มีรายงานว่า ในการการประชุมคณะกรรมการการฝึกสอนและการฝึกอบรม (C&T) ของสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย ที่มี Datuk Kenny Goh เลขาธิการสมาคมฯ เป็นประธานเมื่อวาน(28ธ.ค.) ที่ประชุมมีมติปรับโครงสร้างโดยเลือกระบบ
”สองหัวดีกว่าหัวเดียว” อีกครั้ง
|
|
โดยการเปลี่ยนแปลงที่ใช้การปรับเปลี่ยนครั่งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว สมาคมแบดมินตันมาเลเซียมองว่าการมี 2 โค้ช คือคนดูแลนักกีฬาเดี่ยวและโค้ชดูแลนักกีฬาประเภทคู่ เพื่อฟื้นฟูผลงานของนักกีฬาทีมชาติ หลังจากผลงานนักกีฬามาเลเซียปีนี้ มีเพียง Lee Zii Jia ได้แชมป์ชายเดี่ยว All-England และ Aaron Chia / Soh Wooi Yik คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว |
โดยโครงสร้างใหม่นี้ Wong Choong Hann จะเป็นผู้อำนวยการฝึกสอนคนที่หนึ่งจะรับหน้าที่ดูแลนักกีฬาเดี่ยว ต่างจากเดิมที่เขารับหน้าที่ทั้งหมดทุกประเภท ขณะที่ Rexy Mainaky จะทำหน้าที่ผู้อำนวยการคนที่สอง และรับผิดชอบนักกีฬาประเภทคู่ โดยทั้งคู่จะขึ้นตรงกับ Datuk Kenny Goh ในฐานะประธานคณะกรรมการการฝึกสอนและการฝึกอบรม (CNT) |
|
|
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังสองสัปดาห์หลังจากที่นักกีฬามาเลเซียกลับบ้านโดยไม่ได้เหรียญรางวัลในการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่เมือง Huelva ประเทศสเปน ต่างจากสิงคโปร์ที่ได้เหรียญทองแรกจาก Loh Kean Yew นักกีฬาชายเดี่ยว โดยสมาคมมาเลเซียมองว่า รูปแบบการทำงานที่ผ่านมายังไม่ดีพอ
รูปแบบนี้ มาเลเซียเคยใช้เมื่อ 2002 โดย Indra Gunawan จากอินโดนีเซียเป็นโค้ชเดี่ยว และมี Park Joo-bong จากเกาหลีมาคุมนักกีฬาคู่ ก่อนจะถูกยกเลิกและฟื้นฟูในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดย Rashid Sidek ดูแลนักกีฬาประเภทเดี่ยวและ Rexy เป็นหัวหน้าโค้ชประเภทคู่ในปี 2010
Datuk Kenny Goh เปิดเผยหลังการประชุมเมื่อวานว่ามีโครงสร้างเพียงไม่กี่อย่างที่จะใช้งานได้ และไม่ว่าจะพลิกกลับไปกลับมาใช้อย่างไร ก็ ไม่มีอะไรรับประกันความสำเร็จได้
|
|
“สิ่งต่าง อาจแย่ลงหากเราไม่ทำการเปลี่ยนแปลง เราจึงต้องเปลี่ยนแปลง หลังจากการวิเคราะห์ผลการแข่งขันล่าสุดของทีมชาติอย่างละเอียด” Datuk Kenny Goh กล่าวโดยอธิบายว่า โครงสร้างใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขจุดอ่อนภายในทีม การขาดแผนเกมแข่งขัน ความไม่สอดคล้องรวมถึงโครงสร้างการโค้ชที่มีระดับมากเกินไป จนถึงการขาดสมาธิในการฝึกซ้อม และการขาดความแข็งแกร่งทางจิตใจ |
“เราเชื่อว่าการปรับปรุงโครงสร้างที่เรามีก่อนหน้านี้ จะทำให้นักกีฬาของเราก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นและบรรลุวัตถุประสงค์ของเราในท้ายที่สุด"
ทั้งนี้ สมาคมแบดมินตันมาเลเซียมองว่าโครงสร้างนี้จำเป็นเพราะมีความท้าทายครั้งใหญ่รออยู่ข้างหน้าในปีหน้า ทั้งการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ กีฬาเครือจักรภพ จนถึงซีเกมส์ที่เวียดนาม และอาจจะพิจารณาก่อนถึงปี 2024 ที่มีการแข่งขันโอลิมปิกว่าได้ผลหรือไม่ โดยยอมรับว่า Thomas Cup 2024 ทีมมาเลเซียจะต้องเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ
อ้างอิง : thestar
Cr.Photo : thestar, Bernama pic