ปีที่ผ่านมา นักกีฬาญี่ปุ่นหลายคนแทบจะหายไปจากการเป็นแชมป์ แม้จะยังคงลงสนามแข่งขัน แต่ปัญหามากมายที่โหมกระหน่ำ ทำให้พวกเขาไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่ตั้งใจ แม้จะมีกองเชียร์มากมายเอาใจช่วย โดยเฉพาะ 2 ผู้เล่นเดี่ยวที่เคยสร้างผลงานสุดยอดไว้มากมาย
 

หนึ่งคือ Kento MOMOTA ชายเดี่ยวมือ 38 ของโลก ที่เคยครองบัลลังก์มือหนึ่งและคว้าแชมป์มาแล้วมากมาย รวมทั้งแชมป์โลก 2 สมัย แชมป์เอเชีย 2 สมัย แชมป์ World Tour อีก 16 รายการ และแชมป์ BWF Superseries อีก 4 รายการ

 

อีกหนึ่งคือ Nozomi OKUHARA อดีตแชมป์โลกหญิงเดี่ยวที่ปัจจุบันอยู่อันดับ 26 เหรียญทองแดงโอลิมปิก แชมป์ World Tour 7 รายการ รองแชมป์ 8 รายการ และ 4 แชมป์ BWF Superseries กับ 3 รองแชมป์

วันนี้ทั้งคู่ยังห่างจากฟอร์มเก่งที่เคยมี แต่สิ่งที่ทั้งคู่เป็นแบบอย่างที่นักกีฬาทุกคนควรจะเลียนแบบ คือการต่อสู้ โดยยึดมั่นว่า “ไม่มีความล้มเหลว หากไม่ล้มเลิก” 

 

Kento MOMOTA ที่จะอายุครบ 30 ในปีหน้า ที่เป้าหมายใหญ่สุดก่อนจะเลิกของเขาที่ประกาศชัดเจนคือยังตั้งเป้าจะไปโอลิมปิก 2024 ที่มหานครปารีส ที่ไม่ใช่งานง่ายนักในอันดับปัจจุบัน รวมทั้งอีกปัจจัยคือยังมีนักกีฬาญี่ปุ่นที่อันดับดีกว่าเขาอีกถึง 4 คนคือ Kodai NARAOKA ชายเดี่ยวมือ 2 โลก Kenta NISHIMOTO ที่อันดับโลกอยู่ที่ 12 Kanta TSUNEYAMA มือ 13 โลก Koki WATANABE มือ 23 โลกและ Takuma OBAYASHI ใอ 34 โลก

“การบ้าน” ของ “คิงเคนโตะ” คือนอกจากทำอันดับให้ติด 1 ใน 16 ชายเดี่ยวเมื่อสิ้นสุดการสะสมคะแนนโอลิมปิกแล้ว อีกโจทย์ของเขาคือเขาจะต้องอยู่อันดับ 1 หรือ 2 ของนักกีฬาญี่ปุ่น ที่หมายถึง ”โจทย์หิน” ของอดีตแชมป์โลกที่ไร้เทียมทาน

Kento MOMOTA ชีวิตเหมือนละครน้ำเน่า เพราะขณะกำลังฟอร์มสุดยอด กลับประสบอุบัติเหตุขณะกำลังเดินทางไปสนามบินที่มาเลเซียหลังคว้าแชมป์เพื่อไปแข่งขันต่อที่อินโดนีเซีย จนต้องรับการผ่าตัดถึง 2 ครั้งและต้องหยุดลงสนามไปยาวนาน และเกือบ 2 ปีจึงได้แชมป์แรกหลังเกิดอุบัติเหตุ คือแชมป์ Indonesia Masters ในเดือนพฤศติกายน 2021 หลังจากตกรอบแรกโอลิมปิกที่โตเกียวแบบช้อคโลก
 

