สำหรับการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่รายการแรกของสหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) ที่จะจัดในเดือนมกราคมในประเทศไทย อันได้แก่ YONEX Thailand Open ต่อด้วย TOYOTA Thailand Open และปิดท้ายด้วย HSBC BWF World Tour Finals 2020 นั้น กล่าวได้ว่ามีความสำคัญยิ่ง
 

ปี 2020 ที่กำลังจะหมดไปและไม่มีการแข่งขันอีกแล้ว ถือเป็นปีแห่งความยุ่งยาก เป็นปีแห่งความทดท้อ และเป็นปีแห่งความน่าเบื่อของนักกีฬามากมาย โดยนับเป็นเวลายาวนาน นับแต่จบการแข่งขัน All England เมื่อกลางเดือนมีนาคม จากนั้นนักกีฬาก็มีแค่”ฝึกซ้อม” โดยมีการแข่งขันรายการเดียวคือ DANISA Denmark Open เมื่อกลางเดือนตุลาคม

 

การที่ไม่มีโปรแกรมแข่งขัน ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเหมือน”หยุดนิ่ง”ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโควตาที่จะไปแข่งขันโอลิมปิก ขณะที่นักกีฬาเองก็ขาดหายรายได้จากการแข่งขันไปมากมาย เมื่อรายการต่างๆทุกระดับไม่มีการแข่งขัน ทำให้การแข่งขันที่กรุงเทพฯในเดือนหน้า จึงสำคัญ

 

โดยเฉพาะ 2 รายการแรกคือ Thailand Open ทั้งสองรายการ ที่นอกจากจะเป็นการแข่งขันระดับ HSBC BWF World Tour Super 1000 ชิงเงินรางวัลรวมรายการละหนึ่งล้านเหรียญแล้ว ยังกลายเป็นตัวชี้ชะตาในการรับ”โบนัส” คือสิทธิเข้าร่วมแข่งขันรายการ World Tour Final ที่เป็นรายการสุดท้าย

   

การขาดรายการแข่งขันมากมาย จึงทำให้นักกีฬาจะต้องมุ่งมั่นทำผลงานศึก Thailand Open ทั้งสองทัวร์นาเมนต์ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นหนึ่งในแปดคนหรือแปดคู่ เข้าชิงชัยโบนัส 1.5 ล้านเหรียญในรายการ World Tour Final ที่จะประกาศรายชื่อหลังจบ TOYOTA Thailand Open

 

โดยถึงตอนนี้ กล่าวได้ว่า รายชื่อนักกีฬาที่จะเข้าร่วมศึก HSBC BWF World Tour Finals 2020 ในวันที่ 27-31 มีนาคม ยังขาดรายชื่อ”บิ๊กเนม”ในทุกประเภท เพราะหลายคนไม่ได้ร่วมแข่งขันรายการต่างๆ โดยเฉพาะรายการใหญ่รายการสุดท้ายของปีคือ DANISA Denmark Open ทำให่คะแนนสะสมเพื่อแข่งขัน Final คือ HSBC RACE TO GUANGZHOU RANKINGS หรือ HSBC RACE TO BANGKOK RANKINGS แทบจะไม่มี

   

โดย World Ranking ของ BWF ในขณะนี้ อันดับโลกคือ BWF WORLD RANKINGS ยังคง”แช่แข็ง”อยู่ที่สัปดาห์ที่ 12 คือวันที่ 17 มีนาคม แต่อันดับ HSBC RACE TO GUANGZHOU RANKINGS ที่ให้สิทธิ์นักกีฬาเขจ้าร่วม World Tour Final ได้ปรับเมื่อสัปดาห์ที่ 43 คือ 20 ตุลาคม หลังจบการแข่งขันทีเดนมาร์ก

 

อย่างที่กล่าว นั่นคือนักกีฬาที่ได้สิทธิ์แข่งขัน World Tour Final ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนในประเทศไทย อาจจะไม่ใช่มือต้นของโลกอย่างที่ผ่านมา

 

