น่าเสียดายที่การแข่งขัน
“โตโยต้า เยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ปี 2563” ที่กำลังแข่งขันอยู่ที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ อยู่ในช่วงการระบาดของ COVID-19 ทำให้การแข่งขันครั้งนี้ สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ต้องจัดการแข่งขันที่เรียกว่า
”วิถีใหม่” คือ New Normal นั่นคือไม่สามารถให้ผู้ชมเข้าไปเชียร์ได้
แต่การแข่งขัน หลายวันที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่านักกีฬาเยาวชนไทยหลายคนมองเห็นอนาคตได้ หากได้รับการฝึกที่ถูกหลักและส่งเสริมเทคนิค พละกำลัง เพราะเห็นได้ว่านักกีฬาหลายคน
”มีอนาคต” และพร้อมที่จะเรียนรู้ โดยเด็กๆหลายคนที่แพ้ตกรอบ ก็ยังนั่งดูนักกีฬารุ่นพี่หรือเพื่อนรุ่นเดียวกัน เพื่อศึกษาว่า
”ผู้ชนะ” เล่นแบบไหน ขณะที่ตัวเองจะได้นำกลับไปพัฒนาตัวเองเพื่อเปลี่ยนสภาพเป็น
”ผู้แพ้” ให้เป็น
”ผู้ชนะ” ในวันหน้า
นักกีฬาเยาวชนรุ่นอายุ 13 หลายคนที่แฟนๆคงจะไม่คุ้นชื่อ ได้แสดงให้เห็นว่ามีโอกาส
”ต่อยอด” เพื่อพัฒนายกระดับตัวเอง อย่างเช่น ปาณชัย บุญมาก มือหนึ่งชายเดี่ยว หรือ ญาตาวีมินทร์ เกตุเกลี้ยง มือหนึ่งหญิงเดี่ยว ที่แสดงให้เห็นว่าหากได้รับการพัฒนา คงสามารถส่งเสริมพัฒนาได้ดี
ส่วนนักกีฬาที่น่าสนใจในระดับเยาวชนอีกคน คือ สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ ที่ลงเล่นในรุ่นอายุ 15 ปีทั้ง 3 ประเภทคือ หญิงเดี่ยว หญิงคู่ และคู่ผสม โดยตกรอบ 2 ในประเภทคู่ผสม ขณะที่หญิงเดี่ยวและหญิงคู่ ที่เธอเป็นมือวาง ยังคงผ่านเข้ารอบ โดยหากมองข้ามว่าเธอเป็น
”น้องสาว” ของ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยก็ต้องถือว่าเธอทำผลงานสร้างชื่อด้วยตัวเอง เพราะเมื่อเดือนก่อน
“สรัลรักษ” ก็เพิ่งคว้า 3 แชมป์ในศึก APACS อำพันสุวรรณ อยุธยา โอเพ่น 2020 ที่เป็นการแข่งขันรายการแรกในช่วงเบรก COVID-19
อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูพัฒนาการอีกปีสองปี เพราะอย่าลืมว่า ”เมย์” รัชนก อินทนนท์ ก็ไปแข่งขันแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลกครั้งแรกในวัย 13 ปี ก่อนจะคว้าแชมป์เยาวชนครั้งแรกในวัย 14 และเป็นแชมป์ 3 สมัยซ้อน ก่อนขยับไปเล่นระดับ senior โดยไม่เล่นเยาวชนต่อ
ส่วนรุ่น 17 ปีที่เป็น
”รุ่นกลาง” ก็เห็นได้ว่ามีนักกีฬาฝีมือดีหลายคน และหลายคนก็เคยทำหน้าที่ตัวแทนเยาวชนไทยมาแล้ว แต่เนื่องจากเยาวชนไทยวัยนี้ เป็นช่วงหัวโค้งของการวางแผนชีวิตเรื่องเรียนกับกีฬา หลายคนจึงยังไม่มีสมาธิมากนักทั้งๆที่ฝีมือดี ทำให้มือวางหลายประเภทตกรอบเร็วเกินคาด
ในขณะที่
”รุ่นพี่” คือรุ่นอายุ 19 นั้น ถือว่าการแข่งขันปีนี้มี
”พลิกล็อค” พอสมควร โดยเฉพาะประเภทชายเดี่ยว ที่มือวางทั้ง ที่ วรท อุไรวงค์ มือหนึ่งของรายการ ชยังกูร ธโนปจัยโยธิน มือ 3 ของรายการ และ วรภพ ชื่นค้า มือ 4 ของรายการนัดกันตกรอบ 2 ที่แสดงให้เห็นว่า หากไม่พร้อมหรือฟอร์มหลุด ก็ยังมีนักกีฬาคนอื่นพร้อมที่จะทำหน้าที่ในทีมชาติแทน
ส่วนคู่ผสม ทั้ง สิรวิชญ์ โสทน / พรณิชา สุวัฒโนดม และ สิรภพ ก๋งอุบล / พิมพ์นารา วงศ์ภัทรไพบูลย์ มือหนึ่งกับมือ 2 ของรายการยังโชว์ฟอร์มได้ดี ขณะที่หญิงเดี่ยว หญิงคู่และชายคู่ มีนักกีฬามาร่วมแข่งขันเพียงประเภทละ 32 คนหรือ 32 คู่ หลายคนจึงยังไม่ได้ลงสนาม จึงไม่เห็นว่าการพักเบรคยาวนาน มีผลต่อการแข่งขันหรือไม่
แต่ในศึกชิงแชมป์เยาวชนแห่งประเทศไทยครั้งนี้ ต้องบอกว่า นักกีฬาหลายคนได้แสดงให้เห็นว่ามีความมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อแสดงฝีมือและความพร้อมที่จะเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปร่วมชิงแชมป์เยาวชนโลกในต้นปีหน้าที่นิวซีแลนด์
จึงน่าเสียดายที่ COVID-19 ทำให้แฟนแบดมินตันได้ชมแค่ถ่ายทอดสดที่ขาดอรรถรสไปพอสมควร