2 ระดับรายการนี้ เป็นการแข่งขันระดับต่ำสุดของ BWF World Tour และเนื่องจากในปัจจุบัน การแข่งขันระดับสูงมีมากรายการ คือระดับ Super 1000 มี 3 รายการ ระดับ 750 มี 5 รายการ และระดับ 500 อีก 7 รายการ ทำให้การแข่งขันระดับ 300 ที่มี 11 รายการ และ 100 อีก 10 รายการ เป็นรายการที่นักกีฬามือทอปแทบจะไม่ค่อยไปร่วมแข่งขัน ยกเว้นรายการที่ไปร่วมเพื่อปรับตัวให้เข้ากับเวลาและอากาศก่อนการแข่งขันรายการใหญ่ เช่น German Open ที่จะแข่งขันก่อน All England รวมถึง Swiss Open ที่แข่งหลัง All England ที่นักกีฬาเลือกไปร่วมแข่งขันเพื่อฟื้นสภาพร่างกายหลังศึกหนัก |
ดังนั้น การแข่งขันปี 2019 ที่เพิ่งจบไปนั้น จึงมี ”มือดี” ได้แชมป์รายการระดับ 300 หลายรายการ เช่น Kento Momota ได้แชมป์ German Open หลังเดินทางจากญี่ปุ่นไปยุโรป ก่อนไปคว้าแชมป์ชายเดี่ยวในการแข่งขัน All England หรือ Mohammad Ahsan / Hendra Setiawan ได้แชมป์ชายคู่ที่นิวซีแลนด์ ก่อนไปแข่งขัน BWF Sudirman Cup 2019 |
สำหรับผลงานของนักกีฬาไทยในการแข่งขันระดับ Super 300 ในปี 2019 ต้องยอมรับว่า ”น้อย” เมื่อมองตามระดับฝีมือและคู่แข่งในรายการต่างๆ โดยเริ่มจากรายการแรกในประเทศไทย คือ PRINCESS SIRIVANNAVARI Thailand Masters 2019 ที่เป็นการแข่งขันรายการแรกของ BWF ในปี 2019 ปรากฏว่ามีเพียง ”เอิรธ์-ปอป้อ” พุธิตา สุภจิรกุล / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่ได้แชมป์ ส่วน “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ ได้รองแชมป์หญิงเดี่ยว และ ”บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ได้รองแชมป์คู่ผสม |
จากรายการแรกในเดือนมกราคม นักกีฬาไทยต้อง ”รอ” ยาวนานถึง 8 เดือน คือในเดือนกันยายน จึงมีนักกีฬาไทยได้แชมป์รายการระดับ Super 300 อีกครั้งในรายการ YONEX Chinese Taipei Open 2019 นั่นคือ ”กิ๊ฟ-วิว” จงกลพรรณ กิตติธรากุล / รวินดา ประจงใจ ที่ได้แชมป์หญิงคู่ โดยชนะ Kim So-yeong / Kong Hee-yong มาแบบสุดมัน |
รายการต่อมาคือ Macau Open 2019 ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม ที่ต้องถือเป็นรายการ Warm Down ของนักกีฬาหลังตรำศึกใหญ่คิดต่อกัน รายการคือ VICTOR China Open 2019 กับ Korea Open 2019 ในเดือนกันยายน และ 2 ราการใหญ่ในเดือนตุลาคมคือ DANISA Denmark Open 2019 กับ YONEX French Open 2019 ทำให้มือวางหลายคนถอนตัวก่อนการแข่งขัน และนักกีฬาไทยประสบความสำเร็จ เข้าชิงถึง 3 ประเภท และคว้า 2 แชมป์คือชายเดี่ยว “โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ และคู่ผสม ”บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ขณะที่ ”กิ๊ฟ-วิว” จงกลพรรณ กิตติธรากุล / รวินดา ประจงใจ แพ้ Du Yue / Li Yinhui ได้แค่รองแชมป์ |
ส่วนรายการ Super 300 รายการสุดท้ายของปีคือ Syed Modi International แม้จะไม่มี ”แชมป์” แต่ก็เป็น ”ข่าวดี” ของวงการแบดมินตันไทย เมื่อ”จิว” พิทยาภรณ์ ไชยววรณ สามารถผ่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ Carolina Marín แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเมื่อลดอาการตื่นเต้นในการลงเล่นรายการระดับใหญ่เป็นครั้งแรก “จิว” ที่ปีหน้าจะต้องลงเล่นระดับ Senior เต็มตัวก็แสดงให้เห็นว่ามีฝีมือไม่น้อย |
