ปี 2023 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ถือเป็นอีกปีที่นักกีฬาแบดมินตันไทยไปถึงจุดสูงสุดและต่ำสุด ถือเป็นอีกปีแห่งคงามทรงจำที่ดีและเลวร้ายของวงการแบดมินตันไทย

โดยปี 2023 จุดสูงสุดของวงการแบดมินตันไทยที่ถือเป็นจุดสูงสุดของโลก คือการที่”วิว”กุลวุฬิ วิทิตศานต์ สามารถคว้าแชมป์โลกชายเดี่ยว หลังจากที่ก่อนหน้านั้น “วิว”ที่ปิดฉากอันดับโลกปีนี้ไปอยู่อันดับ 7 ของโลก คว้าแชมป์ชายเดี่ยว India Open และ Thailand Open ในเดือนมกราคมและเดือนมิถุนายน ก็เป็นนักกีฬาชายเดี่ยวคนแรกที่คว้าแชมป์ 2 รายการคนแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ยังไม่มีนักกีฬาชายเดี่ยวคนไหนได้ 2 แชมป์
 

แต่ก่อนคว้าแชมป์โลก “วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ก็เจออาการบาดเจ็บจนร่างกายไม่เต็มร้อย ทำให้ตกรอบแรก 2 รายการ ก่อนจะลงเล่นเรียกความฟิตที่ US Open แต่ก็ทำได้แค่รองแชมป์ และหลังคว้าแชมป์โลก ก็เจอกับการบาดเจ็บเล็กๆอีกครั้งจนไม่มีผลงานอะไรน่าจดจำ รวมทั้งปิกฉากรายการ World Tout Final ด้วยการแพ้ทั้ง 3 แมทช์โดยไม่ได้เกมเลย

 

ขณะที่หญิงเดี่ยว”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่ปิดฤดูกาลปีนี้ที่อันดับโลก 13 ที่ถือว่าต่ำสุดนับแต่เริ่มก้าวสู่การเป็นมือระดับโลก ถือเป็นปี”ฝันร้าย”ที่เจออาการบาดเจ็บทั้งปี และเป็นปีแรกที่”ไร้แชมป์” โดยทำผลงานดีที่สุดในรายการ Canada Open ที่เป็น Super 500 ซึ่ง”เมย์”ได้ชิงชนะเลิศรายการเดียวในปีนี้ และแพ้ Akane YAMAGUCHI ในรอบชิง

ปี 2024 จะเป็นปีท้าทายของ”เมย์” เพราะจะมีโอลิมปิก 2024 ที่มหานครปารีสรออยู่ ที่จะต้องรอว่า การพักฟื้นหลังจาก”พักยาว”เพื่อฟื้นร่างกายมาตั้งแต่เดือนกันยายน อดีตแชมป์โลกหญิงเดี่ยว 2013 จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน โดยเริ่มจากรายการ Malaysia Open ในเดือนมกราคม ที่”เมย์”จะเจอ KIM Ga Eun สาวเกาหลีที่กำลังฟอร์มดีและคว้าตั๋วใบสุดท้ายไปแข่งขัน World Tour Final สำเร็จ
 

ขณะที่ประเภทคู่ผสม “บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่ปิดฤดูกาลไปอยู่อันดับ 6 ของโลก แม้จะเป็นปีที่ผลงานไม่ดีนัก แต่ก็ยังมี”แชมป์”ในรายการระดับ Super 500 ที่มาเลเซีย และรองแชมป์ Thailand Open กับ Japan Open

 
“บาส-ปอป้อ”ก็เหมือนนักกีฬาระดับโลกอีกหลายคนที่เจออาการบาดเจ็บปีนี้ ทำให้ทีมงานผู้ฝึกสอนเลือกส่งไปแข่งขันน้อยลงเพื่อรักษาความฟิต และแน่นอนว่าแผนงานใหญ่สุดก็คงเป็นโอลิมปิก 2024 ที่จะเป็นรายการใหญ่สุดของปีหน้าที่ทั้งคู่คาดหวังเหรียญรางวัล
 

ส่วนภาพร่วมของนักกีฬาไทยคนอื่น “หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ สามารถคว้าแชมป์ Swiss Open ส่วน”เมย์”ศุภนิดา เกตุทอง คว้าแชมป์ US Open และปิดท้าย “จิว”ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ คว้าแชมป์รายการเล็กๆคือ YONEX-SUNRISE GUWAHATI MASTERS 2023 ทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตาม มองภาพรวมในระดับทีมชาติ นักกีฬาหญิงของไทยยังทำผลงานดี โดยสามารถคว้าเหรียญทองแดงการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2023 ที่จีน และคว้าเหรียญทองทีมหญิงในกีฬาซีเกมส์ แถมหญิงเดียวก็ชิงกันเองและเป็น”เมย์”ศุภนดา ชนะ”จิว”ลลินรัศฐ์ 
 
ปี 2024 จึงเป็นปีท้าทายของนักกีฬาไทย และผลการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย 2566 ที่จบไปเมื่อวาน ก็เป็นสัญลักษณ์ว่านักกีฬารุ่นใหม่ ควรจะมีโอกาสออกไปแข่งขันมากขึ้นเพื่อทำอันดับและขยับไปแข่งขันระดับสูงขึ้น

เชื่อว่ากองเชียร์ทั้งประเทศพร้อมที่จะเป็น”ลมใต้ปีก”ให้นักกีฬาไทยทุกคน