รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
ถึงเวลา..คลื่นลูกใหม่ของแบดมินตันไทย
  14 ส.ค. 2563
แบ่งปัน

การแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ ”โตโยต้า ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563” ที่เพิ่งจบไปเมื่อวันพฤหัสบดี(13ส.ค.) ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญของวงการแบดมินตันไทย เพราะ ”แชมป์” ทั้ง 5 ประเภทต่างก็เป็นแชมป์ครั้งแรก และที่น่าสนใจก็คือ ทั้งหมดล้วนเป็นนักกีฬาระดับเยาวชน หรือเพิ่งพ้นเยาวชน



แน่นอน อาจจะมีคนมองว่า นอกจากประเภทชายเดี่ยวแล้ว นักกีฬามือหนึ่งของประเทศอีก 4 ประเภททั้งหญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่และคู่ผสม ไม่ได้ลงสนาม แต่ในความเป็นจริง นอกจาก ”มือหนึ่ง” นักกีฬาทุกประเภทต่างก็มาลงสนามแทบทุกคน เหตุผลข้างต้นจึงไม่ใช่คำตอบว่า ”คลื่นลูกใหม่” ของวงการแบดมินตันไทย ทำผลงานได้น่าประทับใจหรือไม่

โดยในประเภทชายเดี่ยว ชื่อของ ”วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ อดีตแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัย ที่คว้าแชมป์หลังเอาชนะ “กัน” กันตภณ หวังเจริญ ในการดวลมาราธอนเกือบชั่วโมงครึ่ง ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า ถึงเวลานี้ ”วิว” เหมาะสมแล้วที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกทีมชาติแทนรุ่นพี่หลายคนที่ค่อยๆถดถอยไปตามอายุ



ในประเภทหญิงเดี่ยว การคว้าแชมป์ของ”จิว”พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ หลังเอาชนะ”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ก็คงมีคำถามว่า”จิว”ดีพอหรือไม่ เพราะในประเภทหญิงเดี่ยว ถือเป็นประเภทที่นักกีฬาไทยติดอันดับโลกมากมาย ตั้งแต่”เมย์”รัชนก อินทนนท์ อดีตแชมป์โลก “ครีม”บุศนันทน์ อึ้งบำรุงพันธ์ , “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ และ”แน๊ต”ณิชาอร จินดาพล แต่อย่างน้อยผลงานรายการนี้คงทำให้หลายคนมองเห็นคำตอบมากขึ้น



ส่วนประเภทชายคู่ ที่ถือว่าเป็นประเภทที่ประเทศไทยขาดนักกีฬามือดีมาพักใหญ่ การปรากฏตัวของนักกีฬา 4 คู่ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งสุดท้ายเป็น สุภัค จอมเกาะ / กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คว้าแชมป์เมื่อเอาชนะ ณัฐพัฒน์ ตฤณขจี / ตนุภัทร วิริยางกูร ก็คงมองเห็นอนาคตของนักกีฬาประเภทนี้ เมื่อ”อาร์ท-เอ”บดินทร์ อิสระ / มณีพงษ์ จงจิตร คู่มือหนึ่งของไทยยังคงมีอาการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ นันทกานต์ ยอดไพสง / เฉลิมพล เจริญกิจอมร และ นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร / รัชพล มรรคศศิธร ที่ผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศ ก็ไม่ควรมองข้ามทั้งฝีมือและประสบการณ์



ที่น่าแปลกใจก็คือ เมฆ ณรงค์ฤทธิ์ / กิตติศักดิ์ นามเดช ที่เป็นคู่มือวางอันดับหนึ่งของรายการ กลับตกรอบเร็วเกินคาด แต่ก็ยังไม่ควรกาชื่อทิ้งสำหรับการเตรียมทีม แต่เป็นที่รู้และเห็นหลายครั้งว่าในปัจจุบัน ประเภทชายคู่ของไทย จะมีการสบับกันลงในรูปแบบ ”คู่เฉพาะกิจ”หลายครั้งในการแข่งขันหลายรายการ



ในประเภทหญิงคู่ ที่พี่น้อง“แอนนา-มูนา” นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด / เบญญาภา เอี่ยมสอาด คว้าแชมป์เมื่อเอาชนะ ณิชาอร จินดาพล ที่มาจับคู่กับ รวินดา ประจงใจ ก็ถือว่าทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะ”มูนา”เบญญาภา ที่เพิ่งคว้าแชมป์เยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทยมาครองด้วย ซึ่งคงเป็นการบ้านของสมาคมแบดมินตันว่าจะให้เธอเลือกเล่นเดี่ยวหรือเล่นคู่



ส่วนคู่ที่น่าสนใจอีกคู่คือ ลักษิกา กัลละหะ / อทิตยา โปวานนท์ คู่เยาวชนรุ่นใหม่ที่รอบรองฯแพ้คู่แชมป์สองพี่น้อง แถมรอบก่อนรองชนะเลิศก็ชนะ ขวัญชนก สุดใจประภารัตน์ / ชาสินี โกรีภาพ คู่มือ 2 ของรายการมาได้ แต่จะต้องให้เวลาเสริมประสบการณ์มากกว่านี้ในการจับคู่กัน



ปิดท้ายในประเภทคู่ผสม ที่นอกจาก”บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุดคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ก็ดูเหมือนไทยจะขาดหายคู่มือ 2 ไปพักใหญ่ แต่คู่ สุภัค จอมเกาะ / ศุภิสรา เพียวสามพราน ที่มาจากค่ายเดียวกัน ผ่านการฝึกมาในรูปแบบเดียวกัน และสามารถคว้าแชมป์ประเทศไทยในปีนี้ อาจจะเป็นคำตอบที่ดี โดยเฉพาะ”เฟรม”ศุภิศรา ที่เคยมีประสบการณ์ในระกับนานาชาติในฐานะนักกีฬาหญิงคู่กับ”เอิร์ธ”พุธิตา สุภจิรกุล ที่อาจจะมาลงตัวในประเภทนี้

ขณะที่คู่รองแชมป์ รัชพล มรรคศศิธร / ขวัญชนก สุดใจประภารัตน์ ก็คงต้องให้เวลาอีกระยะในการเสริมความแข็งแกร่ง แต่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกในประเภทคู่ผสมของไทย



ถึงวันนี้ แม้อาจจะเร็วเกินไปที่จะบอกว่านักกีฬาหน้าใหม่เหล่านี้ พร้อมหรือยังสำหรับการลงสนามให้ทีมชาติ แต่ปรากฏการณ์”คลื่นลูกใหม่”คว้าแชมป์ประเทศไทยครั้งนี้ ก็ถือเป็น ”ข่าวดี” สำหรับวงการแบดมินตันไทย เพราะนักกีฬาหน้าเดิมก็จะต้องตื่นตัวหากยังต้องการไปแข่งขันรายการต่างๆ
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