สุดท้ายในการแข่งขันระดับ Super 100 ที่ถือเป็นรายการสำหรับ ”มือใหม่” แทบไม่น่าเชื่อว่าทั้ง 10 รายการทิ้งในเอเชียและยุโรป ไม่มีนักกีฬาไทยได้แชมป์เลยแม้แต่คนเดียว โดยรายการที่อินเดียคือ Hyderabad Open มี 2 สาวคือ ”พีซ” พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข กับ ”จิว”พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ ผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศ และหลังจากนั้น ”จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ ก็เข้ารอบรองฯ ในรายการถัดมาคือ Akita Masters ก่อนจะแพ้ An Se-young ที่ได้แชมป์หญิงเดี่ยว |
ต่อมาในรายการ Vietnam Open ก็มีชายคู่คู่ใหม่ คือ ”ติน-สกาย” ติณณ์ อิสริยะเนตร / กิตตินุพงษ์ เกตุเรน สามารถผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศ ส่วนรายการ Indonesia Masters 2 อดีตทีมชาติคือ “สอง” ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข และ ”พีซ” พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ได้เข้าชิงชายเดี่ยวกับหญิงเดี่ยว แต่แพ้นักกีฬาจากจีนทั้งคู่ และปิดท้าย 2 รายการในยุโรปคือที่เนเธอร์แลนด์กับเยอรมัน นักกีฬาไทยก็ไม่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับรายการระดับ 750 ทั้ง 2 รายการที่นั่นคือ DANISA Denmark Open 2019 และ YONEX French Open 2019 ที่ไม่มีนักกีฬาไทยผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศเลย |
ปี 2019 ที่จบการแข่งขัน จึงเป็นภาพที่เห็นได้ว่านักกีฬาไทยทำผลงานได้ในระดับน่าพอใจ แม้จะจบโดยยังไม่มีแชมป์ในรายการใหญ่ระดับ Super 750 และ 1000 ขณะที่รายการระดับ 500 กับ 300 นักกีฬาที่คว้าแชมป์ก็ยังคงเป็นนักกีฬาหน้าเดิมๆ โดยต้องถือว่า ประเภทของนักกีฬาไทยที่ยังต้องรอว่าจะมีพัฒนาการได้ดีแค่ไหนคือชายเดี่ยวกับชายคู่ และเป็น 2 ประเภทที่นักกีฬาไทยไม่ได้สิทธิ์เข้าร่วมศึก HSBC BWF World Tour Finals 2019 เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา |
อย่างไรก็ตาม ถือว่าปี 2020 จะเป็นปีที่ท้าทายของนักกีฬาไทยทุกคนทุกประเภท เพราะใน 4 เดือนแรก จะมีการแข่งขันที่นักกีฬาทุกคนจากทุกชาติต้องเก็บคะแนนสะสมทั้งเพื่อไปร่วมแข่งขันโอลิมปิก และเร่งทำอันดับเพื่อเป็นตัวยืนในการจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน |
ขณะเดียวกัน การแข่งขันระดับ Super 300 และ 100 จะเป็นปีที่แฟนแบดมินตันไทยต้องติดตาม เพราะจะมี 2 ดาวรุ่งคือ”วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์ชายเดี่ยวเยาวชนโลก 3 สมัย กับ ”จิว” พิทยภาณ์ ไชยวรรณ มือหนึ่งหญิงเดี่ยวเยาวขชนโลกที่มีดีกรีหลายแชมป์ในปีก่อน จะลงแข่งขันระดับ Senior เต็มรูปแบบหลังจากพ้นวัยที่จะลงแข่งขันรายการระดับ Junior ที่ต้องส่งไม่ต่อให้กับรุ่นน้องไปแสวงหาความสำเร็จต่อไป |