แมน ที่เป็น "ซูเปอร์แมน ของวงการแบดมินตันไทย"

ในที่สุด "บุญศักดิ์ พลสนะ"  หรือ"ซูเปอร์แมน" ของวงการแบดมินตันไทย ก็ประกาศยุติเส้นทางการเป็นนักกีฬาแบดมินตันด้วยวัย 34 หลังโชว์ลีลาบนคอร์ตเขียวมานาน 20 ปี โดยรายการสุดท้ายที่"ซูเปอร์แมน"จะปรากฎตัวในฐานะ"นักกีฬา" คือการแข่งขันแบดมินตันซูเปอร์ลีกของอินเดีย ในระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม - 15 มกราคมปีหน้า
จากนั้น แฟนแบดมินตันทั่วโลกจะไม่เห็น"ซูเปอร์แมน"ในสนามอีกต่อไป
การตัดสินใจเลิกเล่น นอกจากวัยที่มากขึ้นแล้ว เป็นเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าเรื้อรัง ที่เล่นไปต้องพักไป
ส่วน"บทบาทใหม่"ของซูเปอรฺแมน ก็คงเป็นการดูแลคอร์ตแบดมินตันของเขาเองที่กำลังก่อสร้างที่ถนนสุขาภิบาล 5 และถึงเวลาที่จะใช้ชีวิตแบบคนธรรมดากับครอบครัว คือ"แม่บุญชื่น พลสนะ" และภรรยา "น้องใหม่" ทวีพร เมฆศขริน ที่เพิ่งแต่งงานแต่ยังไม่มีเวลาให้กันมากนัก เพราะเจ้าตัวต้องเดินทางไปแข่งต่างประเทศปีละหลายครั้ง 

เคยเขียนถึง"ซูเปอร์แมน"ในฐานะ"นักกีฬาตัวอย่าง" ที่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทุกครั้งที่ลงสนาม
เมื่อถึงเวลาที่จากนี้ไป ทีมชาติไทยจะไม่มี"ซูเปอร์แมน" ที่ทำหน้าที่เป็น"พี่ใหญ่"ของทีมแบดมินตันไทยมายาวนาน ก็อยากจะบันทึกไว้ให้คนรุ่นต่อไปจดจำและเอาเป็นตัวอย่าง
"ซูเปอร์แมน" เกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2525 และเพราะชอบเล่นแบดมาตั้งแต่เด็ก โดยคุณพ่อจิระศักดิ์และคุณแม่บุญชื่นสนับสนุนเป็นอย่างดี และจุดเปลี่ยนสำคัญก็คือ หลังการฝึกซ้อมมาระยะหนึ่งโดยมี"ไตรรงค์ ลิ่มสกุล" อดีตนักแบดทีมชาติไทยดูแลในสโมสร"เสนานิคม" ครอบครัวก็ตัดสินใจส่ง"ซูเปอร์แมน"ไปฝึกซ้อมที่เมืองจีนตามคำแนะนำของผู้ฝึกสอนที่สโมสรเสนานิคม
ในวัยเพียง 14 "ซูเปอร์แมน"ตัดสินใจทำตามความฝันที่จะเป็นนักแบดมินตัน โดยดรอปการเรียนเพื่อไปเรียนศิลปการเล่นแบดมินตันที่จีน แต่น่าเสียดายที่เพียง 2 ปีเท่านั้น ซูเปอร์แมนต้องกลับบ้าน เพราะคุณพ่อเสียชีวิต
แต่"พรสวรรค์"ที่มี แม้จะร่ำเรียนไม่ครบหลักสูตร "ซูเปอร์แมน"ก็ทำผลงานได้ดี และพัฒนาฝีมือจนเป็นมือ 1 ของไทย โดยมีโค้ช อุดม เหลืองเพชราภรณ์ โค้ช พอ.ศักดิ์ระพี ทองสาริ และ โค้ช สมพล คูเกษมกิจ ซึ่งแมนถูกเรียกติดทีมชาติครั้งแรกในซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่ประเทศบรูไนในปี 1999 และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ "ซูเปอร์แมน"เป็น"เสาหลัก"ของทีมแบดมินตันไทย..จนเลิกเล่น

