รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
“เมย์”รัชนก อินทนนท์ นักกีฬาตัวอย่างทั้งบู๊และบุ๋น
  15 พ.ค. 2563
แบ่งปัน



สำหรับ”เมย์”รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือหนึ่งของไทย กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาชาวไทยที่แฟนๆรู้จักกันดีในปัจจุบัน และเธอยังเป็นหนึ่งใน ”แรงบันดาลใจ” ให้กับเยาวชนไทย โดยเฉพาะ ”แบดมินตัน” ที่หลายคนฝึกเล่นครั้งแรกนับแต่ชื่อของสาวไทยคนนี้ ถูกประกาศเป็น ”แชมป์โลก” ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์กีฬาลูกขนไก่เมื่อปี 2013
 
  นอกจาก ”สายบู๊” คือเป็นนักกีฬาที่ถือเป็น ”ไอดอล” ของเด็กหญิงทั้งประเทศแล้ว ในทาง ”บุ๋น” นักกีฬาอย่าง”เมย์” รัชนก อินทนนท์ ยังทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีกับเยาวชน เมื่อตัดสินใจเรียนต่อปริญญาเอก ทั้งที่มีภารกิจแข่งขันมากมาย
 
สำหรับเส้นทางนักกีฬาของ ”เมย์” เริ่มสร้างชื่อตั้งแต่อายุ 14 เมื่อคว้าแชมป์ Vietnam International Challenge ในปี 2009 ด้วย และในปีเดียวกัน ก็ทำให้โลกรู้จัก เมื่อคว้าแชมป์เยาวชนโลก BWF World Junior Championships เมื่อเอาชนะนักกีฬารุ่นพี่คือ ”พีซ” พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข และสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นแชมป์รายการนี้อีก 2 ปีต่อมาคือ 2010 และ 2011 กลายเป็นนักกีฬาประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์เยาวชนโลกคนแรก 3 ปีซ้อน  
 
  ในระดับอาชีพ ในปี 2013 ด้วยวัย 18 ปี “เมย์” ก็สร้างประวัติศาสตร์ เมื่อเข้าชิงชนะเลิศ All England ก่อนจะได้แค่ ”รองแชมป์” เมื่อแพ้ Tine Baun จากเดนมาร์คในรอบชิง 1-2 เกม 14-21,21-16,10-21 แต่ที่หลายคนยังจำได้ก็คือ การแข่งขันกับ Juliane Schenk ยอดนักแบดมินตันหญิงจากเยอรมัน มือ 4 ของรายการในรอบ 8 คนสุดท้ายที่ ”เมย์” ชนะ 2-1 เกม สกอร์ 13-21,21-12,21-8 ที่เมื่อจบการแข่งขัน นักแบดมินตันสาวเยอรมันให้สัมภาษณ์ว่า “รัชนกมีฝีมือมากพอที่จะเป็นแชมป์โลก”


 
ซึ่งไม่นานนัก จากการแข่งขัน All England ในเดือนมีนาคม เพราะในเดือนสิงหาคม “เมย์” รักชนก อินทนนท์ ก็เป็นแชมป์โลกหญิงเดี่ยว BWF World Championship ที่อายุน้อยที่สุด เมื่อเอาชนะ Li Xuerui มือหนึ่งของรายการในรอบชิงต่อหน้าแฟนแบดมินตันชาวจีนเต็มสนาม 2-1 เกม 22-20,18-21,21-14  
 
  จากวันนั้นถึงวันนี้ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ก็ได้ประกาศให้โลกรู้จักว่า การเป็น ”แชมป์โลก” ที่อายุน้อยที่สุดในปี 2013 ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย เพราะหลังจากนั้นจนถึงวันนี้ “เมย์”ก็คว้าแชมป์มากมายหลายรายการ รวมทั้ง”แชมป์เอเชีย”ในปี 2015 และเคยขึ้นเป็นนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือหนึ่งของโลกในเดือนเมษายน  2016 ก่อนจะเกิดการบาดเจ็บเล็กๆและลงสนามในสภาพไม่สมบูรณ์ติดต่อกัน
 
ถือได้ว่าใน ”สายบู๊” รัชนก อินทนนท์ เป็นนักกีฬาตัวอย่างและกลายเป็นผู้ที่ทำให้เด็กๆมากมายเลือกเดินเข้าสู่คอร์ตแบดมินตันตามรอย ”พี่เมย์” จนทำให้ประเทศไทยมีนักกีฬาฝีมือดีขึ้นมามากมาย  
 
  ส่วนใน”สายบุ๋น” ก็ถือว่า “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กไทยมากมาย เมื่อรับทุนจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และร่ำเรียนจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ทั้งๆที่ต้องเดินทางตระเวนแข่งขันแบดมินตันไปทั่วโลกตลอดทั้งปี 
 

 
และล่าสุด “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ก็ได้ตัดสินใจสมัครเข้าเรียนต่อระดับปริญญาเอก หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เพื่อต่อยอดความสำเร็จ เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีว่า อาชีพการเป็นนักกีฬานั้นมีเวลาไม่มากนัก เพราะเมื่อวัยสูงขึ้น ก็จะไม่สามารถฝืนธรรมชาติลงแข่งขันได้   

“ที่ตัดสินใจต่อปริญญาเอก เนื่องจากยังรู้สึกอยู่ในวัยที่ยังมีความพยายาม กลัวว่าปีต่อๆไปจะทำให้ตัวเองยังเหนื่อย เมย์มองว่าอายุตอนนี้และหน้าที่ของตัวเองตอนนี้คือการทำงานอย่างหนักเพื่ออนาคตที่จะสบายกว่านี้ ตอนนี้เป็นช่วงที่เมย์ต้องทำหน้าที่หลายๆอย่างควบคู่กันไป จะบอกว่าการที่เราอยู่ในสายอาชีพไม่ได้แปลว่าเราจะทิ้งการเรียน แต่เมย์ยอมรับว่าสกิล(ทักษะ)ในเรื่องการเรียนไม่ดีเท่ากับคนที่มีเวลาทุ่มเรื่องนี้เต็มร้อย จุดนี้เป็นจุดที่เมย์ยอมรับค่ะ แต่เรื่องความพยายามเพื่อประสบความสำเร็จเมย์ไม่เคยยอม” นักแบดมินตันขวัญใจชาวไทยเปิดใจกับแบดมินตันไทยทูเดย์



นี่แสดงให้เห็นว่า ”เมย์” รัชนก อินทนนท์ คือ "นักกีฬาตัวอย่างที่น่าชื่นชมทั้งในและนอกสนาม ทั้งสายบู๊และสายบุ๋น"

Cr.Photo : BadmintonPhoto, มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