รู้จริง รู้ลึก รู้ทัน ทุกความเคลื่อนไหวของวงการแบดมินตันอ่าน Badminton Thai Today
ข่าวสารและกิจกรรม
ขอส่งกำลังใจให้”โค้ชดม”
  21 ต.ค. 2562
แบ่งปัน



“อุดม เหลืองเพชราภรณ์” หรือ ”โค้ชดม” เป็นที่รู้จักกันดีของแฟนแบดมินตันไทย เพราะรับหน้าที่เป็นโค้ชทีมชาติไทยมายาวนาน ก่อนจะถึงจุดอิ่มตัว ก็ตัดสินใจพร้อมสตาฟฟ์หลายคน เพื่อหลีกทางให้สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯเลือกโค้ชชุดใหม่มาทำหน้าที่ในการพัฒนายกระดับนักกีฬาทีมชาติชุดใหม่
 
  แต่ด้วยความรักใน ”แบดมินตัน” ที่อยู่ในสายเลือดมายาวนาน ทำให้แม้จะเลิกทำงานทีมชาติ แต่ก็ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับ”บ้านทองหยอด” ในฐานะโค้ชนักกีฬาประเภทเดี่ยว และร่วมทีมนักกีฬาเยาวชนไทยที่เดินทางไปแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกประเภททีมผสมกับประเภทบุคคลเมื่อต้นเดือน
 
แน่นอนว่า บุคลิกและการแสดงออกของโค้ชแต่ละคนจะแตกต่างกัน ดังนั้น ภาพของ ”โค้ชดม” ที่ปรากฏในการแข่งขันที่ถ่ายทอดมาให้กองเชียร์ไทยได้ชม จึงเป็นภาพที่ส่งเสียง ตะโกนโหวกเหวก และมีแฟนแบดมินตันจำนวนมากดูจะไม่ให้ความยุติธรรมกับ ”โค้ชดม” มากนัก  
 
  นี่คือเรื่องที่แฟนแบดมินตันไทยถือเป็นเรื่องปกติที่เรามักจะได้ยินคำกล่าว ”ทำดีที่สุดแล้ว” เมื่อนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสำหรับการแข่งขันกีฬา ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก เพราะเมื่อนักกีฬาลงสนาม จะต้องมีความมุ่งมั่นและทำหน้าที่ให้เต็มที่ และไม่ควรจะจบด้วยคำว่า ”ทำดีแล้ว” ในยามพ่ายแพ้ เพราะจะกลายเป็นเรื่องเคยชินสำหรับนักกีฬา
 
จึงไม่แปลกที่ ”โค้ชดม” บ่อยครั้งจะส่งเสียงดังอยู่หลังนักกีฬาเพื่อให้แก้ไขข้อบกพร่องในการเล่นเมื่อผิดพลาด เพราะ ”ทำดีที่สุด” มันควรจะต้องประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แพ้ ถ้าแพ้ก็ต้องแก้ไข  
 
  แน่นอน การพ่ายแพ้อินโดนีเซีย 2-3 ในรอบรองชนะเลิศแบดมินตันเยาวชนโลก คนแรกที่ต้องรับผิดชอบก็คือทีมงานผู้ฝึกสอน ตั้งแต่การเลือกนักกีฬาลงแข่งขันแต่ละประเภท จากนั้นก็ถึงนักกีฬา ว่าทำไมไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เช่นกรณีที่ ”วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แพ้ Bobby SETIABUD ในการแข่งขันประเภททีม ทำให้ไทยต้องพ่าย 2-3 จนอดเข้าชิงชนะเลิศ ซึ่งต่อมาทุกคนค่อยทราบว่า ”วิว” บาดเจ็บเท้าและต้องลงเล่น 2 ประเภทในวันนั้น
 
แต่ในประเภทบุคคล อย่าลืมว่า ”โค้ชดม” สามารถทำให้ ”วิว” คว้าแชมป์เยาวชนโลก ในสมัยที่ 3 แถมยังล้างแค้นเอาชนะ Bobby SETIABUD ได้ในรอบ 8 คนสุดท้าย ที่แสดงให้เห็นว่า แนวทางการพัฒนานักกีฬาของ ”โค้ชดม” ยังได้ผลดี  
 
  แถมล่าสุด ในศึก Dubai International Challenge 2019 ที่ดูไบ ที่ ”วิว” สามารถเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะพ่าย Yusuke ONODERA นักกีฬาญี่ปุ่นที่เข้าไปชิงชนะเลิศกับเพื่อนร่วมชาติ ก็แสดงให้เห็นว่า ”โค้ชดม”ยังมีความรู้มากพอที่จะส่งมอบให้นักกีฬารุ่นใหม่
 
เพราะแม้ Dubai International Challenge 2019 จะเป็นแค่รายการระดับ International Challenge แต่ ”ชื่อ” ของนักกีฬาก็ถือว่าไม่ใช่มือใหม่ อย่าง KIM Sa Rang / KIM Ha Na ที่กลับมาลงสนามและเข้าถึงรอบชิงประเภทคู่ผสม หรือชายคู่อย่าง SHIA Chun Kang / TAN Boon Heong ที่ได้รองแชมป์  

การที่อดีตนักกีฬามือดีอย่าง ”โค้ชดม” อุดม เหลืองเพชราภรณ์ ในวัยที่มากขึ้น ยังยอมเหนื่อยเพื่อส่งต่อความรู้ด้านแบดมินตันต่อเด็กรุ่นใหม่ จึงเป็นเรื่องควรเอ่ยคำ ”ขอบคุณ” แม้อาจจะไม่ชอบแนวทางการฝึกสอนของเขาก็ตาม
ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