เริ่มจาก "มาเลเซีย เพอร์เพิล ลีก" ที่มาเลเซีย ซึ่งจะแข่งขันช่วงตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.นี้ถึงวันที่ 12 ก.พ.ปีหน้า นำโดย "สอง"ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข แชมป์ชายเดี่ยวประเทศไทยคนล่าสุด, ปัณณวิชญ์ ทองน่วม, โฆษิต เพชรประดับ, สัพพัญญู อวิหิงสานนท์, บดินทร์ อิสสระ, นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร, สาวิตรี อมิตรพ่าย, ณิชชาอร จินดาพล, บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข, ผไทมาศ เหมือนวงศ์, ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม ซึ่งนักแบดมินตันไทยที่ได้ค่าเหนื่อยมากสุดคือ ทนงศักดิ์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับแมตช์ละประมาณ 2 แสนบาท

 

 

ส่วนอีกรายการหนึ่งคือศึก "พรีเมียร์ แบดมินตัน ลีก" ที่อินเดีย ซึ่งจะเปิดฤดูกาล วันที่ 1-17 ม.ค.นี้ ซึ่งถือว่าเป็นลีกที่มีการทุ่มทุนจ้างนักตบลูกขนไก่ระดับโลก ด้วยการประมูลค่าตัว ทั้ง คาโรลิน่า มาริน หญิงเดี่ยว มือ 1 ของโลก และแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2016 จากสเปน ที่มีค่าตัวสูงสุดในปีนี้คือ 6,150,000 รูปี หรือประมาณ 3,189,689 บาท ไปอยู่กับทีมไฮเดอราบัด ฮันเตอร์ส ขณะที่นักแบดมินตันไทยที่มีค่าตัวมากสุดคือ "สอง"ทนงศักดิ์ ที่ได้รับการประมูลเข้าทีมเชนไน สแมชเชอร์ ด้วยค่าตัว 3,000,000 รูปี หรือประมาณ 1,555,946 บาท

 
ขณะที่นักแบดมินตันไทยอื่นๆ มีดังนี้ ทีมเบงกาลูรู มี "พีช"พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข 2,200,000 รูปี(1,141,027 บาท) กับ "แมน"บุญศักดิ์ พลสนะ 1,000,000 รูปี (518,648 บาท), ทีมอวาเดห์ วอริเออร์ส มี "อาท"บดินทร์ อิสสระ 1,700,000 รูปี(881,702 บาท), "เอ็มเอ็ม"สาวิตรี อมิตรพ่าย 2,000,000 รูปี(1,037,297 บาท), ทีมมุมไบ ร็อกเก็ต "ต้นน้ำ"นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร 1,700,000 รูปี(881,702 บาท), ทีมเดลีห์ เอเซอร์ส "แน็ต"ณิชชาอร จินดาพล 1,700,000 รูปี(881,702 บาท)