รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
BWF ยืนยันยังคงเห็นว่านักกีฬาต้องได้ผลตอบแทนคุ้มค่า 
  3 มิ.ย. 2563
แบ่งปัน



หลังจากที่หลายวันก่อน มีนักกีฬาทั้งในปัจจุบันและอดีต ออกมาให้ความเห็นหลังจากที่สหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) จัดโปรแกรมการแข่งขันปีนี้ใหม่ ที่อาจจะทำให้นักกีฬาบาดเจ็บเพราะต้องลงแข่งขัน รวมถึงการยืดเวลาคัดเลือกไปโอลิมปิก 2020 เลื่อนไปแข่งขันปีหน้า และประเด็นสำคัญก็คือ หลายคนบอกว่าทุกวันนี้ รายได้ของนักแบดมินตัน”น้อยมาก” เมื่อเปรียบเทียบกับรายรับของ BWF 

Thomas Lund เลขาธิการ BWF กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่า ”รายได้” ของนักแบดมินตัน ”น้อย” เพราะมีหลายรายการ เช่น Thomas&Uber Cup, Sudirman Cup และ World Junior Championships ที่ไม่มีเงินรางวัลสำหรับนักกีฬา ว่า BWF เข้าใจ แต่ในความเป็นจริง เงินรายได้ทั้งหมดจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ จะกลับไปยังผู้เล่นในรูปแบบต่างๆ



“เป็นประเพณีที่เราตกลงกันตั้งแต่การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกในปี 1977 ว่าจะไม่มีเงินรางวัลสำหรับนักกีฬา” เลขาธิการ BWF กล่าว และบอกว่า BWF มีสองแหล่งรายได้หลัก นั่นคือเงินจากสปอนเซอร์หรือเจ้าภาพการแข่งขัน และเงินสนับสนุนจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล(IOC) ซึ่งในส่วนนี้ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่จะจัดทุก 4 ปี BWF ได้รับเงินสนับสนุนมาก 17 ล้านเหรียญสหรัฐ

“รายได้ทั้งหมด จะถูกนำไปใช้สำหรับการพัฒนาโดยรวม คือทุกอย่างในทุกระดับตั้งแต่การพัฒนาผู้เล่นชั้นนำไปจนถึงการจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่างๆ การตลาด การสื่อสาร การผลิตรายการโทรทัศน์ การวิจัยการพัฒนาในทวีปต่างๆสำหรับนักกีฬา” เลขาธิการ BWF กล่าวและว่านี่คือเหตุผลที่ไม่เคยมีเงินรางวัลสำหรับศึกชิงแชมป์โลก 



BWF ระบุว่า การจัดการแข่งขัน World Tour ทำให้ BWF มีกำไรเป็นเงินจำนวนมากจากการแข่งขัน แต่ก็ตอบแทนกลับสู่นักกีฬา เช่น การแข่งขัน World Tour Final ที่มีเงินรางวัลมากที่สุด คือมากถึง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คือหนึ่งในการนำเงินที่ได้มาตอบแทนนักกีฬาที่ทำผลงานดี 
 
  อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ BWF ยอมรับว่า แม้แบดมินตันเริ่มขยายวงกว้างขวางโดยมีผู้เล่นมากมายกระจายไปทั่วโลก แต่ก็ต้องยอมรับว่าแบดมินตันยังคงห่างไกลจากฟุตบอลและเทนนิส และนั่นคือโจทย์ที่ BWF กำลังพยายามลดช่องว่างให้แคบลง 

นอกจากนั้น Thomas Lund บอกว่าเขาเข้าใจที่ผู้เล่นระบุว่ายากลำบากสำหรับโปรแกรมใหม่ที่จะแข่งขันในปีนี้หลังหยุดไปนานเมื่อจบ All England แต่ก็เป็นความพยายามของ BWF ที่ต้องการให้มีการแข่งขันตามสัญญาที่สปอนเซอร์ต้องการให้รางวัลนักกีฬา เช่นเดียวกับโปรแกรมคัดเลือกโอลิมปิกทั้ง 25 การแข่งขันที่มีตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป BWF ก็ยืดเวลาไปแข่งขันจนถึงเดือนเมษายนปีหน้า

“ผมเข้าใจว่าตารางการแข่งขันแน่นมาก แต่ก็หวังว่าผู้เล่นจะเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะยกระดับพวกเขา เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของผู้เล่น แต่เราต้องวางแผน โดยเรายังคงสนับสนุนเพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม”
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