ในที่สุด การแข่งขัน TotalEnergies BWF Sudirman Cup 2021 ที่เมือง Vantaa ประเทศฟินแลนด์ ก็จบไปอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเป็นการชิงชนะเลิศของคู่ชิงหน้าเดิมเมื่อ 2 ปีก่อนคือจีนและญี่ปุ่น และจีนก็ยังประกาศศักดาการเป็นมหาอำนาจลูกขนไก่ เมื่อเอาชนะญี่ปุ่น 3-1 คู่ คว้าแชมป์สมัยที่ 12 ของรายการนี้ ขณะที่ญี่ปุ่นก็ต้องหาความสำเร็จในรายการนี้ต่อไป 
 

ในคู่ที่ 3 ก็กลับมาเป็นหนังม้วนเดิมเมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อ SHI Yu Qi ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ลากให้ Kento MOMOTA ต้องเล่นเกมสามในอาการที่อ่อนล้าและชนะไป 2-1 เกม 21-13,8-21,21-12 ให้จีนกลับมานำ 2-1 คู่ ก่อนที่คู่ที่ 4 ในประเภทหญิงคู่ CHEN Qing Chen / JIA Yi Fan เหรียญเงินหญิงคู่โอลิมปิก เอาชนะ Mayu MATSUMOTO / Misaki MATSUTOMO คู่เฉพาะกิจญี่ปุ่น 21-17,21-16 จึงไม่ต้องมีการแข่งขันประเภทคู่ผสม เพราะจีนชนะ 3-1

   

ชัยชนะของจีน ถือเป็นความสำเร็จ เพราะนักกีฬาตัวหลัก คือเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 ประเภทและเหรียญเงินหนึ่งประเภท ทำผลงานได้ตามเป้าหมายตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายที่ลงสนาม แม้ในวันชิงชนะเลิศ CHEN Yu Fei จะแพ้นักกีฬาญี่ปุ่น แต่ก็เป็นผลการแข่งขันที่ไม่มีผลต่อทีม

 

ส่วน ”ญี่ปุ่น” ต้องถือว่าทำได้ดีเกินคาด เมื่อมองย้อนไปเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้าในการแข่งขันโอลิมปิกที่โตเกียว ที่ถือว่านักกีฬาญี่ปุ่น ”ล้มเหลว” อย่างสิ้นเชิง เพราะการไปฟินแลนด์ครั้งนี้ พวกเขาขาดกำลังสำคัญในประเภทชายคู่และหญิงคู่ที่เป็นกำลังหลักและทำคะแนนให้ทีมมายาวนาน แต่นักกีฬาหน้าใหม่และนักกีฬาเฉพาะกิจ กลับทำผลงานมาถึงรอบชิงชนะเลิศ และถือว่าดีกว่าสองปีก่อนที่แพ้จีน 0-3 ในรอบชิงชนะเลิศ

   

ชาติที่ถือว่าทำได้ดีอีกประเทศคือเกาหลีในยุคที่นักกีฬารุ่นเก่าเริ่มประกาศถอนตัวจากทีมชาติ แต่ก็สามารถมาถึงรอบรองชนะเลิศและได้เหรียญทองแดงรายการนี้ และหากจะมองว่าการแพ้จีน 0-3 ในรอบรองชนะเลิศ ก็น่าเสียดายที่ Order Of Play ไม่เป็นใจให้นักกีฬาชายคู่และหญิงคู่ได้ลงสนามทดสอบผลงานกับคู่เหรียญรางวัลโอลิมปิก

 

อีกประเทศที่ถือว่าทำผลงานได้ดีเกินคาดคือ ”มาเลเซีย” ยุคถ่ายเลือดครั้งใหญ่ ที่เหลือนักกีฬารุ่นเก่าเพียง Aaron CHIA / SOH Wooi Yik ชายคู่เหรียญทองแดงโอลิมปิก กับ LEE Zii Jia ชายเดี่ยวมือหนึ่งของทีมที่ทำผลงานในรายการนี้ได้ดี ขณะที่หญิงคู่หน้าใหม่คือ Pearly TAN / THINAAH Muralitharan ก็แนะนำตัวต่อโลกแบดมินตันด้วยบุคลิกนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ ส่วน HOO Pang Ron / CHEAH Yee See  ในประเภทคู่ผสม ก็ถือว่า ”สอบผ่าน” ในเวทีใหญ่

 

เมื่อมองว่า ”มาเลเซีย” ยุคเลือดใหม่ทำผลงานได้ดี ก็ต้องถือว่า ”อินโดนีเซีย” คือทีมที่ล้มเหลวมากที่สุดในรายการนี้ เพราะนักกีฬาจากอินโดนีเซีย ถือว่าเป็นชาติที่นำนักกีฬาชั้นนำไปครบทุกประเภทมากที่สุด ทั้งชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่และคู่ผสม แต่สุดท้ายไม่สามารถผ่านถึงรอบรองชนะเลิศได้

   

ที่ถือเป็นความล้มเหลวสุดๆคือการแพ้มาเลเซียในรอบ 8 ทีมสุดท้าย 2-3 เพราะนักกีฬามือหนึ่งของประเทศทุกประเภทคือ Anthony Sinisuka GINTING ในประเภทชายเดี่ยว Marcus Fernaldi GIDEON / Kevin Sanjaya SUKAMULJO ชายคู่มือหนึ่งโลก และ Praveen JORDAN / Melati Daeva OKTAVIANTI คู่ผสมที่มีแชมป์มาหลายรายการ คือนักกีฬาที่แพ้มาเลเซียในวันนั้น ทำให้แม้ Gregoria Mariska TUNJUNG อดีตแชมป์เยาวชนหญิงเดี่ยว และ Greysia POLII / Apriyani RAHAYU แชมป์หญิงคู่ทำผลงานได้ตามเป้าหมายก็ไม่เพียงพอ

  

ส่วน ”เดนมาร์ก” ก็ยังคงเป็นทีมที่มีปัญหาเมื่อต้องเล่นประเภททีม เพราะนอกจากชายเดี่ยวที่มี Viktor AXELSEN เจ้าของเหรียญทองชายเดี่ยวโอลิมปิกเป็นตัวหลักร่วมกับ Anders ANTONSEN แล้ว นักกีฬาประเภทอื่นของเดนมาร์ก ก็ยังไม่สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ที่เลิกราไปได้

 

นอกจากนั้น การแข่งขัน Sudirman Cup ครั้งนี้ ยังต้องชื่นชมสหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) ที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาจากชาติหน้าใหม่ทั้งเจ้าภาพฟินแลนด์ และตาฮิติ ได้ลงแข่งขันเพื่อสัมผัสบรรยากาศสุดยอดของเกมระดับโลก และน่ายินดีที่นักกีฬาจากทั้งสองประเทศเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่ไม่มีอาการ ”ตื่นสนาม” ในรายการใหญ่

ปิดท้ายผลงานทีมชาติไทย แม้จะเสียดายที่แพ้เกาหลีในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่นักกีฬาทุกคนก็แสดงให้เห็นว่าทำหน้าที่เต็มที่แล้ว และรอให้กองเชียร์ส่งกำลังใจอีกครั้งในศึก Thomas & Uber Cup ที่เดนมาร์กในสุดสัปดาห์นี้
 


Cr.Photo : BadmintonPhoto