สุดสัปดาห์นี้ ที่เป็นช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน ผ่านมาครึ่งปี 2023 ที่เป็นปีสำคัญ เพราะจะเป็นการเริ่มต้นเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส หรือคะแนน Race To Paris ที่เริ่มเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เรามาตรวจสอบผลงานนักกีฬาไทยว่าในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา มีผลงานดีแค่ไหน
 

สำหรับคะแนนสะสม สหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) จะใช้การแข่งขัน BWF World Tour ที่แข่งขันทั้งปีเป็นคะแนนสำคัญ ซึ่งก็มีหลายระดับ คือ Super 1000 ที่มี 4 รายการ Super 750 มี 6 รายการ Super 500 มี 9 รายการ Super 300 มี 11 รายการ และยังมีระดับต่ำเช่น Super 100

 

สำหรับปีนี้ การแข่งขันเริ่มด้วย Malaysia Open ที่เป็นรายการ Super 1000 เมื่อวันที่ 10-15 มกราคม ซึ่งผลงานของนักกีฬาไทย ก็มี”วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ กับ”บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เข้าถึงรอบรองในประเภทชายเดี่ยวและคู่ผสม

สัปดาห์ต่อมา คือวันที่17–22 มกราคม ก็ยังเป็นรายการใหญ่คือ India Open ที่เป็นรายการ Super 750 และน่ายินดีที่”วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์ชายเดี่ยวเมื่อเอาชนะ Viktor Axelsen ในรอบชิง 17-21,21-19,21-11 และ”เมย์”ศุภนิดา เกตุทอง ก็เข้าถึงรอบรองชนะเลิศหญิงเดี่ยว และแพ้ Akane Yamaguchi มือวางหนึ่ง

รายการสุดท้ายของเดือนมกราคม คือ Indonesia Masters รายการระดับ Super 500 ซึ่งแข่งขันเมื่อวันที่ 24-29 มกราคม ที่มีเพียง”กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ ทำผลงานได้ดีคือเข้าถึงรอบรองชนะเลิศประเภทหญิงคู่ แต่แพ้  Liu Shengshu / Zhang Shuxian คู่มือใหม่ของจีนที่คว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง
 

ช่วงต่อมกราคมและกุมภาพันธ์ รายการที่ 4 ของปี ก็มาที่ไทยในรายการ Thailand Masters ที่เป็นการแข่งขัน Super 300 เมื่อวันที่ 31 มกราคม-5กุมภาพันธ์ และน่ายินดีที่ “มูนา-อันนา”เบญญาภา เอี่ยมสอาด / นันทกาญจน์ เอี่ยมสะอาด สามารถคว้าแชมป์หญิงคู่ เมื่อเอาขนะ Baek Ha-na / Lee So-hee จากเกาหลีในรอบชิง 21-6,21-11

 

นอกจากนั้น “เมย์”ศุภนิดา เกตุทอง ก็เข้าถึงรอบรองหญิงเดี่ยว ขณะที่”เอ็ม-สกาย”สุภัค จอมเกาะ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน ก็ทำผลงานได้ดีคือเข้าถึงรอบรองชายคู่ก่อนจะแพ้ Leo Rolly Carnando / Daniel Marthin ชายคู่อินโดที่คว้าแชมป์รายการนี้

เดือนกุมภาพันธ์ ไม่มีการแข่งขัน BWF World Tour เพราะมีการแข่งขันชิงแชมป์ทีมผสมระดับทวีป และให้นักกีฬาได้พักหลังจากแข่งขันมา 4 รายการในเดือนมกราคม

เดือนมีนาคม การแข่งขันของ BWF ย้ายไปที่ยุโรป โดยเริ่มจากรายการ German Open รายการระดับ Super 300 ในวันที่ 7-12 มีนาคม ซึ่งอาจจะเพราะต้องปรับตัวกับสภาพอากาศ นักกีฬาไทยจึงทำผลงานได้ไม่ดี มีเพียง”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ทำผลงานดีที่สุดคือเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้ายหญิงเดี่ยว
 

สัปดาห์ถัดมา วันที่ 14–19 มกราคม เป็นรายการใหญ่คือ All England ที่เป็นการแข่งขัน Super 1000 ที่เป็นการแข่งขันที่นักกีฬาไทยทำผลงานได้แย่ที่สุด คือไม่มีใครผ่านเข้ามาถึงรอบ Quarter Final หรือรอบ 8 คนสุดท้ายได้เลย

 

