การเกิดวิกฤติ COVID-19 ที่ระบาดหนักไปทั่วโลก ทำให้กิจกรรมต่างๆรวมถึง”กีฬา”ต้องหยุดการแข่งขันยาวนาน แม้จะไม่ใช่เหตุผลหลัก แต่ก็เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักกีฬาหลายคนตัดสินใจเลิกเล่น เนื่องจากการหยุดการแข่งขันยาวนานหมายถึงรายได้หายไป และที่สำคัญก็คือไม่รู้ว่าจะกลับมาลงสนามได้เมื่อไร รวมทั้งหลายคนขาดแรงจูงใจเมื่อโอลิมปิก 2020 ไม่สามารถแข่งขันตามโปรแกรมได้
 

สำหรับ ”แบดมินตัน” ที่รายการสุดท้ายก่อนปิดเทอม คือการแข่งขัน All England เมื่อกลางเดือนมีนาคม ขณะที่รายการที่จะแข่งขันใหม่คือ Chinese Taipei Open 2020 ในวันที่ 1 กันยายน ที่หมายถึงการไม่มีโปรแกรมลงแข่งขันมายาวนานถึง 5 เดือนครึ่ง

 

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ความเบื่อหน่ายจากการไม่มีโปรแกรมแข่งขัน ขณะที่การฝึกซ้อมก็ไม่สามารถทำได้ โดยนักกีฬาส่วนใหญ่ต้องฟิตร่างกายจากบ้าน โดยแทบจะทุกประเทศ ที่สมาคมแบดมินตันเพิ่งจะเรียกตัวนักกีฬามาฝึกซ้อมพร้อมกันเต็มทีมเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ทำให้มีนักกีฬาชื่อดังหลายคนตัดสินใจประกาศเลิกเล่น ในวัยที่ถึงเวลาพัก

โดย ”บิ๊กเนม” ที่ประกาศเลิกเล่นและเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก นั่นคือ Lin Dan ราชาลูกขนไก่ชาวจีนที่ประกาศเลิกเล่นในวัย 36 โดยได้ประกาศอย่างเป็นทางการใน Weibo ส่วนตัวของเขา ว่า 20 ปีในสนามตั้งแต่ปี 2000-2020 ถือว่า ”พอแล้ว” สำหรับอาชีพแบดมินตัน 

การตัดสินในเลิกเล่นของ Lin Dan ถือเป็นการสิ้นสุด Four Ages of Kings หรือ 4 คิงส์ในวงการแบดมินตันโลก หลังจาก Taufik Hidayat จากอินโดนีเซีย Peter Gade จากเดนมาร์ค และ Lee Chong Wei ได้ตัดสินใจเลิกเล่นไปแล้ว และน่าสนใจว่าตั้งแต่ปี 2021 จะมี Four Kings Badminton ขึ้นมาหรือไม่
 

สำหรับ Lin Dan ถือเป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวที่ได้รับรางวัลใหญ่มากที่สุดในโลก โดยใน 66 แชมป์ในอาชีพการเล่น เขาเป็น ”แชมป์ใหญ่” มากมาย คือ ”แชมป์โลก” World Championships ถึง 5 ครั้งในปี 2006 2007 2009 2011 และ 2013 เป็น ”แชมป์โลก” World Cup 2 ครั้งในปี 2005และ2006 เหรียญทองโอลิมปิก 2 ครั้งในปี 2008 และ 2012 เหรียญทองชายเดี่ยวเอเชียนเกมส์ 2 ครั้งในปี 2010 และ 2014

 

นอกจากนั้น Lin Dan ยังเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่คว้าแชมป์ Thomas Cup หรือแชมป์โลกทีมชาย 6 ครั้งในปี 2004 2006 2008 2010 2012 และ 2018 แชมป์  Sudirman Cup 5 ครั้งในปี 2005 2007 2009 2011 และ 2015 ขณะที่รายการใหญ่ก็คือ แชมป์ All England 6 ครั้งในปี 2004 2006 2007 2009 2012 และ 2016 แชมป์ BWF Super Series Finals ในปี 2011 และเคยมาคว้าแชมป์ Thailand Open เมื่อปี 2008

Lin Dan จึงฝากชื่อให้โลกจดจำในฐานะนักแบดมินตันชายเดี่ยวที่เก่งที่สุดที่โลกเคยมีคนหนึ่ง

นักแบดมินตันชายเดี่ยวระดับ ”บิ๊กเนม” ต่อจาก Lin Dan ที่ประกาศเลิกเล่นคือ Jan Ø. Jørgensen ยอดนักแบดมินตันเดนมาร์คที่เป็น ”รอยต่อ” ระหว่าง Peter Gade กับ Viktor Axelsen ที่ตัดสินใจเลิกเล่นในวัย 32 โดยประกาศจะลงสนามแข่งขัน DANISA Denmark Open 2020 ในวันที่ 16-18 ตุลาคม เป็นรายการสุดท้ายของการเป็นนักแบดมินตันอาชีพ
 

