ถึงวันนี้ ยังมองไม่เห็นว่าการแข่งขันแบดมินตันรายการต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อไร หลังจากที่สหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) ได้ประกาศระงับการแข่งขันในโปรแกรมของ BWF ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า ที่ทำให้ Covid-19 ระบาดไปทั่วโลก 
 

แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเดนมาร์ค ก็ประกาศห้ามจัดกิจกรรมที่จะมีผู้คนเข้าร่วมไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ทำให้การแข่งขัน THOMAS และ UBER CUP 2020 ซึ่งจะแข่งขันที่ Ceres Arena ในเมือง Aarhus ประเทศเดนมาร์ค ที่เลื่อนจากวันที่ 16-24 พฤษภาคม ไปเป็นวันที่ 15-23 สิงหาคม ก็อาจจะต้องเลื่อนต่อไปเพราะคงไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาลได้

 

การที่ยังไม่สามารถคาดได้ว่าการแข่งขันจะกลับมาเริ่มต้นเมื่อไร บวกกับนักกีฬาทุกชาติ ก็ยังไม่สามารถเริ่มต้นฝึกซ้อมได้อย่างจริงจัง ทำให้ดูเหมือน ”เป้าหมาย” ของแต่ละชาติ ดูเหมือนจะตรงกัน นั่นคือการให้ความสำคัญกับการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่มหานครโตเกียว ซึ่งเลื่อนไปแข่งขันในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2021

 

ระยะเวลานับจากวันนี้ไปอีกประมาณ 15 เดือนเศษ แม้อาจจะไม่มากนักสำหรับการเตรียมพร้อม แต่ก็ถือว่าไม่น้อยสำหรับการปรับเปลี่ยนแผน เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ในอีก 15 เดือนนี้ จะมีการแข่งขันรายการไหนบ้าง ซึ่งหมายความว่า อาจจะยังไม่รู้ว่าจะมีการแข่งขันรายการไหนที่ให้นักกีฬาลงแข่งขันเก็บคะแนน

 

เพราะ ”รายการใหญ่” ในปฏิทินการแข่งขันของ BWF ถึงตอนนี้ ในการแข่งขันปี 2020 นอกเหนือจาก TOTAL BWF Thomas & Uber Cup 2020 ที่กำหนดไว้ในเดือนสิงหาคม ที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการแข่งขันหรือไม่ ก็มี Korea Open 2020 รายการระดับ BWF World Tour Super 500 ในเดือนกันยายน ต่อด้วย VICTOR China Open 2020 ที่เป็นการแข่งขัน World Tour Super 1000 และรายการ BWF World Tour Super 750 คือ DAIHATSU YONEX Japan Open 2020

 

ในเดือนตุลาคม จะมีรายการระดับ World Tour Super 750 อีก 2 รายการในยุโรป คือ DANISA Denmark Open 2020 ที่เดนมาร์ค กับ YONEX French Open 2020 และรายการระดับเดียวกันคือ Fuzhou China Open 2020 ในเดือนพฤศจิกายนและปิดท้ายปีด้วย YONEX-SUNRISE Hong Kong Open 2020 ที่เป็นการแข่งขัน Super 500 ก่อนจะปิดโปรแกรมประจำปีในการแข่งขัน HSBC BWF World Tour Finals 2020 ในเดือนธันวาคม

 

ขณะเดียวกัน ในปี 2021 เอง ก็มีผลกระทบจาก Covid-19 ทำให้โปรแกรมการแข่งขันยังไม่ลงตัว จนยากที่จะคาดเดาได้ว่า นักกีฬาจะลงแข่งขันรายการไหนเพื่อเก็บคะแนน และการเก็บคะแนนไปโอลิมปิก จะเริ่มจากรายการไหนไปถึงรายการไหน

