สำหรับ PV. Sindhu ปี 2021 ที่ผ่านมา แม้จะมีเหรียญทองแดงโอลิมปิกเป็นรางวัลใหญ่ แต่ก็เป็นอีกปีที่ไม่มีคำว่า
”แชมป์” มาครอบครอง โดยเข้าชิงชนะเลิศ 2 รายการและได้แค่”รองแชมป์” คือ Swiss Open ที่แพ้ Carolina MARIN และ BWF World Tour Final ก็แพ้ AN Seyoung จากเกาหลี
|
|
หนึ่งในเหตุผลที่อดีตแชมป์โลกหญิงเดี่ยว 2019 วัย 26 จากอินเดียมองเห็นว่าเป็นเหตุผลของความพ่ายแพ้ก็คือ การแข่งขันที่ติดกันโดยไม่ได้พัก โดยเฉพาะในช่วงปลายปีก่อน ที่เธอต้องเดินทางหลายพันไมล์จาก Odense ในเดนมาร์กไปแข่งขันที่ Paris ประเทศฝรั่งเศสในเดือนตุลาคม ก่อนจะบินข้ามทวีปไปที่ Bali อินโดนีเซียในเดือนพฤศจิกายน แล้วไปจบปีการแข่งขันที่ Huelva ประเทศสเปนในต้นเดือนธันวาคม |
“ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาค่อนข้างวุ่นวาย แต่มันก็สำคัญเพราะต้องแข่งขันเพื่อจัดอันดับ ฉันจึงต้องมีเทรนเนอร์ทางกายภาพอยู่กับตัวตลอดเวลาเพื่อจะได้มีร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ระหว่างการแข่งขัน” นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ 7 ของโลกกล่าว |
|
|
สำหรับปี 2022 PV. Sindhu ตั้งเป้าจะเลือกแข่งขันน้อยลง โดยเริ่มที่รายการ India Open ในบ้านเกิดสัปดาห์หน้าในฐานะมือวางหนึ่งของรายการ ขณะที่รายการใหญ่ที่เธอมองว่าสำคัญปีนี้คือ Commonwealth Games ในเดือนกรกฎาคมและการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ในในเดือนกันยายน ที่ส่งผลให้ปฏิทินการแข่งขันแบดมินตันมีมากขึ้น
“เรามีทัวร์นาเมนต์ต่อเนื่องในปี 2022 ดังนั้น เพื่อรักษาสภาพร่างกาย ฉันจึงต้องเลือกรายการที่จะเล่น ฉันจะเลือกหลังจากคุยกับโค้ชและทีมงาน”
|
|
PV. Sindhu มองว่ารายการใหญ่ปีนี้ที่เธอตั้งตาคอยคือเอเชี่ยนเกมส์ 2022 เพราะเป็นการแข่งขันที่ยากทุกครั้ง เนื่องจากผู้เล่นระดับแนวหน้าของเอเชียทุกคนก็จะมารวมตัวกันและทุกคนก็ตั้งเป้าเหมือนกัน มันจึงเป็นงานยากตั้งแต่รอบแรก |
แชมป์โลกปี 2019 กล่าวถึงความผิดพลาดใหญ่ของตัวเองในปีก่อนคือการแพ้ Tai Tzu Ying ในศึกชิงแชมป์โลก BWF World Championship รอบก่อนรองชนะเลิศที่เป็นการพ่ายแพ้ครั้งที่ 5 ต่อมือหนึ่งโลกคนปัจจุบัน แต่ก็มองว่าเธอก็สามารถเอาชนะ Tai Tzu Ying ได้ |
|
|
“คุณต้องวางกลยุทธ์ตามผู้เล่นแต่ละคน Tai Tzu Ying เป็นผู้เล่นที่เก่ง ขณะที่คนอย่าง An Se-young หรือ Akane Yamaguchi ก็แตกต่างกันไป มาตรฐานของผู้เล่น 10 อันดับแรกนั้นใกล้เคียงกันและมาก ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นใครเล่นได้ดีกว่ากัน” PV. Sindhu กล่าว
อ้างอิง : timesofindia