แม้ Jan Ø. Jørgensen อาจจะไม่ขยับขึ้นเป็นชายเดี่ยวมือหนึ่งโลก แต่การเป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวในยุคที่มีทั้ง Lee Chong Wei , Lin Dan และ Chen Long และสามารถก้าวขึ้นมาเป็นชายเดี่ยวมือสองโลก ก็แสดงให้เห็นว่าฝีมือไม่ธรรมดาแน่นอน

 

Jan Ø. Jørgensen ลงเล่นรับใช้ชาติมายาวนาน 12 ปีและเป็นหนึ่งในสมาขิกของทีมที่นำเดนมาร์คคว้าแชมป์ Thomas Cup 2016 ที่ชนะอินโดนีเซียในรอบชิง 3-2 และตัดสินใจจะไปพำนักในประเทศเยอรมนีกับ Stine Jørgensen ภรรยาที่เป็นนักแฮนด์บอลอาชีพและเป็นอดีตกัปตันทีมชาติเดนมาร์ก

หนึ่งในผลงานที่หลายคนจดจำสำหรับ Jan Ø. Jørgensen คือการคว้าแชมป์ชายเดี่ยว China Open เมื่อชนะ Chen Long ในรอบชิงปี 2016 และเป็นนักกีฬายุโรปคนเดียวที่ได้แชมป์รายการนี้ รวมทั้งเคยเป็นแชมป์ Indonesia Open ที่ชนะ Kenichi Tago ในปี 2014 และเคยคว้าแชมป์ Denmark Open และ French Open ในปี 2015 และเหรียญทองแดงในการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2015 จึงเป็นการเลิกเล่นที่มีดีกรีแชมป์ใหญ่ไม่น้อย 
 

นอกเหนือจาก ”ชายเดี่ยว” แล้ว เดนมาร์คก็หมดยุค ”ชายคู่” ชั้นดี เมื่อ Mathias Boe / Carsten Mogensen ได้ประกาศเลิกเล่นติดต่อกัน โดยเริ่มจาก Mathias Boe ที่ประกาศรีไทร์เมื่อ 2 เดือนก่อนพร้อมเตรียมตัวไปทำงานในธุรกิจส่วนตัวคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อินเดีย และ Carsten Mogensen ก็ได้ตัดสินใจประกาศเลิกเล่นตาม

 

สำหรับ Carsten Mogensen กับ Mathias Boe ถือเป็นนักแบดมินตันชายคู่ที่ไร้เทียมทานคู่หนึ่ง โดยเป็นแชมป์การแข่งขันที่เรียกว่ายุค Superseries มากมาย เช่น แชมป์ All England ในปี 2011 และ 2015 แชมป์ French Open 3 ครั้งในปี 2010 ,2014 และ 2016 แชมป์ Denmark Open ในปี 2010 แชมป์ World Superseries Finals ถึง 3 ครั้งในปี 2010 ,2011 และ 2012 รวมทั้งเหรียญเงินโอลิมปิก 2012 และรองแชมป์โลก World Championships ในปี 2013

Carsten Mogensen ได้ประกาศว่า แม้จะเลิกเล่นอาชีพ แต่เขาก็ยังคงสนุกกับแบดมินตัน จึงจะยังคงเล่นแบดมินตันลีกและใช้เวลาที่ร้านขายเครื่องกีฬาของเขาในเดนมาร์คต่อไป 
 

ส่วนนักกีฬาหญิง แม้จะยังไม่มี ”บิ๊กเนม” ประกาศเลิกเล่น แต่ Chau Hoi Wah นักกีฬาฮ่องกงประเภทคู่ผสม ที่เล่นคู่กับ Lee Chun Hei และสามารถคว้าแชมป์เอเชียเมื่อปี 2014 รวมทั้งเป็น ”รองแชมป์โลก” World Championships 2017 ที่เธอกับ Lee Chun Hei แพ้ Tontowi Ahmad / Liliyana Natsir ในรอบชิงชนะเลิศ ก็ถือเป็นนักกีฬาระดับโลกที่เลิกเล่นในปีนี้

 

โดยจากนี้ไป Chau Hoi Wah ได้เปลี่ยนสถานะจาก ”ผู้เล่น” มาเป็น ”โค้ช” หลังจากเซ็นสัญญากับสโมสร Mandarin Badminton Club ในเมือง Toronto ประเทศแคนาดา ที่เธอไปปักหลักตั้งรกรากที่นั่นมาระยะหนึ่งแล้ว และเชื่อมั่นว่าตัวเองจะมีความสุขที