รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
สามรายการแรกที่เมืองไทย...ความสำเร็จของแบดมินตันไทย
  1 ก.พ. 2564
แบ่งปัน



ในที่สุด การแข่งขันตามปฏิทินของสหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF)ที่จัดขึ้นในประเทศไทยก็จบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์แบบในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพราะการระบาดของ Covid-19 แต่การที่ทุกอย่างดำเนินการไปได้อย่างเป็นไปตามแผน ก็ต้องถือเป็นความสำเร็จที่ประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพ ได้รับการยอมรับในสถานะ ”ผู้จัดการแข่งขัน” ที่ทำได้ดีเท่าที่ประเทศในโลกนี้สามารถทำได้
 
  ขณะเดียวกัน ในมุมของผลการแข่งขัน แม้จะยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน เนื่องจากขาดนักกีฬาจีน ที่รัฐบาลห้ามประชากรเดินทางออกนอกประเทศในทุกกรณี และญี่ปุ่น ที่บังเอิญ Kento Momota นักแบดมินตันชายเดี่ยวมือหนึ่งโลกถูกตรวจพบว่ามีผลเป็นการตรวจสอบ Covid-19 เป็นบวก สมาคมแบดมินตันญี่ปุ่นจึงตัดสินใจยกเลิกการเดินทางเพื่อตรวจสอบนักกีฬาทั้งทีม เนื่องจากพวกเขาฝึกซ้อมร่วมกันทั้งวันก่อนเดินทาง
 
อย่างไรก็ตาม ผลการแข่งขันทั้ง 3 รายการ เริ่มตั้งแต่ Yonex Thailand Open ต่อด่วย Toyota Thailand Open จนถึง BWF World Tour Final ก็สะท้อนภาพให้เห็นได้มนมุมหนึ่งว่านักกีฬาชาติไหนมีความพร้อมมากเพียงใด โดยเฉพาะการเตรียมตัวสำหรับโอลิมปิก 2020 ที่จะแข่งขันในกลางปีนี้  
 
  โดยเมื่อไม่นับรวมจีนกับญี่ปุ่นที่ไม่ได้มาแข่งขันแล้ว ในบรรดาประเทศที่มีนักกีฬาแบดมินตันชั้นนำ “อินเดีย” ถือเป็นประเทศที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังที่สุด เพราะไม่มีนักกีฬาแม้แต่คนเดียวที่สามารถผ่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศในสามรายการ ทั้งที่นักกีฬาชายเดี่ยวอย่าง KIDAMBI Srikanth หรือหญิงเดี่ยวทั้ง PUSARLA V. Sindhu แชมป์โลกคนปัจจุบันและ Saina NEHWAL ก็ทำผลงานได้ไม่ดี โดยเฉพาะแชมป์โลกหญิงเดี่ยว ที่ลงทุนไปเก็บตัวและฝึกซ้อมที่อังกฤษคนเดียวยาวนาน
 
ส่วนประเทศเกาหลีและอินโดนีเซีย ถือว่า ”สอบผ่าน” แบบเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะเกาหลีมีเพียง ”หญิงคู่” ที่กู้หน้าทีมแบดมินตันของเกาหลี โดย LEE So Hee / SHIN Seung Chan หญิงคู่มือ 4 ของโลกกับ KIM So Yeong / KONG Hee Yong คู่มือ 6 โลก สามารถทะลุเข้าไปชิงกันเองและแบ่งคนละแชมป์ในรายการ Toyota Thailand Open กับ World Tour Final  
 
  ขณะที่อินโดนีเซีย ที่ Marcus Fernaldi GIDEON / Kevin Sanjaya SUKAMULJO ชายคู่มือหนึ่งโลกต้องถอนตัว การแข่งขันทั้ง 3 รายการก็มีเพียงแชมป์เดียวคือหญิงคู่จาก Greysia POLII / Apriyani RAHAYU ในรายการ Yonex Thailand Open ที่มี Praveen JORDAN / Melati Daeva OKTAVIANTI เป็นรองแชมป์คู่ผสมในรายการเดียวกัน ขณะที่ชายคู่ Hendra SETIAWAN / Mohammad AHSAN ได้แค่รองแชมป์ในรายการ World Tour Final
 
