รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
แผนการล่าเหรียญโอลิมปิกในโรดแมป RTT ของมาเลเซีย
  12 มิ.ย. 2563
แบ่งปัน



กล่าวกันแล้ว ”ไม่น่าเชื่อ” ว่าประเทศมาเลเซีย ที่มีประชากรกว่า 30 ล้านคน และเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกมาตั้งแต่ปี 1956 แต่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่เคยได้เหรียญทองจากนักกีฬาคนใดเลย
 
  โดยการเข้าร่วม 13 ครั้งในการแข่งขันโอลิมปิกที่ผ่านมา มาเลเซียได้มาเพียง 7 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง และที่ไม่น่าเชื่อก็คือใน 7 เหรียญเงินนั้น มีถึง 6 เหรียญที่ได้จากแบดมินตัน และมาจาก Lee Chong Wei ถึง 3 ครั้งในการชิงชนะเลิศปี 2008,2012 และ 2016 ที่จบลงโดยแพ้นักกีฬาจากจีนทั้ง 3 ครั้ง และ 4 เหรียญทองแดงก็มาจากแบดมินตัน 2 เหรียญ คือมีเพียงเหรียญทองแดงจากกระโดดน้ำกับจักรยานเท่านั้น ที่ไม่ใช่นักแบดมินตัน
 
นอกเหนือจาก Lee Chong Wei แล้ว นักแบดมินตันมาเลเซียที่ทำเหรียญรางวัลโอลิมปิกก็คือ Rasif Sidek / Jalani Sidek ได้เหรียญทองแดงชายคู่ปี 1992 Kit Soon Cheah / Hock Yap Kim ได้เหรียญเงินชายคู่ปี 1996 Rashid Sidek ได้เหรียญทองแดงชายเดี่ยวในปี 1996 CHAN Peng Soon / GOH Liu Ying ได้เหรียญเงินคู่ผสมปี 2016 GOH V Shem / TAN Wee Kiong ได้เหรียญเงินชายคู่ปี 2016  

การที่ ”แบดมินตัน” คือ”กีฬาทำเหรียญ” ในการแข่งขันโอลิมปิก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รัฐบาลมาเลเซียสนับสนุนกีฬาแบดมินตันอย่างเต็มที่ในเรื่องงบประมาณ การจัดการ จนถึงการสนับสนุนทุกด้าน
 
  ความจริงแล้ว โอลิมปิก 2020 ที่เดิมกำหนดแข่งในปีนี้ เป็นปีที่ Lee Chong Wei ที่ชิงชนะเลิศ 3 ครั้งล่าสุดตั้งความหวังมากที่จะไปแข่งขันและมุ่งเป้าคว้า ”เหรียญทอง” แต่เมื่อร่างกายไม่สามารถฝืนกับอาการเจ็บป่วย จนต้องประกาศแขวนแร็กเก็ตเลิกเล่นเมื่อปีก่อน ทำให้อดีตมือหนึ่งโลกที่ครองบัลลังก์มายาวนานที่สุดต้องส่งมอบภารกิจต่อให้กับนักกีฬารุ่นน้อง
 
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มี ”ตำนาน” อย่าง Lee Chong Wei มาเป็นกำลังสำคัญในการล่าเหรียญรางวัล แต่ภายใต้การสนับสนุนของภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้สมาคมแบดมินตันมาเลเซีย มีงบประมาณมากมายและเริ่มวางโรดแมปเพื่อล่าเหรียญทองโอลิมปิก 2020  ที่แข่งขันในปี 2021 ภายใต้โครงการ RTT หรือ Road To Tokyo  

สำหรับแผนงาน RTT นั้น สมาคมแบดมินตันมาเลเซียจะ ”ฝึกหนัก” และ ”ติวเข้ม” นักกีฬาที่มีโอกาสได้โควตาไปแข่งขันโอลิมปิก โดยมีแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อความสำเร็จในกีฬาที่เป็น”ความหวังเดียว”ของประเทศ
 
  โดยในประเภทชายเดี่ยว ถึงวันนี้ LEE Zii Jia นักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 10 ของโลก ถือเป็น ”ความหวังสูงสุด” ของประเทศ และถือเป็นโอกาสดีที่การแข่งขันเลื่อนไปอีกหนึ่งปี ทำให้เจ้าหนุ่มวัย 22 ได้รับการพัฒนามากขึ้นทั้งร่างกาย จิตใจและเทคนิค เพื่อให้พร้อมเมื่อถึงเวลาแข่งขัน
 
