หลังจากมีการยืนยันรายชื่อนักกีฬาที่จะร่วมแข่งขัน 3 รายการใหญ่ในประเทศไทยในเดือนหน้า ที่จะต้องยืนยันก่อนการแข่งขัน 14 วันเพื่อให้นักกีฬามาเก็บตัวในสถานที่เดียวกัน ตามรูปแบบ Bubble Quarantine เพื่อป้องกันการแพร่ระยาดของ Covid-19 ทำให้การจัดอันดับมือวางและจับสายประกบคู่ได้ดำเนินการได้เร็ว
 

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจถอนตัวของนักกีฬาจีน ที่ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศตามคำสั่งของรัฐบาล ทำให้อันดับมือวางหลายประเภทต้องเปลี่ยนแปลง รวมทั้งการจับสายประกบคู่ และมีนักกีฬาหลายชาติ รวมทั้งประเทศไทย ได้โควตานักกีฬาลงสนามเพิ่มขึ้น

   

สำหรับการแข่งขันรายการแรก คือ Yonex Thailand Open ที่จะแข่งขันในวันที่ 12-11 มกราคมนั้น มือวางก็ยังคงเช่นเดิม ยกเว้นที่อันดับหนึ่งโลกเป็นนักกีฬาจีน คือ ประเภทหญิงคู่ ที่ Yuki Fukushima / Sayaka Hirota จากญี่ปุ่นเป็นมือวางอันดับหนึ่ง และประเภทคู่ผสม ที่”บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เป็นมือหนึ่งแทนคู่ของจีน

 

รายการ Yonex Thailand Open เป็นการแข่งขันระดับ Super 1000 ดังนั้น นักกีฬาที่จะเข้าแข่งขันจึงเป็นมืออันดับต้นๆของโลก และไม่มีรอบคัดเลือก ทำให้การแข่งขันตั้งแต่รอบแรกก็อาจจะมีนักกีฬามือดีต้องเจอกันเอง และน่าสนใจที่นักกีฬาไทยหลายคนจะต้องเจอมือระดับโลกตั้งแต่รอบแรก ซึ่งนักกีฬาไทยก็เจอมือวางอันดับหนึ่งในหลายประเภท

 

โดยเริ่มที่ประเภทชายเดี่ยว “เพชร” โฆษิต เพชรประกับ จะเจอ Kento Momota มือหนึ่งโลกในประเภทนี้ ขณะที่”วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยก็เจอนักกีฬาญี่ปุ่น คือ Kanta Tsuneyama ชายเดี่ยวมือ 11 โบลกที่เพิ่งแพ้ Kento ในรอบชิงชายเดี่ยวศึกชิงแชมป์แห่งชาติญี่ปุ่นเมื่อสุดสัปดาห์

 

นอกจากนั้น “โอ๊ต”สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ก็จะเจอ Viktor Axelsen อดีตแชมป์โลกที่เป็นมือ 4 ของรายการ ส่วน”กัน”กันตภณ หวังเจริญ จะพบ Sai Praneeth B. นักกีฬาจากอินเดีย และปิดท้ายชายเดี่ยวคนที่ 5 ของไทยคือ”สอง”ทะนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข จะพบ Chou Tien Chen มือ 2 ของรายการจากไต้หวัน

   

ในประเภทหญิงเดี่ยว นักกีฬาไทยที่เจอศึกหนักตั้งแต่รอบแรกคือ”แน๊ต”ณิชาอร จินดาพล ที่จะพบ Tai Tzu Ying สาวมือหนึ่งของรายการ ส่วน”จิว”พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ จะพบ Kim Ga Eun จากเกาหลีที่ไม่ใช่งานง่ายแน่นอน ขณะที่”ครีม”บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ ไม่เจองานหนักคือ Sabrina Jaquet จากสวิตเซอร์แลนด์

 

