จบอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับแบดมินตันในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่มี 7 ชาติได้รับเหรียญรางวัลกลับบ้าน และถือเป็นการแข่งขันแบดมินตันที่ผลออกมาพลิกล้อคแทบทุกประเภท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในทุกวันนี้ นักแบดมินตันจากทั่วโลกสามารถยกระดับพัฒนาฝีมือมาใกล้เคียงกัน
 

ชาติที่ประสบความสำเร็จที่สุด ก็ยังคงเป็น ”จีน” ที่นักกีฬาจากชาตินี้ สามารถเข้าชิงชนะเลิศครบทุกรายการ และปิดการแข่งขันด้วย 2 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน ที่แสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ Covid-19 ที่เกิดขึ้นมากว่าหนึ่งปีครึ่ง จนนักกีฬาจากจีนไม่ได้ออกแข่งขันนอกประเทศยาวนานกว่า 16 เดือน แต่สุดท้ายก็พิสูจน์ว่าไม่มีผลกระทบอะไร หากพวกเขายังคงฝึกซ้อมอย่างหนัก แม้ไม่ได้ทดสอบฝีมือกับนักกีฬาชาติอื่น

 

อีกชาติที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากเกินคาด นั่นก็คือ ”ไต้หวัน” ชาติเล็กๆที่ไม่เคยได้เหรียญรางวัลจากแบดมินตันในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเลย แต่คราวนี้ นักกีฬาจากไต้หวันทำผลงานได้ดีด้วยการคว้าหนึ่งเหรียญทองและหนึ่งเหรียญเงิน จากชายคู่และหญิงเดี่ยว ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นอีกประเทศที่มีนักแบดมินตันมือดี

 

ส่วน ”เดนมาร์ก” ก็ยังคงยืนยันว่าพวกเขาคือประเทศที่ดีที่สุดในยุโรป และจากริโอ 2016 ที่มีหนึ่งเหรียญเงินหนึ่งเหรียญทองแดง คราวนี้พวกเขามีเหรียญทองกลับประเทศอีกครั้งจาก Viktor Axelsen นักแบดมินตันชายเดี่ยวดีกรีอดีตแชมป์โลกและเจ้าของเหรียญทองแดงครั้งก่อน

 

อีกประเทศที่ถือว่าผลงาน ”ดีขึ้น” นั่นคือ ”อินโดนีเซีย” ที่โอลิมปิก 2016 พวกเขากลับบ้านด้วยหนึ่งเหรียญทองจาก Tontowi Ahmad / Liliyana Natsir ในประเภทคู่ผสม แต่ปีนี้ พวกเขามีหนึ่งเหรียญทองและหนึ่งเหรียญทองแดงจากหญิงคู่และชายเดี่ยว

เมื่อมี ”ผู้ชนะ” ก็ต้องมี ”ผู้แพ้” และประเภทที่ถือว่าทำผลงานน่าผิดหวังที่สุดในแบดมินตันโอลิมปิก 2020 คือ ”ญี่ปุ่น” ประเทศเจ้าภาพ
 

สำหรับ ”ญี่ปุ่น” ถือเป็นประเทศที่ถูกคาดหวังสูงจากแฟนแบดมินตันทั่วโลก เพราะขุมกำลังนักกีฬาชุดนี้มีแชมป์โลก มือหนึ่งโลก และนักกีฬาที่คว้าแชมป์รายการใหญ่ทั่วโลกมาแล้วมากมาย ถึงขั้นมีบทวิจารณ์ว่าอาจจะเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะคว้าทั้ง 5 เหรียญทองเหมือนที่จีนเคยทำในโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน

 

แต่การแข่งขันไม่ใช่การเขียนบทกระดาษ เพราะผลการแข่งขันแบดมินตัน 10 วันที่โตเกียว นักแบดมินตันญี่ปุ่นค่อยๆแพ้แบบไม่น่าเชื่อ และจบการแข่งขันโดยไม่มีนักกีฬาญี่ปุ่นผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศและชิงเหรียญทองเลยแม้แต่คนเดียว โดยมีรางวัลปลอบใจคือเหรียญทองแดงจาก Yuta Watanabe / Arisa Higashino ในประเภทคู่ผสม

 

อีกชาติที่ถือว่า ”ล้มเหลว” คือ”มาเลเซีย” ที่เพิ่ง ”ยกเครื่อง”ทีมชาติหลังจบการแข่งขันในประเทศไทย โดยนักกีฬาหลายคนถูกตัดออกจากทีมชาติ แต่ในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ นักกีฬาที่ถูกตัดออกจากทีมชาติ ก็ผ่านมาร่วมแข่งขันทั้งหญิงเดี่ยวและคู่ผสม

 

สุดท้ายมาเลเซียมีเพียงเหรียญทองแดงจาก Aaron Chia / Soh Wooi Yik ในประเภทชายคู่ ทั้งๆที่โอลิมปิกเมื่อ 5 ปีก่อน พวกเขาเข้าชิงเหรียญทองถึง 3 ประเภทจากชายเดี่ยว ชายคู่และคู่ผสม และการที่ผลงานพลาดเป้าหมาย เชื่อว่าสมาคมแบดมินตันมาเลเซียจะ ”ยกเครื่อง”ทีมผู้ฝึกสอนแน่นอน

 

อีกชาติที่น่าผิดหวังคือ ”อินเดีย” ที่ Pusarla Venkata Sindhu ได้เหรียญทองแดง แต่โอลิมปิก 2016 เธอคือเหรียญเงิน แถมนักกีฬาชายเดี่ยวที่เป็นมือวาง ก็ตกรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนชายคู่ก็เช่นกัน ไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม

ส่วน ”เกาหลี” ก็รักษามาตรฐานเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญและมาจากประเภทเดิม นั่นคือหญิงคู่ พร้อมตั้งเป้าหมายใหม่ว่าอีก 3 ปีข้างหน้าพวกเขาจะต้องมีผลงานดีกว่านี้



ขณะที่ ”อังกฤษ” หรือ ”สหราชอาณาจักร” ที่ครั้งก่อนมีเหรียญทองแดงจากชายคู่คือ Great Britain / Chris Langridge แต่คราวนี้พลาดทุกเหรียญ แถมก่อนมาโตเกียวก็มีเรื่องฉาว เมื่อชายคู่คู่เหรียญทองแดงครั้งก่อนถูกตัดชื่อออก โดยเลือก Ben Lane / Sean Vendy ที่อันดับโลกต่ำกว่าและประสบการณ์น้อยกว่า ซึ่งสุดท้ายคู่นี้ก็ตกรอบแบ่งกลุ่มโดยแพ้รวดทั้ง 3 แมทช์

Cr.Photo : BadmintonPhoto