สำหรับ
”หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ 13 ของโลก สร้างชื่อให้คนไทยหันมาสนใจเธออีกครั้งเมื่อคว้าแชมป์ BARCELONA SPAIN MASTERS 2020 โดยชนะ Carolina MARIN อดีตแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิกขวัญใจเจ้าบ้าน 11-21,21-16,21-18
|
|
ความสำเร็จในการคว้าแชมป์ระดับ BWF WORLD TOUR ได้เป็นรายการแรก ถือว่าสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักแบดมินตันสาววัย 22 ได้เป็นอย่างดี เพราะเธอมีเป้าหมายชัดเจนคือการไปแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่เลื่อนไปแข่งขันปีหน้า ซึ่งก็เป็นงานที่ไม่ง่ายนัก เพราะในประเภทเดี่ยว จะต้องติดอันดับ 1-16 จึงสามารถได้สิทธิ์ไปร่วมแข่งขัน ขณะที่อันดับ BWF OLYMPIC QUALIFICATION ปัจจุบัน ที่สหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) ต้องระงับเพราะไม่มีโปรแกรมแข่งขัน คือถึงวันที่ 24 มีนาคม เธออยู่อันดับ 16 มี 49,176 คะแนน ตามหลังรุ่นพี่”ครีม”บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ ซึ่งอยู่อันดับ 12 ที่มีคะแนน 51,964 คะแนน ที่ได้สิทธิ์ไปในฐานะนักกีฬาคนที่ 2 ต่อจาก”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่อยู่อันดับ 6 ด้วย 75,885 คะแนน |
เส้นทางไปโอลิมปิก 2020 ในปีหน้าของ”หมิว” จึงอยู่ที่เจ้าตัวจะทำผลงานได้ดีแค่ไหน เพราะเธอยอมรับว่า เป้าหมายใหญ่สุดในชีวิตนักกีฬาของเธอคือ ”เหรียญรางวัล” โอลิมปิก ..ไม่ใช่แค่เข้าร่วมแข่งขัน
สำหรับ ”หมิว” พรปวีณ์ ก่อนจะมาถึงวันนี้ กล่าวได้ว่าเธอ ”ฝ่าฟัน” อุปสรรคมากมาย นับตั้งแต่ตัดสินใจประกาศออกจากสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยเมื่อปลายปี 2561 ซึ่งมีผลต่อสภาพจิตใจ สมาธิ และฟอร์มการเล่น หลังเจ้าตัวโพสต์ในเฟซบุ๊คเมื่อกลางปี 2562 เพื่อบอกว่า ”ขอเขียนความในใจ” เพราะการเป็นนักกีฬาที่ออกมาโดยสมาคมยังไม่ยินยอม ทำให้ไม่สามารถหาสปอนเซอร์ได้ การเดินทางไปแข่งขันในช่วงแรก เธอโชคดีที่พ่อแม่และครอบครัวสนับสนุน |
|
|
บางคนมองว่า การออกมาจากสมาคมแบดมินตัน ทำให้ ”หมิว” ประสบความสำเร็จจนถึงขั้นโค่นแชมป์โลกและคว้าแชมป์ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ”หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ยืนยันว่า หากสามารถให้คำแนะนำกับนักกีฬารุ่นน้องได้ เธอก็จะบอกว่า จะไม่แนะนำให้ใครออกจากสมาคม เพราะที่นั่นมี
"ระบบ" ที่ดี หากแต่ยอมรับว่าโดยส่วนตัว เธออาจจะไม่เหมาะสมกับระบบการฝึกซ้อมที่สมาคมวางไว้
|
|
แต่หลังจากที่เข้าไปเป็นนักกีฬาของสมาคมตั้งแต่เป็นนักกีฬาเยาวชน ซึ่งเธอมองว่าดี เพราะมีเงินเดือน มีเบี้ยเลี้ยง โบนัส เรื่องการฝึกซ้อม การแข่งขัน ทุกอย่างสมาคมจัดการให้หมด โดยนักกีฬามีหน้าที่แค่ซ้อมตามระบบที่วางไว้ และไปแข่งขันตามรายการต่างๆ ที่สมาคมส่งแข่ง แต่ ”หมิว” ยอมรับว่า ไม่ใช่ชีวิตแบบที่เธอชอบ |
“หมิว” พรปวีณ์ บอกว่าเธอเคยเข้าไปพบปะพูดคุยกับโค้ชและผู้ใหญ่ในสมาคม เพื่อให้ปรับระบบการฝึกซ้อมให้เข้ากับนักกีฬา แต่ละคน เพราะทุกคนมีสไตล์ไม่เหมือนกัน แต่ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถเน้นใครคนหนึ่งได้ ต้องฝึกตามระบบ เหมือนๆ กัน บวกกับการบาดเจ็บบ่อยเพราะเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ที่อาจจะไม่เหมาะกับการ ”ซ้อมหนัก” ตามรูปแบบของสมาคม และเห็นตัวอย่าง ”เมย์” รัชนก อินทนนท์ ที่ฝึกซ้อมที่สโมสรบ้านทองหยอด เธอจึงตัดสินใจว่าขอออกจากการเป็นนักกีฬาในสังกัดของสมาคม ในช่วงปลายปี 2561 |
|
|
การเป็นนักกีฬาอิสระในวันแรกถือเป็นความยากลำบาก เพราะนอกเหนือจากที่ไม่สามารถหาสปอนเซอร์ได้ เพราะยังไม่มีใบรับรองการเป็นนักกีฬาอิสระแล้ว การเดินทางไปแข่งขัน “หมิว” พรปวีณ์ ยังต้องรับผิดชอบทุกอย่างเอง ตั้งแต่ส่งรายชื่อไปแข่งขัน, จองตั๋วเครื่องบิน, หาที่พัก ซึ่งตอนเป็นนักกีฬาสมาคมฯ ทุกอย่างเป็นเรื่องที่บุคลากรของสมาคมจัดการให้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ได้มาหลังการเป็นนักกีฬาอิสระก็คือ การได้ฝึกซ้อมแบบ
”เฉพาะบุคคล” ที่ทำให้ ”หมิว” มองว่าเธอสามารถแก้จุดอ่อน เพิ่มจุดแข็ง ได้ตามที่ใจต้องการ
|
|
ถึงวันนี้ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ถือว่าก้าวผ่านช่วงยากลำบาก เมื่อ Reddentes Sports สปอร์ตเอเจนซี่รายใหญ่ของสิงคโปร์ ตัดสินใจเซ็นสัญญาสนับสนุนรับเป็นสปอนเซอร์ให้กับเธอ ในฐานะนักกีฬาอิสระเป็นเวลา 2 ปี โดยมีผลตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2022 |
ท้ายนี้หมิวได้พูดถึงเป้าหมายของตัวเองคือ
“เหรียญโอลิมปิกค่ะ ก็คาดหวังค่ะ แต่ก็ต้องวางแผนการฝึกซ้อม พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ยกระดับการตี ส่วนจะทำได้ หรือทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับตัวเองค่ะ”
และถือเป็นก้าวย่างสำคัญที่
”หมิว” พรวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะต้องพิสูจน์ตัวเองว่าทำได้ดีแค่ไหน
Cr.Photo : BadmintonPhoto