การแข่งขัน YONEX Swiss Open 2021 ที่เป็นการแข่งขันระดับ HSBC BWF World Tour Super 300 ชิงเงินรางวัล 140,000 เหรียญสหรัฐ ที่เมือง Basel ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้จบลงไปเมื่อวาน(7มี.ค.) ซึ่งผลการแข่งขันแฟนๆคงรู้กันแล้ว แต่มาตรวจสอบผลงานนักกีฬาไทยว่าสอบผ่านหรือไม่ผ่าน
 

อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันดีแล้วว่า นักกีฬาไทยที่เดินทางไปแข่งขันที่สวิตเซอร์แลนด์ครั้งนี้ ไม่ใช่นักกีฬาชุดใหญ่หรือทีมชาติทั้งหมด เพราะไม่มีนักกีฬามือหนึ่งทั้งหญิงเดี่ยวคือ”เมย์”รัชนก อินทนนท์ และคู่ผสม “บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย แต่ภาพรวมก็ยังเป็นนักกีฬาดีกรีทีมชาติอยู่ดี

 

เริ่มจากประเภทชายเดี่ยว ที่ต้องถือว่าเป็นประเภทที่ทำผลงานได้ดีที่สุด เพราะในวันสุดท้ายก็มี ”วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 8 ของรายการ ดาวรุ่งที่กำลังพัฒนาหลังขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่เมื่อพ้นจากระดับเยาวชนที่ทิ้งผลงานประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัย สามารถเข้าชิงชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ Viktor AXELSEN มือหนึ่งของรายการที่มีดีกรีแชมป์โลกมาแล้ว 16-21,6-21 แต่ก็ถือว่าเป็นประเภทที่นักกีฬาไทยทำผลงานได้ดี

นอกจาก”วิว”นักกีฬาชายเดี่ยวไทยที่ไปแข่งขันก็ทำผลงานได้ดี ไม่มีใครตกรอบแรก และ”กัน”กันตภณ หวังเจริญ ก็ทำผลงานทะลุเข้าถึงรอบ 8 คนสุดท้ายก่อนจะแพ้ Kidambi Srikanth มือ 4 ของรายการจากอินเดีย 19-21,15-21 และถือว่าทั้งคู่ยังเป็นนักกีฬาไทยที่จะเป็นกำลังสำคัญต่อไปในเวลาที่จะมีรุ่นพี่หลายคนเลิกเล่นตามวัย
 

ในประเภทหญิงเดี่ยวในวันที่ไม่มี ”เมย์” ไปแข่งขัน แต่นักกีฬาหญิงเดี่ยวของไทยก็ยังโชว์ผลงานได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะ ”หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศก่อนจะแพ้ Carolina Marin ที่คว้าแชมป์รายการนี้แบบได้ใจแฟนๆ 19-21,22-20,19-20

 

ส่วนอีก 2 คนก็ถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจที่เข้ามาถึงรอบ 8 คนสุดท้าย นั่นคือ”ครีม”บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธ์ ที่เป็นมือ 5 ของรายการ ที่แพ้ Pusarla V. Sindhu มือ 2 และรองแชมป์รายการนี้ ขณะที่”จิว”พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ ก็ทำผลงาน 2 รอบแรกด้วยการชนะทั้ง Saina Nehwal และ Sung Ji Hyun ที่เป็นมือ 6 ของรายการ ก่อนจะเกิดอาการล้าจนตกรอบ 8 คนสุดท้ายเมื่อแพ้ Mia Blichfeldt มือ 4 ของรายการจากเดนมาร์กแบบสกอร์ค่อนข้างห่างในเกมสอง

ในประเภทชายคู่ ที่แฟนแบดมินตันรู้กันดีว่าเป็นประเภทที่ทุกวันนี้ไทยไม่มีนักกีฬามือดี แต่ “ต้นน้ำ-มาร์ก” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร / ตนุภัทร วิริยางกูร ที่เป็นนักกีฬาคู่เดียวที่ไปแข่งขัน ก็โชว์ผลงานดีต่อเนื่องจากที่แข่งขันในไทย โดยผ่านเข้าถึงรอบ Quarter Final ก่อนจะแพ้ Mark Lamsfuss / Marvin Seidel คู่รองแชมป์รายการนี้จากเยอรมัน 14-21,21-18,9-21
 

นอกจากนั้น “ต้นน้ำ-มาร์ค” ยังสร้างผลงานได้ดีด้วยการเอาชนะ Vladimir Ivanov / Ivan Sozonov คู่มือ 7 ของรายการจากรัสเซีย ดีกรีอดีตแชมป์ All England 21-16,19-21,21-16 ที่หากให้เวลาและได้แข่งขันมากขึ้น เชื่อว่า คู่มือ 83 โลกคู่นี้จะเป็นคู่ที่ดีที่สุดของไทยในวันนี้

 

ในประเภทหญิงคู่ น่าเสียดายที่ “กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ คู่มือหนึ่งของรายการ แพ้ Gabriela STOEVA / Stefani STOEVA สองพี่น้องจากบัลแกเรียที่เป็นมือ 3 ของรายการ 16-21,14-21 ในรอบรองชนะเลิศ ที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อต้องเล่นเกมใช้พละกำลัง นักกีฬาไทยดูจะยังมีปัญหา และหากมีนักกีฬาจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาร่วมแข่งขันก็จะเป็นคำถามเดิมๆว่าจะสู้ไหวหรือไม่

ส่วนคู่ “แอนนา-มูนา”เบญญาภา เอี่ยมสอาด / นันทกานต์ เอี่ยมสอาด คู่สองพี่น้องวัยรุ่น ก็ถือว่าเป็นนักกีฬาคู่อนาคต และหากมีโอกาสลงแข่งขันมากกว่านี้ ก็น่าจะขยับอันดับจาก 72 ในปัจจุบันได้แน่นอน
 

ปิดท้ายประเภทคู่ผสม ซึ่งสำหรับทีมชาติคงมี”บาส-ปอป้อ”เป็นหลัก ส่วนรายการที่สวิตเซอร์แลนด์ น่าจะเป็นการเล่นคู่ประเภทเฉพาะกิจระหว่าง “ต้นน้ำ”นิพิฐพนธ์ กับ “มูนา”เบญญาภา จึงตกรอบแรกเมื่อแพ้  Chan Peng Soon / Goh Liu Ying คู่มือหนึ่งของรายการจากมาเลเซีย 15-21,21-15,19-21 และคงมีคำถามว่า”ต้นน้ำ”ควรเล่นประเภทไหน เช่นเดียวกับ ”มูนา” ที่น่าจะเลือกระหว่างเล่นเดี่ยวหรือเล่นคู่

 

แม้การแข่งขัน Swiss Open จะไม่มีนักกีฬาไทยคว้าแชมป์กลับมา แต่อย่าลืมว่ารายการ Super 300 รายการนี้ก็เป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิก จึงมีนักกีฬามือดีจากทั่วโลกมาแข่งขัน และการที่นักกีฬาไทยสามารถผ่านเข้ารอบลึกๆและมีนักกีฬาลงสนามในวันสุดท้าย จึงถือว่าน่าพอใจกับผลงานของทุกคน

พักหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ทั้งหมดจะไปอังกฤษเพื่อร่วมศึก All England

Cr.Photo : BadmintonPhoto