม่ว่าจะเจอมือดีหรือมือรอง และหากไม่ฟื้นฟูจิตใจเพื่อคืนฟอร์มเก่ง โอกาสที่จะไปโอลิมปิกชายเดี่ยวคนที่ 2 ก็ถือว่ายากสุดๆ
 


ในประเภทหญิงเดี่ยว “เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่ตัดสินใจ”พัก”เพื่อให้ห่ายขาดจาดอาการบาดเจ็บจนไม่ลงแข่งขันและอันดับโลกร่วงไปอยู่ที่ 13 ก็ยังมีโอกาสมากที่สุดในบรรดาสาวไทย เพราะฟอร์มการเล่นของ”เมย์”ยังอยู่ในระดับโลก แถมคะแนนโอลิมปิกก็อยู่อันดับ 11 ที่ดีกว่านักกีฬาที่อันดับโลกดีกว่าเธอบางคน


ส่วนหญิงเดี่ยวที่เหลือ ทั้ง”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ที่อันดับโลกอยู่ที่ 13 “เมย์”ศุภนิดา เกตุทอง อันดับโลกที่ 17 และ”ครีม”บุศนันทน์ อึ้งบำรุงพันธ์ ที่ร่วงไปอยู่ 26 ก็ต้องแย่งโควตาที่ 2 กันเอง โดย”หมิว”ยังมีโอกาสเพราะ Olympic Games Qualification นับถึงตอนนี้อยู่อันดับ 13 ที่หมายถึงได้ไปร่วมแข่งขันในฐานะอันดับ 2 ของหญิงเดี่ยวไทย
 


ประเภทชายคู่ เป็นประเภทที่ไทยยังไม่มีนักกีฬาระดับโลก และอันดับของ”เอ็ม-สกาย” สุภัค จอมเกาะ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน ที่อันดับโลกอยู่ที่ 31 ก็ยังมีโอกาสเล็กๆ เพราะ Olympic Games Qualification อยู่ที่ 12 ของตาราง


ประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ ที่อันดับโลกอยู่ที่ 10 ก็ได้ไปในโควตาอันดับ 8 ที่หมายถึงเป็นมือวางของการแข่งขัน ขณะที่คู่”มูนา-อันนา”เบญญาภา เอี่ยมสอาด / นันทกาญจน์ เอี่ยมสอาด ที่อันดับโลกอยู่ที่ 14 ต้องยอมรับว่า”ยาก”ในการขยับไปติด 8 อันดับโลกเพื่อโควตาที่ 2 เพราะหญิงคู่ในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่นักกีฬาจีน ญี่ปุ่นและเกาหลี แย่งชิงกัน


ปิดท้ายคู่ผสม ที่”บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่อยู่อันดับ 5 และได้ไปในโควตาที่ 5 ก็น่าจะยังได้สิทธิ์ ที่คงเป็นการไปโอลิมปิกครั้งสุดท้ายเพราะ”ปอป้อ”อายุมากเกินที่ลงสนามในครั้งต่อไป ขณะที่”เอ็ม-เฟม”สุภัค จอมเกาะ / ศุภิสรา เพียวสามพราน น่าเสียดายที่ช่วงหลังฟอร์มตกจนอันดับโลกร่วงไปอยู่ที่ 17
 
การจะได้สิทธิ์มากน้อยแค่ไหน จะอยู่ที่ผลงานนักกีฬาไทยที่จะสรุปว่าเดือนเมษา ว่าจะทำผลงานในปีหน้าได้ดีแค่ไหน ที่ทุกคนทุกคู่ จะต้องเร่งโชว์ฟอร์มเพื่อไปรายการใหญ่ที่สุดของปีที่ฝรั่งเศส 
 
โดยรายการแรกของปี 2024 ก็คือ Malaysaia Open รายการระดับ Super 100 ในวันที่ 9 มกราคม ในประเภทชายเดี่ยว”วิว”กุลวุฒิ จะลงสนามรอบแรกพบ Kenta NISHIMOTO จากญี่ปุ่น และหากชนะก็จะเข้ารอบไป 2 ไปพบผู้ชนะระหว่าง”กัน”กันตภฑ หวังเจริญ กับ LIN Chun-Yi นักกีฬาไต้หวัน
 
   
 


ส่วนหญิงเดี่ยวรอบแรกของสาวไทยรอบแรก”เมย์”รัชนก อินทนนท์ พบ KIM Ga Eun จากเกาหลี ขณะที่”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะพบ Yvonne LI จากเยอรมัน ส่วน”เมย์”ศุภนิดา เกตุทอง เจองานหนักคือ Akane YAMAGUCHI มือวาง 3 ของรายการที่พักยาวมาตั้งแต่เอเชี่ยนเกมส์ และ”ครีม”บุศนันทน์ อึ้งบำรุงพันธ์ พบ GAO Fang Jie สาวจีนที่ปีนี้คงได้เห็นลงสนามระดับใหญ่มากขึ้นเพราะทำอันดับโลกขึ้นมาแล้ว


​​​​​​

ประเภทชายคู่ จะมีคู่”เอ็ม-สกาย”สุภัค จอมเกาะ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน พบ GOH Sze Fei / Nur IZZUDDIN จากมาเลเซียที่ไม่ใช่งานง่ายนัก

ประเภทหญิงคู่“กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ จะลงสนามรอบแรกพบ Apriyani RAHAYU / Siti Fadia Silva RAMADHANTI คู่มือวาง 6 จากอินโดนีเซีย ส่วน”มูนา-อันนา”เบญญาภา เอี่ยมสอาด / นันทกาญจน์ เอี่ยมสอาด จะพบ ZHANG Shu Xian / ZHENG Yu ที่ถือว่าเป็นงานหนักของสาวไทยทั้ง 2 คู่ในปีที่ต้องแย่งโควตาโอลิมปิก


ปิดท้ายในประเภทคู่ผสม”บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ในฐานะมือวาง 6 รอบแรกจะเจอ Robin TABELING / Selena PIEK จากเนเธอร์แลนด์ ส่วน”เอ็ม-เฟม”สุภัค จอมเกาะ / ศุภิสรา เพียวสามพราน รอบแรกพบ FENG Yan Zhe / HUANG Dong Ping คู่มือวาง 4 จากจีน ที่ถือว่าเป็นงานยาก
 
2024 จึงเป็นปีที่กองเชียร์ต้องทำหน้าที่”ลมใต้ปีก”เชียร์นักกีฬาไทยทุกคน
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