โดยน่าสนใจว่า แม้ Lee Chong Wei ไม่ได้เป็นทีมงานผู้ฝึกสอน แต่ก็เป็นหนึ่งใน ”เบื้องหลัง” ที่ LEE Zii Jia เข้าพบเพื่อขอคำแนะนำที่เจ้าตัวบอกว่าได้รับคำสอนที่มีคุณค่ามากมาย โดยเฉพาะการย้ำว่าในการเล่นประเภทเดี่ยวนั้น การอยู่คนเดียวในสนาม ทุกอย่างต้องขึ้นกับตัวเอง 80 %  

ส่วนนักกีฬาที่มีอันดับ 2 รองมาคือ LIEW Daren ในวัย 32 ไม่ถือว่าเป็นนักกีฬาทีมชาติ จึงไม่ได้เข้าร่วมโครงการ RTT แต่ก็มี SOONG Joo Ven และ CHEAM June Wei ที่ได้รับโอกาสเข้ามาร่วมฝึกซ้อมด้วย
 
  ส่วนประเภทหญิงเดี่ยว ที่สมาคมแบดมินตันมาเลเซียยอมรับว่านักกีฬาของตัวเองคงยัง ”ห่าง” กับนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวชั้นนำของโลก แต่ GOH Jin Wei อดีตแชมป์เยาวชนโลก 2 สมัยและ KISONA Selvaduray สาววัยยี่สิบเจ้าของเหรียญทองหญิงเดี่ยวซีเกมส์คนล่าสุด ก็ยังเป็นความหวังในอนาคต โดย Soniia CHEAH ยังคงต้องทำหน้าที่ ”พี่เลี้ยง” จนกว่าน้องๆจะขยับอันดับขึ้นมา ส่วน LEE Ying Ying อยู่ในช่วงของตัดสินใจว่าจะเลือกเล่นหรือเรียน
 
ในประเภทชายคู่นั้น แม้ GOH V Shem / TAN Wee Kiong ทำผลงานดีคือได้เหรียญเงินในริโอ 2016 แต่สถานะปัจจุบันก็ไม่ได้อยู่ในทีมชาติ โดยชายคู่มือหนึ่งคือ Aaron CHIA / SOH Wooi Yik คู่มือ 9 ของโลก คือเป้าหมายหลักของการพัฒนา แต่สมาคมก็ยังให้โอกาสคู่เหรียญเงินโอลิมปิกครั้งก่อนเข้าแคมป์เพื่อมากระตุ้นและส่งเสริมให้คู่อื่นลงแข่งขันด้วย รวมทั้งคู่ ONG Yew Sin / TEO Ee Yi คู่แชมป์ Thailand Master ที่อยู่อันดับ 15 ของโลก  

ในประเภทหญิงคู่ ก็เป็นอีกประเภทที่มาเลเซีย ยังหาคู่มือดีไม่ได้ โดยคู่ CHOW Mei Kuan / LEE Meng Yean คู่มือ 14 ของโลก ที่น่าจะได้โควตาไปแข่งขัน กับ Vivian HOO / YAP Cheng Wen คู่มือ 25 ของโลก ก็อยู่ในแคมป์ RTT เพื่อพัฒนายกระดับฝีมือ
 
  ปิดท้ายประเภทคู่ผสม ที่ CHAN Peng Soon / GOH Liu Ying เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 2016 ไม่ได้เป็นนักกีฬาทีมชาติแล้ว แต่การยังคงแข่งขันในฐานะนักกีฬาอิสระและรักษาอันดับ 7 ของโลก พร้อมคงโควตาโอลิมปิก ทำให้ทั้งคู่ยังได้รับโอกาสเข้าค่ายในโครงการ RTT เพราะทุกอย่างพร้อมกว่าการฝึกซ้อมแบบนักกีฬาอิสระ
 
อย่างไรก็ตาม แผนของสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย ยังคงมุ่งมั่นที่คู่ TAN Kian Meng / LAI Pei Jing กับ GOH Soon Huat / LAI Shevon Jemie คู่มือ 11 และ 12 ของโลก ที่จะต้องเร่งทำผลงานในการได้รีบโอกาสเดินทางไปแข่งขัน เพื่อทำคะแนนสะสมแซงหน้ารุ่นพี่เจ้าของเหรียญรางวัลโอลิมปิกครั้งก่อน เพราะหากทั้งคู่ไม่สามารถเอาชนะรุ่นพี่ได้ สุดท้ายโควตาและสิทธิ์ในการสวมเสื้อทีมชาติมาเลเซียในโอลิมปิก 2020 ก็จะเป็นของนักกีฬาอิสระที่ยังทำผลงานได้ดี  



การจัดทำโครงการ RTT ของมาเลเซีย แม้จะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ เป็นโครงการที่มี ”เป้าหมาย” ชัดเจนในการเตรียมตัวนักกีฬาสำหรับรายการใหญ่ในปีหน้า
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