โดยเริ่มที่ชายเดี่ยว ในรายชื่อผู้ได้โควตาแข่งขันที่นับจนถึงสัปดาห์ที่ 43 นั้น ในนักกีฬาทอปเทน ไม่มีทั้ง Kento MOMOTA ชายเดี่ยวมือหนึ่งโลก CHEN Long แชมป์ชายเดี่ยวโอลิมปิกจากจีน รวมทั้ง Anthony Sinisuka GINTING ชายเดี่ยวมือ 6 ของโลกจากอินโดนีเซีย

 

โดย HSBC RACE TO GUANGZHOU RANKINGS จนถึงขณะนี้ มี Viktor AXELSEN แชมป์ All England นำมาเป็นคนแรก และมีนักกีฬาจากเดนมาร์กอีก 2 คนคือ Anders ANTONSEN กับ Rasmus GEMKE อยู่อันดับ 2 และ 4 โดย Kenta NISHIMOTO ที่ไปแข่งขันที่เดนมาร์ก อยู่อันดับ 3

 

ส่วนนักกีฬามือดีที่ยังต้องสร้างผลงาน 2 รายการแรกในไทยเพื่อได้สิทธิ์ลงชิงชัยรายการ World Tour Final นั้น Kento MOMOTA อยู่อันดับ 35 ที่ 9,200 คะแนน ส่วน CHEN Long อยู่อันดับ 28 มี 11,640 คะแนน และ Anthony Sinisuka GINTING อยู่อันดับ 17 ที่ 14,420 คะแนน

 

ถ้าถามว่านักกีฬาเหล่านี้มีโอกาสไหม คำตอบก็คือ ”ไม่ยาก” หากทำผลงาน 2 รายการแรกในไทยได้ดี เพราะคะแนนของนักกีฬาที่ได้อันดับ 8 ในขณะนี้คือ KIDAMBI Srikanth ก็มีคะแนน 21,760 คะแนน นั่นคือหากสามารถเข้าถึงรอบลึกๆหรือคว้าแชมป์ ก็จะมีคะแนนสะสมมากพอที่จะขยับอันดับได้

 

ในประเภทหญิงเดี่ยว ในมือทอปของโลกมีเพียง Akane YAMAGUCHI ที่คะแนนเข้าแข่งขัน Final ไม่ติดหนึ่งในแปด คือมี 19,420 คะแนน ซึ่งคงไม่น่าจะมีปัญหาที่จะขยับ เช่นเดียวกับ TAI Tzu Ying สาวมือหนึ่งโลกที่อยู่อันดับ 8 ด้วยคะแนน 19,800 โดยคนที่น่าห่วงว่าจะหลุดจากโควตาคือ WANG Zhi Yi ที่อยู่โควตาอันดับ 5 ที่ 21,780 คะแนน และ”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ที่อยู่อันดับ 4 มี 22,460 คะแนน ส่วนที่เหลือเป็นมือทอปทั้งหมด รวมทั้ง”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่ยังคงรักษาอันดับ 3 อยู่ได้ โดยตามหลัง Carolina MARIN และ Nozomi OKUHARA คู่ชิงหญิงเดี่ยวที่เดนมาร์กอยู่ประมาณห้าพันคะแนน

 

ในประเภทชายคู่ ไม่น่าเชื่อว่าคะแนนสะสมประเภทนี้ไม่มีนักกีฬาจากจีนผ่านมาแข่งขันรายการ Final โดยคะแนนที่ดีที่สุดของนักกีฬาจากจีนคือ HUANG Kai Xiang / LIU Cheng ที่อยู่อันดับ 13 ส่วนคู่อดีตแชมป์โลก LI Jun Hui / LIU Yu Chen คู่มือ 3 ของโลกคะแนนอยู่ที่ 23 ส่วนคู่มือ 4 และ 5 ของโลกจากญี่ปุ่นคือ Hiroyuki ENDO / Yuta WATANABE กับ Takeshi KAMURA / Keigo SONODA อยู่อันดับ 27 กับ 33

 