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ยังไม่มีการลงสนามฝึกซ้อมอย่างจริงจังในสนาม นักกีฬาหลายคนก็ได้รับคำแนะนำจากทีมงานผู้ฝึกสอนแต่ละชาติให้ฝึกซ้อมแบบไหน เช่นที่ Rexy Mainaky หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย เปิดใจกับ BWF ได้ว่ากำชับให้นักกีฬาแต่ละคนรักษาสภาพร่างกาย โดยการออกกำลังกาย และต้องพยายามจับแรกเก็ตเพื่อให้คุ้นมือ โดยมีทีมงานผู้ฝึกสอนดูแลนักกีฬาผ่าน Smartwatches ว่าสภาพร่างกายน่าพอใจแค่ไหน

 

ขณะที่ Gronya SOMERVILLE นักกีฬาหญิงคู่และคู่ผสมมือหนึ่งของออสเตรเลีย ก็ได้รับคำสั่งให้ดูแลกล้ามเนื้อที่ยังเป็น ”จุดอ่อน” โดยการออกกำลังกายกลางแจ้ง เพราะไม่สามารถลงสนามฝึกซ้อมในสภาวะไวรัสระบาดได้ เช่นเดียวกับนักกีฬาอินเดีย ที่มีรายกงานว่า Pullela Gopichand ได้ใช้โปรแกรม Zoom calls ในการควบคุมดูแลนักกีฬา โดยเฉพาะนักกีฬาสำคัญอย่าง Saina Nehwal และ Kidambi Srikanth ที่อยู่ไกลกับทีมงานผู้ฝึกสอน

 

นอกจากนั้น ก็มีการเตรียมพร้อมของชาติต่างๆ ที่จะเน้น ”เสริมจุดแข็ง” และ “ล้างจุดอ่อน” โดยเริ่มจากจีน ที่ตัดสินใจเลือก Li Mao ยอดโค้ชชายเดี่ยวมาคุมนักกีฬา เพราะเชื่อว่าหากมีคำแนะนำดีๆ ทั้ง CHEN Long เจ้าของเหรียญทองชายเดี่ยวครั้งก่อน และ SHI Yu Qi นักแบดมินตันชายเดี่ยวอนาคตไกลอีกคน ก็มีโอกหาสที่จะก้าวไปถึงเหรียญทอง แม้จะมี Kento MOMOTA เป็นเต็งหนึ่งก็ตาม

 

เช่นเดียวกับเกาหลี ที่ทีมงานตัดสินใจ ”เสริมจุดแข็ง” โดย ”ติวเข้ม” นักกีฬาหญิงคู่ ทั้ง  LEE So Hee / SHIN Seung Chan คู่มือ 4 ของโลก KIM So Yeong / KONG Hee Yong คู่มือ 6 ของโลก CHANG Ye Na / KIM Hye Rin คู่มือ 9 ของโลก และ BAEK Ha Na / JUNG Kyung Eun คู่มือ 10 ของโลก โดยเน้นการฝึกซ้อมโปรแกรมพิเศษด้วยการยึดรูปแบบการเล่นที่เอาชนะคู่แข่งสำคัญทั้งจีนและญี่ปุ่นมาพัฒนาให้ดีขึ้น

 

ขณะที่มาเลเซีย กำลังพิจารณาหา Extra Coach มาเพื่อดูแลนักกีฬาหญิงเดี่ยว เพื่อติวเข้ม GOH Jin Wei แชมป์หญิงเดี่ยวซีเกมส์ 2017 และอดีตแชมป์เยาวชนโลก 2 สมัยที่เพิ่งกลับมาหลังการผ่าตัด กับ KISONA Selvaduray แชมป์หญิงเดี่ยวซีเกมส์ 2019 เพราะเห็นว่าทั้งคู่คือ ”อนาคต” ของทีม

จะเห็นได้ว่า เมื่อยังไม่สามารถคาดเดาโปรแกรมการแข่งขันได้ ทีมงานผู้ฝึกสอนแต่ละชาติก็มี ”การบ้าน” สำหรับนักกีฬา แต่ที่เหมือนกันก็คือ เป้าหมายอยู่ที่โอลิมปิก ที่เลื่อนจากปีนี้ไปเป็นปีหน้า