สหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ได้ออกแถลงการณ์ว่าในช่วงปี 2023-2026 การแช่งขัน BWF World Tour จะมีการปรับเปลี่ยนมากขึ้น โดยการแข่งขัน World Tour จะมี 31 รายการ ซึ่งรวมถึง BWF World Tour Finals ในช่วงปลายปี และจะมีรายการ Super 1000 Super 750 และ Super 500 มากขึ้น เพื่อชดเชยรายได้เงินรางวัลของนักกีฬาที่ขาดไปในช่วงวิกฤติ Covid-19
Thomas Lund เลขาธิการ BWF กล่าวว่า BWF World Tour 2023-2026 จะยกระดับสถานะของแบดมินตันทั่วโลก โดยการแข่งขัน Super 1000 จะเพิ่มจาก 4 เป็น 5 รายการ ขณะที่รายการระดับ Super 750 ก็เพิ่มจาก 5 เป็น 6 รายการ ส่วน Super 500 ก็เป็น 9 รายการและ Super 300 ก็มี 11
“แบดมินตันเป็นหนึ่งในกีฬาที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกเพราะการมีส่วนร่วมและจำนวนแฟนๆ ที่สูงเป็นประวัติการณ์ การแข่งขันที่มากขึ้นทำให้เราสามารถสร้างโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มการเข้าถึงกีฬาทั่วโลก ไม่เพียงแต่การแข่งขันที่เดิม หากแต่รวมถึงประเทศใหม่ที่เข้ามาจัดการแข่งขัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นจำนวนมากขึ้นเข้าสู่วงจรที่ยอดเยี่ยมและได้ประสบการณ์อันมีค่า”
เลขาธิการ BWF กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ BWF ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากการเสนอตัวเป็นเขจ้าภาพที่มากด้วยคุณภาพและเงินรางวัลสูงจำนวนมาก ซึ่งเป็นทิศทางที่ดี ทำให้มองได้ว่าในอีก 4 ปีจากนี้ไป ทำให้แบดมินตันจะพัฒนาและได้รับความสนใจจากการรายงานข่าวทางโทรทัศน์และออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่ BWF ตั้งเป้าหมายไว้
โดยในช่วง 4 ปีจากนี้ไป การแข่งขัน Malaysia Open ก็จะยกระดับเป็น Super 1000 เทียบเท่ากับ All England Open, China Open และ Indonesia Open ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับสูงสุดของทัวร์
ขณะที่ India Open และ Singapore Open จะถูกเลื่อนขึ้นสู่สถานะ Super 750 ร่วมกับการแข่งขันที่จีน เดนมาร์ก ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น
ส่วนการแข่งขันระดับ Super 500 ก็จะมีเจ้าภาพใหม่คือ ออสเตรเลีย แคนาดา และฟินแลนด์ ร่วมระดับเดียวกับการแข่งขันในฮ่องกง จีน อินโดนีเซีย เกาหลี มาเลเซีย ไทย และมีอีกรายการในญี่ปุ่น
ส่วนระดับล่างสุดคือ Super 100 ก็มีอยู่สองรายการได้รับการยกระดับขึ้นเป็น BWF World Tour Super 300 นั่นคือ HYLO Open และ Orléans Masters ในเยอรมันและฝรั่งเศส
ถือเป็นความน่าตื่นเต้นของวงการแบดมินตันโลกในวันนี้
อ้างอิง : BWF