หลัง
”หยุดพัก” แข่งขันแบดมินตันโดยไม่สามารถทำอะไรได้มายาวนาน หลังจากสหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) ได้ยกเลิกและเลื่อนการแข่งขันแบดมินตันรายการต่างๆออกไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม โดยในช่วงแรกของการหยุดพักที่ทุกประเทศใช้มาตรการล้อคดาวน์ นักกีฬาทุกคนทำได้แค่อยู่บ้านและฝึกร่างกายโดยไม่มีการลงสนามซ้อม
|
|
จนกระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคม สมาคมแบดมินตันประเทศต่างๆจึงเรียกตัวนักกีฬากลับมาลงสนามฝึกซ้อมเต็มรูปแบบเพื่อเร่งฟื้นฟูความฟิตและการคุ้นชินกับการเล่นแบดมินตัน เพราะกว่า 3 เดือนที่ไม่ได้ลงสนาม นักกีฬาหลายคนห่างหายไปกับกิจกรรมการเล่นแบดมินตันยาวนานที่สุด |
อย่างไรก็ตาม การกลับมาลงฝึกซ้อมก็ยังไม่สามารถสร้างความคุ้นชินในสภาพ ”การแข่งขัน” ได้ เพราะกว่าจะกลับมาลงสนามแข่งขันในรายการ Taipei Open 2020 ที่จะเป็นรายการแรกของ BWF ในปฏิทินการแข่งขันฉบับแก้ไขในวันที่ 1 กันยายน หรืออีกเกือบหนึ่งเดือนครึ่ง ก็ยังคงเป็นปัญหาของนักกีฬาที่จะปรับตัว |
|
|
ที่ผ่านมา จึงมีสมาคมแบดมินตันประเทศต่างๆได้จัดการแข่งขันภายในขึ้นมา เพื่อสร้างความคุ้นชินกับให้กับนักกีฬาที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้ง เพราะ
”การแข่งขัน” แม้จะเป็นการแข่งขันภายใน แต่ก็มีเงินรางวัลและเกียรติยศที่ทำให้แตกต่างจากการฝึกซ้อม
|
|
ที่อินโดนีเซีย สมาคมแบดมินตันอินโดนีเซีย(PBSI) ได้จัดการแข่งขันที่เรียกว่า MOLA TV PBSI Home Tournament 2020 ขึ้นมา แต่ไม่ครบทุกประเภทและจะจัดการแข่งขันสัปดาห์ละประเภท ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีการแข่งขันจบไปแล้ว 2 ประเภท คือชายคู่และคู่ผสม |
โดยประเภทชายคู่ที่สมาคมแบดมินตัน ”บังคับ” ให้นักกีฬามือดี ”แยกคู่” เพื่อส่งเสริมนักกีฬาเยาวชนนั้น “แชมป์” ได้แก่ Fajar Alfian / Yeremia Erich Yotje Yacob Rambitan ที่เอาชนะ Kevin Sanjaya Sukamuljo / Moh. Reza Pahlevi Isfahani ได้ในรอบชิงชนะเลิศ 21-18, 21-18 |
|
|
อีกประเภทที่แข่งขันจบไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน คือประเภทคู่ผสม ที่ Praven Jordan / Melati Daeva Oktavianti คู่มือหนึ่งของประเทศ ชนะ Akbar Bintang Cahyono / Winny Oktavina Kandow ในรอบชิงชนะเลิศ 21-9, 21-17
ขณะที่ประเภทชายเดี่ยว Anthony Sinisuka Ginting ก็ทำผลงานสมราคามือหนึ่งของประเทศ เมื่อเอาชนะ Shesar Hiren Rhustavito ในรอบชิงชนะเลิศ 21-19, 21-15
|
|
สัปดาห์นี้ จะเป็นการแข่งขันประเภทหญิงคู่ ที่สมาคมแบดมินตันอินโดนีเซีย ใช้วิธีเดียวกับชายคู่ คือ ”แยกคู่” เพื่อปั้นนักกีฬาระดับเยาวชน ที่ยังไม่รู้คู่ไหนจะชิงชนะเลิศกับใคร โดยมือวางอันดับหนึ่งคือ Ribka Sugiarto / Siti Fadia Silva Ramadhanti ขณะที่คู่มือ 2 คือ Nita Violina Marwah / Putri Syaikah |
ส่วนหญิงคู่มือหนึ่งของประเทศ เมื่อต้อง ”แยกคู่” ก็เป็นมือรอง โดย Febby Valencia Dwijayanti / Greysia Polii เป็นคู่มือ 3 และ Apriyani Rahayu / Mychelle Chrystine Bandaso เป็นคู่มือ 4 ของรายการ |
|
|
แม้จะเป็นการแข่งขันภายในประเทศ แต่นักกีฬาหลายคนชื่นชอบมาก โดยบอกว่า แม้จะเป็นเสมือนการแข่งขันโชว์ แต่บรรยากาศและเกมก็ไม่แตกต่างจากการแข่งขันจริง และเชื่อว่าจะเป็นผลดีกับการกลับมาฝึกซ้อมก่อนการแข่งขันระดับ World Tour จะเริ่มในเดือนกันยายน
|
|
ส่วนที่เกาหลี สมาคมแบดมินตันเกาหลี ก็จัดการแข่งขันที่เรียกว่า Super Match ภายใต้การสนับสนุนของ Yonex โดยมีการแข่งขันเพียง 3 ประเภท ซึ่งในประเภทชายเดี่ยว Jeon Hyeok-jin อดีตแชมป์กีฬามหาวิทยาลัยโลกที่หายหายไปจากสนามและไม่มีอันดับโลก คว้าแชมป์เมื่อเอาชนะ SON Wan Ho อดีตมือหนึ่งโลกช่วงสั้นๆที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาและอันดับโลกร่วงไปอยู่ที่ 56 |
ส่วนประเภทชายคู่ ที่ถือเป็น Super Match จริงๆ ปรากฏว่า Lee Yong Dae / KIM Gi Jung สามารถคว้าแชมป์เมื่อเอาชนะ Yoo Yeong Seong / CHOI SolGyu ไปแบบสนุกตื่นเต้น 19-21, 21-13, 21-19 โดยการดวลกันระหว่าง Lee Yong Dae กับ Yoo Yeong Seong ที่เคยจับคู่กันเป็นคู่มือหนึ่งโลกและคว้าแชมป์มากมาย ถือเป็นสุดยอดของการกลับมาของทั้งคู่เมื่อต้องแยกคู่กัน |
|
|
ส่วนสุดท้ายคือประเภทหญิงคู่ เป็น Kim So Yeong / Kong Hee Yong คู่มือ 6 ของโลก คว้าแชมป์เมื่อเอาชนะ Kim Hye Rin / Baek Ha Na ที่กลับมาจับคู่กันอีกครั้ง แบบสนุกตื่นเต้น 2-1 เกม 21-15,18-21,21-14 โดยแข่งขันกันยาวนานเกือบชั่วโมงครึ่ง
|
|
ขณะที่ประเทศไทย นักแบดมินตันไทยจะ ”ลงสนาม” เป็นครั้งแรกหลัง ”ล้อคดาวน์” คือการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยในระหว่างวันที่ 4-13 สิงหาคม โดยในวันที่ 4-8 จะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์เยาวชน และวันที่ 9-13 จะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย |
ทั้งหมดเป็นความเคลื่อนไหวที่สมาคมแบดมินตันทุกชาติมองเห็นแล้วว่า การลงสนามแข่งขัน สำคัญกว่าการฝึกซ้อม
Cr.Photo : badmintonindonesia.org