แม้การจัดอันดับโลกของสหพันธ์แบดมินตันโลก หรือ BWF สัปดาห์นี้ จะเป็นสัปดาห์ที่ 51 แต่ก็ถือได้ว่าเป็นอันดับโลก ณ สิ้นปี 2019 เพราะถึงเวลานี้ มีการแข่งขันในปฏิทินของ BWF เพียงรายการเล็กๆ 4 รายการ คือ Turkey Junior Open 2019 ที่ตุรกี YONEX - SUNRISE Bangladesh Junior International Series 2019 ที่บังคลาเทศ 2019 YONEX/K&D GRAPHICS International Challenge ที่สหรัฐอเมริกา และ Turkey Open 2019 เป็นรายการสุดท้ายของปีที่ตุรกี
 

สำหรับปี 2019 ที่กำลังจะจบลง ถือเป็นปีที่นักแบดมินตันไทยทำผลงานได้ไม่ดีนัก โดยในประเภทชายเดี่ยว ก็เป็นอีกปีที่นักกีฬาไทยแทบจะไม่สามารถเข้าไปติดอันดับท็อปเทนโลกเลย โดยอันดับที่ดีที่สุดของนักแบดมินตันไทยตอนนี้คือ “กัน” กันตภณ หวังเจริญ ที่อยู่อันดับ 13 ในการลงสนามมากถึง 24 ทัวร์นาเมนต์ ส่วนอันดับ 2 เป็น ”โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ที่อยู่อันดับ 25 ในการลงสนาม 22 ทัวร์นาเมนต์

 

โดยในปี 2019 นักแบดมินตันชายเดี่ยวไทย ได้แชมป์รายการ BWF World Tour เพียงคนเดียวในรายการเดียว คือ”โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ที่คว้าแชมป์ Macau Open ที่เป็นการแข่งขันระดับ Super 300

 

ในประเภทหญิงเดี่ยว”เมย์” รัชนก อินทนนท์ ยังคงทำผลงานได้ดี โดยอยู่อันดับโลกที่ 5 จาการลงสนาม 20 ทัวร์นาเมนต์ และมี ”แชมป์” มาเสริมประวัติตัวเอง 2 รายการในระดับ Super 500 คือ Malaysia Masters กับ India Openและรองแชมป์อีก 4 รายการ

 

ที่น่าสนใจก็คือ “ครีม” บุศนันทนท์ อึ๊งบำรุงพันธ์ ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 15 มี 52,500 คะแนนจากการลงแข่ง 23 ทัวร์นาเมนต์ แซงหน้า ”หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ที่ตกไปอยู่อันดับ 17 ด้วยคะแนนสะสม 51,016 จากการลงแข่งขัน 20 รายการ

 

นอกจากนั้น โควตาไปโอลิมปิก 2020 ของทั้งคู่ยังต้องแข่งขันเพื่อเป็นนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวไทยคนที่ 2 ที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขัน โดยในขณะนี้”ครีม”อยู่อันดับ 14 ที่ได้โควตาแล้ว ขณะที่ ”หมิว” อยู่อันดับ 17 มีคะแนนน้อยกว่า”ครีม” ไม่ถึง 1,000 คะแนน

 

ส่วนนักกีฬาไทยอีกคนที่ต้องชื่นชมคือ ”พีซ” พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ที่อยู่อันดับ 35 เนื่องจากเธอลงแข่งขันปีนี้เพียง 16 รายการที่อาจจะเป็นรายการเล็กๆ แต่ก็คว้าแชมป์ถึง 4 รายการคือ FZ FORZA SLOVAK OPEN 2019 ต่อด้วย 54 PORTUGUESE INTERNATIONAL CHAMPIONSHIPS 2019 จากนั้นก็เป็น YONEX - SUNRISE NEPAL INTERNATIONAL CHALLENGE 2019 และปิดท้ายคือแชมป์ INFOSYS FOUNDATION - INDIA INTERNATIONAL CHALLENGE 2019 แถมยังเป็น ”รองแชมป์” อีก 3 รายการ