ส่วนประเทศที่ทำผลงานได้ดีก็ต้องถือว่าไต้หวันทำได้เกินคาดหมาย โดยเฉพาะ LEE Yang / WANG Chi-Lin ชายคู่มือ 7 ของโลกที่คว้าแชมป์ทั้งสามรายการ แถมชนะคู่ชิงที่ไม่ซ้ำหน้ากัน ส่วน TAI Tzu Ying นักกีฬาหญิงเดี่ยวมือหนึ่งโลกก็รักษามาตรฐานได้ เข้าชิงชนะเลิศทั้ง 3 รายการกับ Carolina MARIN ทั้งหมด ที่แม้จะมีเพียงแชมป์เดียวคือ World Tour Final แต่ภาพรวมของฟอร์มการเล่นก็ยังถือว่าทำได้ดี ส่วน CHOU Tien Chen ก็สามารถทำผลงานน่าพอใจที่ผ่านถึงรอบรองชนะเลิศทั้ง 3 รายการ  
 
  โดยในประเภทชายเดี่ยวนั้น Viktor AXELSEN อดีตแชมป์โลกจากเดนมาร์ก ถือเป็นนักกีฬาที่เด่นที่สุด เพราะสามารถเข้าชิงชนะเลิศทั้ง 3 รายการ ก่อนที่จะได้ 2 แชมป์แรกและพลาดท่าให้กับ Anders ANTONSEN เพื่อนร่วมชาติรุ่นน้องในรายการสุดท้าย
 
นี่ไม่ต่างจาก Carolina MARIN แชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิกจากสเปน ที่ทำให้  ”ยุโรป” ยังมีนักกีฬาเชิดหน้าชูตา เพราะสามารถเข้าชิงกับ TAI Tzu Ying ทั้งสามรายการและคว้า 2 แชมป์แรก  
 
  นอกจากนั้น รายการนี้ก็แสดงให้เห็นว่ายุโรปยังมีนักกีฬามือดีอีกหลายคนที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็น Mia BLICHFELDT กับ Evgeniya KOSETSKAYA สองนักกีฬาหญิงเดี่ยวจากเดนมาร์กและรัสเซีย รวมถึง Ben LANE / Sean VENDY ชายคู่มือใหม่จากอังกฤษ และ Linda EFLER / Isabel HERTTRICH หญิงคู่มือ 31 โลกจากเยอรมันที่ทำผลงานได้ดีเกินคาด
 
สำหรับนักกีฬาไทยนั้น แน่นอนว่า ”บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่คว้าสามแชมป์ในประเภทคู่ผสมคงเป็นที่ภาคภูมิใจของแฟนแบดมินตันไทย ขณะที่ “กิ๊ฟ-วิว”สามารถเข้าขิงชนะเลิศในรายการแรกและเข้าถึงรอบรองชนะเลิศประเภทหญิงคู่ในรายการ World Tour Final ก็ถือว่าทำผลงานได้ตามมาตรฐาน ส่วน”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ก็ยังคงแสดงให้เห็นว่ามีฝีมือที่จะต่อสู้กับนักกีฬาทุกชาต และมี”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ก้าวขึ้นมาในระดับนักกีฬาหญิงเดี่ยวชั้นนำอีกคน  
 
  ขณะเดียวกัน การโชว์ผลงานที่ยอดเยี่ยมของ “เอ็ม-เฟรม”สุภัค จอมเกาะ / ศุภิศรา เพียวสามพราน คู่ผสมที่กลายเป็นขวัญใจแฟนแบดมินตันคู่ใหม่ของไทย รวมทั้งชายคู่อย่าง “เอ็ม-สกาย” สุภัค จอมเกาะ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน ก็พอที่จะมองเห็นคลื่นลูกใหม่ของไทย ที่จะมาเสริมทัพเพื่อนรุ่นให้กันอย่าง “วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ หรือ ”จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ ที่เริ่มเข้ามาแทนที่รุ่นพี่ที่กำลังนับถอยหลังการเล่นทีมชาติ



สามรายการในไทย ในมุมของสมาคมแบดมินตันไทย จึงเป็นความสำเร็จทั้งการจัดการแข่งขันและการหาเพชรเม็ดใหม่ขึ้นมาประดับวงการต่อไป
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