ในช่วงสัปดาห์เดียวกัน มีการแข่งขัน Ruichang China Masters ที่เป็นรายการเล็กๆระดับ Super 100 ที่มีนักกีฬาหน้าใหม่ไปแข่งขันไม่มากนัก และไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ส่วนที่ยุโรป วันที่ 21-16 มีนาคม มีการแข่งขัน Swiss Open รายการระดับ Super 300 และ”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ สามารถคว้าแชมป์หญิงเดี่ยวเมื่อเอาชนะ Mia Blichfeldt จากเดนมาร์กในรอบชิง 21-16,21-18

สัปดาห์สุดท้ายคือ 28 มีนาคม – 2 เมษายน มีราการระดับ Super 300 คือ Spain Masters ซึ่ง”บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ทำผลงานดีที่สุดคือเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ
 

ปิดท้ายเดือนเมษายน คือการแข่งขัน Orléans Masters รายการ Super 300 ในวันที 4-9 เมษายน ที่เป็นการปิดท้ายรายการในยุโรปแบบ”กลับบ้านมือเปล่า”อีกรายการของนักกีฬาไทย ก่อนจะไปแข่งขัน Sudirman Cup ที่ประเทศจีนในวันที่ 14-21 พฤษภาคม

 

ปลายเดือนพฤษภาคม การแข่งขัน BWF World Tour กลับมาเริ่มที่ Malaysia Masters รายการระดับ Super 500 ในวันที่ 23-28 พฤษภาคม และ”บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คว้าแชมป์แรกของปี เมื่อเอาชนะ  Feng Yanzhe / Huang Dongping ในรอบชิงประเภทคู่ผสม 16-21,21-13,21-18

นอกจากนั้น ก็มี “เอ็ม-เฟม”สุภัค จอมเกาะ / ศุภิสรา เพียวสามพราน ยังเข้าถึงรอบรองชนะเลิศประเภทคู่ผสมอีกคู่

ช่วงวันที่ 30 พฤษภาคม – 4 เมษษยน การแข่งขันกลับมาไทยคือ Thailand Open รายการระดับ Super 500 ที่นักกีฬาไทยทำได้ดี เมื่อสามรารถเข้าชิงถึง 3 ประเภท แต่มีเพียง”วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์ชายเดี่ยว ขณะที่”มูนา-อันนา”เบญญาภา เอี่ยมสอาด / นันทกาญจน์ เอี่ยมสอาด และ”บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รรันชัย ได้แค่รองแชมป์หญิงคู่และคู่ผสม
 

ปิดท้ายครึ่งปีแรกเดือนมิถุนายน 3 รายการ เริ่มจาก Singapore Open รายการระดับ Super 750 เมื่อวันที่ 6-11 มิถุนายน ที่”วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เข้าถึงรอบรองชายเดี่ยว

 

ต่อมาคือ Indonesia Open รายการระดับ Super 1000 วันที่ 13-18 พฤษภาคม ซึ่ง”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ทำผลดีที่สุดของปี เมื่อเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ พร้อมกับสภาพร่างกายที่ยังไม่ดีเหมือนเดิมหลังจากไม่สบายจนต้องถอนตัวหลายรายการที่ยุโรปเมื่อเดือนมีนาคม

ปิดท้ายครึ่งแรกคือ Taipei Open รายการระดับ Super 300 เมื่อวันที่ 20-25 มิถุนายน ที่”คลื่นลูกใหม่”คือ“แครอท”พรพิชชา เชยกีวงศ์ กับ "พิงค์" พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศหญิงเดี่ยว

ปี 2023 เป็นปีที่เหนื่อยยากของนักกีฬา เพราะจะต้องลงสนามแข่งขันอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาอันดับโลกพร้อมเก็บคะแนนไปโอลิมปิก ขณะที่การแข่งขัน BWF World Tour ก็ถือว่านักกีฬาไทยยังสามารถคว้า”แชมป์ใหญ่”ในการแข่งขันรดับ 750 ระดับ 500 มาประดับ ทำให้อันดับโลกของนักกีฬาไทย ยกเว้นชายคู่ ยังติดทอปเทนอยู่
 

ครึ่งปีหลังที่จะเริ่มต้นด้วย Canada Open รายการระดับ Super 500 สัปดาห์หน้า จึงยังเป็นรายการที่นักกีฬาไทยต้องทำผลงานให้ดี เพื่อเป้าหมายปารีส 2024 แถมยังมีศึกชิงแชมป์โลก ก่อนจะปิดท้ายด้วย World Tour Final

ร่วมกันเชียร์นักกีฬาไทยกันต่อไป