ส่วนมือวางอันดับ 4 ที่อยู่สายล่าง”เมย์”รัชนก อินทนนท์ จะพบ Yeo Jia Min สาวร่าวเล็กอดีตมือหนึ่งเยาวชนโลกจากสิงคโปร์ ส่วน”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ เจองานเบาคือ Neslihan Yigit จากตุรกี และคนสุดท้าย”เมย์”ศุภนิดา เกตุทอง จะพบ Ruselli Hartawan จากอินโดนีเซีย

   

ในประเภทหญิงเดี่ยวจะมี”บิ๊กเนม”เจอกันเองในรอบแรกคือ Nozomi Okuhara อดีตแชมป์โลกและมือ 3 ของรายการจากญี่ปุ่น พบ Saina Nehwal อดีตมือหนึ่งโลกจากอินเดีย Evgeniya Kosetskaya จากรัสเซียพบ Akane Yamaguchi มือ 2 ของรายการจากญี่ปุ่น

 

มาถึงประเภทชายคู่ ที่มีนักกีฬาไทยได้สิทธิ์ 2 คู่คือ “อาร์ท-เอ”บดินทร์ อิสระ / มณีพงษ์ จงจิตร จะพบ Marcus Ellis / Chris Langridge ดีกรีเหรียญทองแดงโอลิมปิกครั้งก่อนจากอังกฤษ ส่วนคู่”ต้นน้ำ-มาร์ค”นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร / ตนุภัทร วิริยางกูร ที่ได้โควตาเพิ่ม จะเจอ Fajar Alfian / Muhammad Rian Ardianto มือ 5 ของรายการจากอินโดนีเซีย

   

ประเภทชายคู่รอบแรกที่น่าชมสุดๆก็คือ ”ศึกสายเลือด” ระหว่าง Aaron Chia / Soh Wooi Yik มือ 8 ของรายการจากมาเลเซีย ที่พบรุ่นพี่เหรียญเงินโอลิมปิก Goh V Shem / Tan Wee Kiong ที่มีโควตาโอลิมปิก 2020 กลางปีนี้เป็นเดิมพัน

 

ในประเภทหญิงคู่ที่มีสาวไทยลงแข่งขันถึง 5 คู่ แต่มีพบกันเองตั้งแต่รอบแรก นั่นคือ “กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กติธรากุล / รวินดา ประจงใจ มือ 7 ของรายการ พบ “นั่ง-เจน”ชาสินี โกรีภาพ / เฌอย์นิชา สุดใจประภารัตน์ ส่วน”เบสท์-จ๋อมแจ๋ม”ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม / ผไทมาส เหมือนวงศ์ พบ Linda Efler / Isabel Herttrich คู่เยอรมันที่อันดับโลกดีกว่าคู่ไทย

 

นอกจากนั้นก็มี “เอิร์ธ-ปอป้อ”พุธิตา สุภจิรกุล / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย จะพบ Setyana Mapasa / Gronya Somerville จากออสเตรเลีย คู่พี่น้อง "มูนา-แอนนา" เบญญาภา เอี่ยมสะอาด / นันทกานต์ เอี่ยมสะอาด จะพบ Pearly Tan / Thinaah Muralitharan จากมาเลเซีย

 

ปิดท้ายประเภทคู่ผสมที่”บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เป็นมือหนึ่งของรายการ จะพบ Hoo Pang Ron / Cheah Yee See จากมาเลเซีย “เอ็ม-เฟรม”สุภัค จอมเกาะ / ศุภิสรา เพียวสามพราน จะเจอ Rinov Rivaldy / Pitha Haningtyas Mentari จากอินโดนีเซีย และ"ต้นน้ำ-นั่ง" นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร / ชาสิณี โกรีภาพ จะเจอ Mathias Christiansen / Alexandra Bøje จากเดนมาร์ก

ถือว่านักกีฬาไทยต่างก็เจอศึกหนัก เพราะกว่า 9 เดือนที่ผ่านมา นักกีฬาแทบจะไม่ได้ลงสนามแข่งขันเลย จึงเหมือนกับเป็นการเริ่มนับหนึ่ง ที่อยากให้แฟนๆร่วมส่งกำลังใจเพราะจะยังไม่เปิดให้แฟนแบดมินตันเข้าชม