"ซูเปอร์แมน"สร้างชื่อให้คนไทยรู้จักกันทั่วประเทศในการแข่งขันโอลิมปิก เอเธนส์เกม 2004 โดยผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะพ่าย ทาลฟิก ฮิดายัต ที่ได้เหรียญทองในปีนั้น และชิงเหรียญทองแดงก็พลาดท่าให้กับ โซนี ดวี คุนโคโร  ได้แค่ที่ 4 กละบมาไทย
แต่นั่นคือ"ต้นกำเนิด"ของวงการแบดมินตันไทยยุคใหม่ เพราะนับจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้กว่า 10 ปี ต้องยอมรับว่า เด็กๆถือแรกเก็ตเพื่อเล่นแบดมินตันเป็นเพราะแรงบันดาลใจจาก"พี่แมน"
ที่สำคัญ "ซูเปอร์แมน"เป็นหนึ่งในนักแบดมินตันไม่กี่คนที่เข้าร่วมแข่งขันแบดมินตันในอลิมปิกถึง 5 สมัย คือตั้งแต่ ซิดนีย์ 2000 เอเธนส์เกมส์ 2004 ปักกิ่งเกมส์ 2008 ลอนดอนเกมส์ 2012 และริโอเกมส์ 2016 

ผลงานของ"ซูเปอร์แมน" ในสนามถือว่าไม่ขี้เหร่
อาจจะน่าเสียดายเพราะยุคของ"ซูเปอร์แมน" เป็นยุค"สงครามโลก"ในโลกแบดมินตันระหว่าง"หลินกับลี" คือหลินตันกับลีชองเหว่ย ทำให้"ซูเปอร์แมน" เหมือนกับนักแบดอีกมากมายในโลกที่ได้แชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์น้อยมาก เพราะ"หลินกับลี"แทบจะสลับกันคว้าแชมป์ไปครอง
โดย "ซูเปอร์แมน" เป็นแชมป์"ซูเปอร์ซีรีส์" คือ สิงคโปร์โอเพ่น ในปี 2007 และ 2012 และเป็นรองแชมป์ 3 ครั้งในปี 2009 , 2010 และ 2013 และเป็นรองแชมป์ซูเปอร์ซีรีส์ที่ญี่ปุ่นรายการ เจแปนโอเพ่น 2012 เมื่อพ่าย ลีชองเหว่ยแบบสุดมัน 
ส่วนรายการระดับกรังด์ปรีซ์โกลด์ เคยเป็นแชมป์ ไทยแลนด์โอเพ่น 2004 และอินเดียโอเพ่น 2008 
ขณะที่ในประเทศ "ซูเปอร์แมน"เป็นเจ้าของสถิติ"แชมป์ประเทศไทย" 13 สมัย ที่คงจะไม่มีใครทำลายสถิติได้ 

จากนี้ไป ทีมชาติไทยจะไม่มี"ซูเปอร์แมน"ในฐานะผู้เล่น
ก็คงต้องฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องว่าจะใช้ประสบการณ์และความรู้ความสามารถของ"ซูเปอร์แมน" มาทำประโยชน์ให้กับวงการแบดมินตันไทยต่อไปอย่างไร
จะเป็นโค้ช หรือจะเป็นอะไรก็ตาม แต่นี่คือการตอบแทนนักกีฬาที่อุทิศตนเพื่อทีมชาติไทยมานานเกือบ 20 ปี
นักกีฬาที่ชื่อ"แมน" และเป็น"ซูเปอร์แมน"ของวงการแบดมินตันไทยตลอดไป