ปี 2023 เขาลงเล่น 12 รายการ และเริ่มต้น 7 รายการแรกโดยตกรอบแรก 6 รายการ จนมีเสียงขอให้เลิกเล่นเพื่อรักษาสถิติ แต่สำหรับเขา หากไม่ล้มเลิก ก็ไม่ถือว่าบล้มเหลว ทำให้เขายังเดินหน้าลงแข่งขัน และแม้จะตกรอบแรกอีก 2 รายการ ตกรอบ 2 หนึ่งรายการ แต่สุดท้าย King Kemto สามารถคว้าแชมป์แรกของปีในรายการระดับ Super 500 คือ Korea Masters หลังเอาชนะรุ่นน้อง Koki WATANABE 21-16,21-15 อาการดีใจหลังคว้าแชมป์ Kento MOMOMTA สื่อสารไปยังแฟนแบดมินตันทั่วโลกว่าเขายังคงสนุกกับการแข่งขันต่อไป

 

ไม่ต่างจาก Nozomi OKUHARA แชมป์โลกหญิงเดี่ยวปี 2017 ที่อันดับโลกเคยร่วงไป อยู่ที่ 30 กว่าเพราะบาดเจ็บหลังคว้าแชมป์ All England 2021 เมื่อเอาชนะ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ในรอบชิง Nozomi ที่เคยมีเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2016 ที่ริโอเป็นรางวัล ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะไปปารีสอีกครั้ง และโจทย์ของเธอก็เหมือน King Kento คือนอกจากจะต้องติดอยู่ที่ 16 อันดับแรกแล้ว ก็จะต้องอยู่อันดับหนึ่งหรือสองของนักกีฬาญี่ปุ่น ที่อาจจะไม่ง่ายนัก แม้ปัจจุบันเธอจะอยู่อันดับ 26 ตามหลังนักกีฬาญี่ปุ่นแค่ 2 คน คือ Akane YAMAGUCHI ที่อยู่อันดับ 3 และ Aya OHORI ที่อยู่อันดับ 16

แต่ปัญหาใหญ่คือ ”ฟอร์ม“ เพราะหลังจากคว้าแชมป์ All England 2021 เธอก็บาดเจ็บหนัก โดยลงแข่งขันโอลิมปิกและตกรอบ ก่อนจะปิดฉากปี 2021 ในรายการที่ 3 ของปีคือตกรอบแรกในศึกชิงแชมป์โลก

ปี 2022 ถือเป็นปีรักษาอาการบาดเจ็บ เพราะ Nozomi OKUHARA ลงแข่งขัน 9 รายการ ตกรอบคัดเลือก 4 รายการและตกรอบแรกกับรอบสองอีก 4 รายการ โดยผลงานดีที่สุดคือเข้าถึงรอบรองรายการเล็กๆคือ HYLO OPEN 2022
 

ปี 2023 ถือเป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อของสาววัย 28 ที่เป็นช่วงท้ายของอาชีพ เพราะเธอมุ่งมั่นลงสนามเรียกความฟิตโดยแข่งขันถึง 18 รายการ และ 16 รายการแรก เธอตกรอบคัดเลือก ตกรอบแรก และตกรอบ 2 ก่อนจะคว้าแชมป์ 2 รายการเล็กๆส่งท้ายปี คือ SYED MODI INDIA INTERNATIONAL 2023 รายการ Super 300 และรายการระดับ Super 100 คือ YONEX-SUNRISE ODISHA MASTERS 2023

อาการดีใจของเธอหลังคว้าแชมป์ ไม่ใช่เพราะได้แชมป์ เพราะ Nozomi เคยได้แชมป์ใหญ่ระดับแชมป์โลกและแชมป์ All England มาแล้ว แต่เป็นการแสดงการขอบคุณตัวเองที่ไม่ยอมแพ้แม้จะมีหลายคนอยากให้เลิกเพราะอาการบาดเจ็บ

Kento MOMOTA และ Nozomi OKUHARA จึงเป็น 2 นักกีฬาแห่งปีที่แสดงความเป็นมืออาชีพว่านักกีฬาจะ ”ไม่ล้มเหลว หากไม่ล้มเลิก“ ที่ทุกคนควรยึดเป็นแบบอย่าง