การแข่งขัน TotalEnergies BWF Sudirman Cup Finals 2021 ที่เมือง Vantaa ประเทศฟินแลนด์ ที่จะเปิดฉากในวันอาทิตย์ 26 กันยายน โดยกลุ่ม A ที่มี ”จีน” แชมป์ 11 สมัยเป็นทีมยืนของสาย ไม่ว่ามองจากมุมไหน พวกเขาก็จะเข้ารอบในฐานะที่หนึ่งของกลุ่มแน่นอน
 

แม้จะอยู่ในยุคเปลี่ยนถ่ายนักกีฬามาเป็นสายเลือดใหม่ในบางประเภท แต่นักกีฬาของจีนก็ยังคงล้วนแต่เป็น ”บิ๊กเนม” ในทุกประเภท ตั้งแต่ชายเดี่ยวที่นำโดย Shi Yu Qi ที่ขึ้นเป็น ”พี่ใหญ่” แทน Chen Long อดีตแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิก ขณะที่เพื่อนร่วมทีมประเภทชายเดี่ยวก็มี Lu Guang Zu และ Li Shi Feng

 

ส่วนหญิงเดี่ยวแน่นอนว่า Chen Yu Fei แชมป์โอลิมปิกเป็นตัวยืน เช่นเดียวกับเหรียญทองคู่ผสม Wang Yi Lyu / Huang Dong Ping ก็มาร่วมทีมพร้อมนักกีฬาประเภทอื่นที่โลกรู้จักดีทั้ง Chen Qing Chen, Jia Yi Fan, Du Yue, Liu Cheng, He Ji Ting, Tan Qiang และ Zhou Hao Dong

ขณะที่ผู้เล่นดาวรุ่งที่ถูกนำตัวไปก็คือ Wang Zhi Yi นักกีฬาหญิงเดี่ยว และ Feng Yan Zhe นักแบดมินตันชายคู่ ที่ได้รับโอกาสไปแข่งขันรายการสำคัญในระดับ
 

ส่วน ”อินเดีย” ถือว่าเสียหายหนัก เมื่อ 2 ยอดนักตบลูกขนไก่หญิงเดี่ยวทั้ง Saina Nehwal หรือ Pusarla V. Sindhu ต่างก็ถอนตัวและไม่มีนักกีฬาหญิงเดี่ยวอินเดียคนไหนที่โลกแบดมินตันรู้จักอีกแล้ว เพราะทั้ง Ashmita Chaliha, Aakarshi Kashyap และ Mugdha Agrey ก็อยู่อันดับ 90 กว่าทั้งหมด ส่วน Malvika Bansod ดาวรุ่งวัย 20 ก็อยู่อันดับ 110

 

ที่น่าจับตาคือ Aditi Bhatt ก็เป็นนักกีฬาเยาวชนโลกหญิงเดี่ยวมือ 10 โลกวัย 18 ที่ปีนี้ได้แชมป์ Uganda International เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แชมป์ RSL Lithuanian International ในเดือนมิถุนายน และเธอยังสามารถเล่นหญิงคู่ โดยเคยร่วมกับ Tanisha Crasto คว้าแชมป์ Dubai Junior International Series

ส่วนที่เหลือของอินเดียถือว่ามีระดับที่เคยคว้าแชมป์มาแล้ว ทั้ง Sai Praneeth และ Kidambi Srikanth ในประเภทชายเดี่ยว Chirag Shetty/Satwiksairaj Rankireddy และ MR Arjun/Dhruv Kapila ในประเภทชายคู่ Ashwini Ponnappa/Sikki Reddy ในประเภทหญิงคู่ และ Satwiksairaj Rankireddy/ Ashwini Ponnappa ในประเภทคู่ผสม
 

โดย ”คู่แข่ง” ของอินเดียที่จะแย่งเข้ารอบคู่กับจีน คือทีมชาติไทย ยุคสร้างสมดุลระดับนักกีฬามากประสบการณ์และนักกีฬาเยาวชน แม้จะไม่มี ”เมย์” รัชนก อินทนนท์ ที่ขอถอนตัวหลังจากคุณแม่เสียชีวิต แต่ชื่อของ “หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ และ “ครีม” บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ก็มองข้ามไม่ได้

 

ส่วนนักกีฬาระดับ ”อาวุโส” คนอื่นที่เดินทางมาฟินแลนด์ได้แก่ “บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ในประเภทคู่ผสม และ”กิ๊ฟ-วิว” รวินดา ประจงใจ / จงกลพันธ์ กิติธารากุล ในประเภทหญิงคู่ ขณะที่อีก 3 ดาวรุ่งก็เป็นนักกีฬาที่โลกแบดมินตันรู้จักดีทั้ง “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ และแชมป์เยาวชนโลกประเภทชายเดี่ยว 3 สมัย “วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์

ปัญหาของทีมไทยในวันนี้ก็คือไม่มีนักกีฬาชายคู่ที่สร้างผลงานสำคัญ จึงฝากความหวังไว้กับผู้เล่นอย่าง “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ “สกาย” กิตตินุพงศ์ เกตุเรน อดีตแชมป์ชายคู่เยาวชนโลก “มาร์ค” ดนุภัทร วิริยางกูร” และ ”เปรม” ณัฐพัฒน์ ตฤณขจี
 

ส่วนเจ้าภาพฟินแลนด์นั้นแน่นอนว่ายากที่จะต่อกรทั้งสามชาติร่วมกลุ่ม แต่เชื่อว่านักกีฬาอย่าง Kalle Koljonen ชายเดี่ยวมือ 67 โลกที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศในการแข่งขัน European Championships เมื่อเดือนพฤษภาคม พร้อมที่จะนำทัพนักกีฬาโนเนมลงโชว์ฟอร์มต่อหน้าแฟนๆอย่างสุดฝีมือ

ส่วนแฟนแบดมินตันไทย อย่าพลาดวันแรก 26 กันยายน ที่ไทยจะเจออินเดียเพื่อ ”ชิงอังดับ 2” ของกลุ่ม เนื่องจากเจ้าภาพเลือกเปิดสนามกับจีนเป็นคู่แรกของการแข่งขัน

อ้างอิง : BWF