โดยในรอบชิงชนะเลิศ “อินโดนีเซีย” ทีมวางอันดับหนึ่ง สามารถเอาชนะจีนไปได้ 3-1 คู่ โดยเริ่มจากคู่แรกในประเภทคู่ผสม Daniel MARTHIN / Indah Cahya Sari JAMIL จากอินโดนีเซีย เอาชนะ FENG Yan Zhe / LIN Fang Ling จากจีน 2-1 เกม 21-18,18-21,21-11 โดยใช้เวลาแข่งขัน 1 ชั่วโมงเศษ ให้ทีมอินโดนีเซียขึ้นนำก่อน 1-0 |
คู่ที่ 2 เป็นประเภทหญิงเดี่ยว และเป็น Putri Kusuma WARDANI นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ 6 ระดับเยาวชนของโลก ก็เอาชนะ ZHOU Meng นักกีฬาจากจีนที่มีดีกรีเป็นมือ 2 ของโลกไปแบบสุดมัน 2-1 เกม 21-18,20-22,14-21 หลังเล่นกันนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ทำให้อินโดนีเซียขึ้นนำ 2-0 และต้องการอีกเพียงคู่เดียวก็จะคว้าแชมป์สร้างประวัติศาสตร์ |
ในคู่ที่ 3 ซ่างทีมชาติจีนต้องชนะเพื่อให้การแข่งขันยังคงดำเนินต่อ เป็นประเภทชายเดี่ยว ระหว่าง Bobby SETIABUDI นักแบมินตันชายเดี่ยวมือ 8 ระดับเยาชนโลก พบ LIU Liang นักแบดมินตันเยาวชนโลกมือ 5 ปรากฏว่า LIU Liang ทำผลงานได้ดี พลิกกลับมาชนะ 2-1 เกม 21-17,17-21,22-20 โดยในเกมตัดสินเกมที่ 3 Bobby SETIABUDI นำห่างได้ถึง 4 แชมเปี้ยนชิพพอยต์ที่ 20-16 แต่กลับเล่นไม่ออกด้วยความตื่นเต้นทำเสีย 6 คะแนนรวดให้ LIU Liang พลิกกลับมาชนะ ทำให้จีนตีตื้นมาเป็น 1-2 คู่ ยังมีหวังลุ้นแชมป์ต่อ |
ในคู่ที่ 4 เป็นประเภทหญิงคู่ ซึ่งอินโดนีเซียต้องใช้ Febriana Dwipuji KUSUMA ลงคู่กับ Putri SYAIKAH เนื่องจาก Nita Violina MARWAH ที่เป็นคู่ประจำที่เป็นคู่มือหนึ่งโลกได้รับบาดเจ็บจากเกมชนะไทยในรอบรองชนะเลิศ ขณะที่จีนใช้ LI Yi Jing / TAN Ning และเป็นคู่เฉพาะกิจของอินโดนีเซียทำได้ดี เอาชนะคู่จีน 2-1 เกมอีกคู่ 16-21,25-23,21-13 ให้อินโดนีเซียชนะจีน 3-1 คู่ คว้าแชมป์โลกไปครอง |
ชัยชนะของนักกีฬาเยาวชนอินโดนีเซียชุดนี้ ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ เพราะเป็นครั้งแรกที่อินโดนีเซียได้แชมป์ประเภททีม หลังจากแข่งขันมาก่อนหน้านี้ 16 ครั้งตั้งแต่ปี 2000 อินโดนีเซียเคยเข้าชิงชนะเลิศ 3 ครั้งคือปี 2013 แต่แพ้เกาหลี ปี 2014 และ 2015 แพ้จีน ขณะที่ทีมเยาวชนจีน ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ติดต่อกัน แต่ยังครองสถิติเป็นชาติที่คว้าแชมป์มากที่สุดคือ 13 ครั้ง รองมาเป็นเกาหลี ที่คว้าแชมป์ 2 ครั้ง มาเลเซีย 1 ครั้ง และอินโดนีเซีย ก็เป็นชาติที่ 4 ที่คว้าแชมป์ประเภททีมผสมในการแข่งขันครั้งที่ 19 นี้ |
ส่วนทีมที่ได้อันดับ 3 ครั้งนี้คือทีมเยาวชนไทยร่วมกับทีมเยาวชนญี่ปุ่น โดยไทยคว้าอันดับ 3 ได้เป็นครั้งที่ 4 หลังจากเคยได้มาเมื่อปี 2009 , 2014 และ 2016 ขณะที่ญี่ปุ่น เคยเข้าชิงชนะเลิศครั้งเดียวเมื่อปี 2012 แต่แพ้จีนในรอบชิงชนะเลิศ และเป็นการคว้าเหรียญทองแดงครั้งที่ 5 ของทีม |