 

มาถึงประเภทชายคู่  ที่กล่าวได้ว่าเป็นประเภทที่ไทยขาดนักกีฬา โดยอันดับโลกที่ดีที่สุดของชายคู่ไทยคือ “อาร์ท-เอ”บดินทร์ อิสระ / มณีพงษ์ จงจิตร ที่อยู่อันดับ 43 ของโลก และเป็นนักกีฬาไทยคู่เดียวที่ติดอันดับโลกใน 50 อันดับแรก และดูเหมือนจะยังคงเป็นการบ้านใหญ่ของสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ที่จะหา ”คู่ใหม่” มาเสริม หลังการขาดหายไปของ ”ติน-ดีโก้” ติณณ์ อิสริยะเนตร / กิตติศักดิ์ นามเดช ที่อันดับโลกอยู่ที่ 74 และไม่ค่อยได้ลงแข่งขันคู่กัน

 

ในประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิตติธรากุล / รวินดา ประจงใจ ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเอง คืออยู่อันดับ 9 จากการแข่งขัน 24 ทัวร์นาเมนต์ โดยผลงานดีที่สุดคือแชมป์ Chinese Taipei Open ในระดับ Super 300 ขณะที่คู่ ”เอิร์ธ-ปอป้อ” พุธิตา สุภจิรกุล / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย มีอันดับโลกอยู่ที่ 18 และมีแชมป์ระดับ Super 300 คือ Thailand Masters มาประดับ

 

หญิงคู่คงเป็นการบ้านของสมาคมฯ และต้นสังกัดคือ SCG ว่าจะยังคงให้คู่ ”เอิร์ธ-ปอป้อ” เล่นคู่กันอีกหรือไม่ เพราะ ”ปอป้อ” มีภารกิจใหญ่คือประเภทคู่ผสม ขณะที่ประเภทหญิงคู่ ดูจะหมดโอกาสไปโอลิมปิก 2020 แน่นอน โดย”กิ๊ฟ-วิว” ได้โควตาค่อนข้างสูง โดยขณะนี้ได้เป็นโควตาที่ 8 ในอันดับ 9 ที่หมายถึง “เอิร์ธ-ปอป้อ”ที่อันดับอยู่ที่ 18 ของโควต้าไปโอลิมปิกคงยากที่จะขยับไปติดหนึ่งใน 8 อันดับ

 

ปิดท้ายประเภทคู่ผสม ที่มีเพียง ”บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่ยังคงรักษาความยอดเยี่ยม โดยอยู่อันดับ 4 ของโลกที่มี 2 แชมป์ใหญ่ในปีนี้ คือ Singapore Open กับ Korea Open ในระดับ Super 500 และแชมป์ Macau Open ในระดับ 300

 

ปี 2019 ที่กำลังจะจบลง ถือเป็นปีที่นักกีฬาไทยยังคงทำผลงานได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง และเชื่อว่าในปี 2020 น่าจะเป็นปีที่จะมีนักกีฬาหน้าใหม่เข้ามาเสริม โดยประเภทชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์เยาวชนโลก 3 สมัย ที่เป็นมือ 41 โลกคงจะเข้ามาเพื่อทดแทน ”ไบรท์” สัพัญญู อวิหิงสานนท์ ที่ตกไปอยู่อันดับ 46 ขณะที่หญิงเดี่ยว “จิว”พิทยาภรณ์ ไชยววรณ ก็คงเตรียมเข้าสู่สนามรุ่นใหญ่หลังหมดภารกิจระดับเยาวชนโลก โดยขณะนี้เป็นมือ 36 ของโลก

 
หลังพักช่วงรอยต่อปี แฟนแบดมินตันไทยก็คงเริ่มต้นเชียร์นักกีฬาไทยอีกครั้งในรายการ PERODUA Malaysia Masters 2020 ซึ่งเป็นรายการระดับ Super 500 ในช่วงวันที่ 7-12 มกราคมปีหน้า