อย่างไรก็ตาม ในประเภทนี้ นักกีฬามือดีจากอินโดนีเซีย ทั้ง Marcus Fernaldi GIDEON / Kevin Sanjaya SUKAMULJO คู่มือหนึ่งโลก และ Mohammad AHSAN / Hendra SETIAWAN คู่มือ 2 โลก ยังมีคะแนนสะสมอยู่ที่ 3 กับ 8 แม้จะไม่ได้ไปแข่งขันที่เดนมาร์ก ซึ่งทำให้คะแนนนักกีฬาจากยุโรปขยับมาติดอันดับกันมากหลายคู่

 

ในประเภทหญิงคู่ CHEN Qing Chen / JIA Yi Fan หญิงคู่มือหนึ่งโลกก็มีคะแนนสะสมอยู่ที่ 10 แต่ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะใน 8 อันดับคะแนนสะสม มีนักกีฬาจากเกาหลีพาเหรดมาอยู่ในลิสต์ถึง 4 คู่ คือ CHANG Ye Na / KIM Hye Rin ที่มีคะแนนอยู่อันดับ 2 ส่วนอีก 3 คู่คือ BAEK Ha Na / JUNG Kyung Eun ต่อด้วย KIM So Yeong / KONG Hee Yong และ LEE So Hee / SHIN Seung Chan อยู่อันดับ 6-7-8

 

ส่วนญี่ปุ่น นอกจาก Yuki FUKUSHIMA / Sayaka HIROTA คู่แชมป์ All England ที่มีคะแนนอยู่อันดับหนึ่งแล้ว Misaki MATSUTOMO / Ayaka TAKAHASHI คู่เหรียญทองโอลิมปิกที่เลิกเล่น ยังมีคะแนนอยู่ที่ 12 ส่วน Mayu MATSUMOTO / Wakana NAGAHARA คู่แชมป์โลก 2 สมัยอย่าอันดับ 13 และ Nami MATSUYAMA / Chiharu SHIDA อยู่อันดับ 14

 

ขณะที่นักกีฬาไทย “กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ หญิงคู่มือ  ของโลกยังมีโอกาส หากทำผลงานในไทยได้ดี เพราะคะแนนสะสมอยู่อันดับ 16 ที่ไม่ห่างจากอันดับที่ได้โควตาแค่หกพันคะแนน

 

ปิดท้ายคู่ผสม ที่คู่มือทอปของโลกต้องเร่งทำคะแนนในไทย โดยเฉพาะนักกีฬาจากญี่ปุ่น คือ Yuta WATANABE / Arisa HIGASHINO ที่คะแนนสะสมร่วงไปอยู่ที่ 45 ด้วย 4,800 คะแนน ทำให้ห่างจากคะแนนอันดับ 8 คือคู่ TAN Kian Meng / LAI Pei Jing ที่มี 21,190 อยู่ค่อนข้างมาก

 

อย่างไรก็ตาม คะแนนของคู่จีนคือ ZHENG Si Wei / HUANG Ya Qiong แชมป์โลก 2 สมัย กับ WANG Yi Lyu / HUANG Dong Ping รองแชมป์โลก 2 สมัย ยังน่าจะติดโผเข้าแข่ง เพราะมีคะแนนสะสมอยู่อันดับ 4 และ 5

 

ส่วนคู่มือดีที่ยังต้องทำผลงานในไทย 2 รายการแรกให้ดี ก็มี “บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเราะห์ / ทรัพย์สินรี แต้รัตนชัย คู่มือ 3 ของโลกที่คะแนนอยู่อันดับ 15 Praveen JORDAN / Melati Daeva OKTAVIANTI คู่มือ 4 โลกจากอินโดนีเซียที่คะแนนอยู่อันดับ 13 และ CHAN Peng Soon / GOH Liu Ying คู่มือ 7 ของโลกที่อยู่อันดับ 17

ทั้งหมดเป็นรายชื่อนักกีฬาที่ยังต้องเร่งสร้างผลงานใน Thailand Open ในไทยทั้ง 2 รายการเพื่อเข้าไปชิง”โบนัส” ในการแข่งขัน HSBC BWF World Tour Finals 2020 ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม



นี่จึงเชื่อว่าการแข่งขันในไทยทั้งสามรายการ จะเป็นเสมือนเกมหยุดโลกที่ทุกคนรอคอย...ทั้งกองเชียร์และนักกีฬา