การแข่งขันพาราลิมปิก 2020 ที่โตเกียว ที่จะแข่งขันในวันที่ 24 สิงหาคม – 5 กันยายน ซึ่งครั้งนี้ นักกีฬาพาราลิมปิกไทย สามารถผ่านการคัดเลือกไปร่วมชิงชัยได้ถึง 77 คน จาก 14 ชนิดกีฬา คือ เทควันโด, ยิงธนู, แบดมินตัน, วีลแชร์ฟันดาบ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา (ลู่-ลาน,วีล์แชร์เรซซิ่ง), จักรยาน, ยิงปืน, วีลแชร์เทนนิส, บอคเซีย, ฟุตบอลตาบอด และยูโด ที่เป็นการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
 

ในส่วนของนักแบดมินตันพาราลิมปิกนั้น จะมีนักกีฬาได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันถึง 7 คน ได้แก่ สุจิรัตน์ ปุกคำ จะแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยววีลแชร์ WH1, หญิงคู่ WH1 WH2 , อำนวย เวชวิฐาน ประเภทหญิงคู่วีลแชร์ WH1 WH2 และหญิงเดี่ยววีลแชร์ WH1 , จักรินทร์ หอมหวน ลงแข่งขันชายเดี่ยววีลแชร์ WH1 ชายคู่ WH1 WH2 , ดำเนิน จันทร์ทอง แข่งขันชายเดี่ยว WH1 ชายคู่ WH1 WH2 , ศิริพงษ์ เติมอารมณ์ แข่งขันชายเดี่ยว SL4 ชายคู่ SL3 SU4 , นิภาดา แสนสุภา ลงแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยว SL4 หญิงคู่ SL3 SU5 คู่ผสม SL3 SU5 และ ชนิดา ศรีนวกุล หญิงเดี่ยว SL3 หญิงคู่ SL3 SU5

 

สำหรับนักกีฬาไทยทั้งหมด ขณะนี้กำลังฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกที่จังหวัดสุพรรณบุรี ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมผู้ฝึกสอนทั้ง 4 คนคือ ฐิติพงษ์ ลาโพธิ์ , อภินพ อารยเจริญ , ภูษนวัตร สายศิริวิทย์ และ พีรพล สมภพเจริญ

“อำนวย เวชวิฐาน” ที่เคยเป็นมือหนึ่งโลกและนักกีฬายอดเยี่ยมของ BWF เปิดเผยว่า ถึงเวลานี้พร้อมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ โดยมุ่งมั่นที่จะทำให้ดีกว่าทุกครั้ง และมั่นใจว่าจะต้องได้เหรียญกลับมาฝากแฟนแบดมินตันไทย

ขณะที่ ”สุจิรัตน์ ปุกคำ” ก็ยืนยันว่าพร้อมและจะทำให้สมกับการรอคอยที่ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป โดยมั่นใจว่าจะได้เหรียญกลับบ้านโดยจะพยายามทำเต็มที่และไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้
 

“ศิริพงษ์ เติมอารมณ์” นักกีฬาชายที่จะลงแข่งขัน 3 ประเภท บอกว่าถึงตอนนี้ ทั้งร่างกายและจิตใจ ”โคตรพร้อม” และจะทำอย่างเต็มที่เมื่อลงสนาม ว่าอุปสรรคจะมากมากแค่ไหน

 

ส่วน ”นิภาดา แสนสุภา” ก็มั่นใจว่าการเตรียมตัวที่ทำให้สภาพร่างกายและจิตใจมีความพร้อม ก็จะทำให้ผลการแข่งขันออกมาดี เพราะนักกีฬาทุกคนจะลงสนามและมุ่งมั่นเต็มที่เพื่อเป้าหมาย ขณะที่ ”จักรินทร์ หอมหวน” ยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังมาก แต่จะทำให้ดีที่สุดทุกครั้งที่ลงแข่ง เพราะการคาดหวังคือการไม่คาดหวัง

"ชนิดา  ศรีนวกุล" อีกหนึ่งความหวังบอกว่า การได้ไปร่วมรายการพาราลิมปิกครั้งแรก  ทางทีมโค้ชได้เสริมทั้งความแข็งแรง แก้ไขจุดอ่อน เติมเทคนิคเพิ่มเติมให้ ทำให้ความพร้อมทางร่างกาย

"เรียกว่าพร้อมแข่งขันค่ะ  ส่วนทางสภาพจิตใจ ก็พยายามฝึกสมาธิเวลาซ้อมในแต่ละครั้ง คิดว่าอยู่ในสถานการณ์แข่งขันเพื่อเวลาไปแข่งจะได้ลดแรงกดดันค่ะ"
 

ส่วน "ดำเนิน จันทร์ทอง" บอกถึงความพร้อมว่าเต็มร้อย และส่วนตัวก็ทำให้ดีที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ รวมทั้งฝากขอบคุณสื่อที่นำเสนอข่าวพวกเรา

ด้านพันจ่าอากาศเอก ฐิติพงศ์ ลาโพธิ์ หัวหน้าโค้ชเปิดเผยว่า ถึงตอนนี้ นักกีฬาทั้ง 7 คน มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ 85%-90% โดยบางคนยังมีอาการบาดเจ็บบางคน แต่เชื่อว่าจะฟิตสมบูรณ์เมื่อถึงเวลาแข่งขัน และนักกีฬาทุกคนก็ยืนยันว่าเต็มที่แน่นอน
 

“เป้าหมายทุกคนหรือทุกประเทศหวังเหรียญ แต่ผมจะบอกนักกีฬาว่า ขอให้นำสิ่งที่ฝึกซ้อมไปใช้ในตอนแข่งให้ได้ผมก็พอใจแล้ว ส่วนผลการแข่งขันจะเป็นยังไงผมยอมรับได้ แต่ถ้าลงไปไม่สู้หรือเล่นไม่เต็มที่สุดความสามารถ โค้ชจะเสียใจมาก คุณอยู่ในสนามถ้าคุณแพ้ ผมก็แพ้ไปกับพวกคุณ ผมจะไม่กดดันพวกเขา และผมมั่นใจว่าเรามีเหรียญแน่ แต่จะเป็นเหรียญอะไรค่อยดูกัน” หัวหน้าโค้ชทีมแบดมินตันพาราลิมปิกกล่าว

ทั้งนี้ ทีมงานผู้ฝึกสอน นักกีฬา และทุกคนยังได้ฝากขอบคุณทีมงานทุกคนที่ช่วยกันและทำงานเป็นทีมตลอดมา ขอบคุณสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ฯและคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯ ขอบคุณสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอบคุณกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย ขอบคุณสิงห์คอเปอร์เรชั่น FBT Yonex และขอบคุณศูนย์ฝึกกีฬาคนพิการแห่งชาติ จ.สุพรรณบุรี ที่ช่วยเหลือดูแลเรื่องสถานที่ฝึกซ้อม
 

สำหรับการแข่งขันแบดมินตันพาราลิมปิกโตเกียว จะจับสลากในวันที่ 26 สิงหาคม ส่วนการแข่งขันจะเริ่มวันที่ 1 กันยายน ขณะที่รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันในวันที่ 4 และ 5 กันยายน โดยนักกีฬาไทยทั้งหมดจะเดินทางไปโตเกียวในเวลา 21.45 น. คืนวันที่ 24 สิงหาคมนี้

อย่าลืมร่วมกันส่งใจเชียร์นักกีฬาพาราลิมปิกไทย