ถึงตอนนี้ กล่าวได้ว่า Lee Zii Jia นักแบดมินตันหนุ่มมาเลเซีย แม้ยังไม่ประสบความสำเร็จอะไร แต่ก็ถูกจับตามองว่าเป็นนักกีฬาแห่งอนาคต และกลายเป็นความหวังหนึ่งเดียวของมาเลเซียในผู้เล่นยุคใหม่ รวมทั้งถือเป็น
”ตัวแทน” ของ Lee Chong Wei นักแบดมินตันชายเดี่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย
|
|
ล่าสุด มีรายงานจากมาเลเซียว่า Lee Chong Wei ที่เพิ่งประกาศเลิกเล่นตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อรักษาอาการมะเร็งโพรงจมูก ได้เปิดเผยว่า เขามีแผนที่จะใช้เวลาใน Academy Badminton Malaysia ของสมาคมแบดมินตันมาเลเซียให้มากขึ้น เพื่อช่วยเหลือนักกีฬารุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Lee Zii Jia เพื่อมุ่งหน้าสู่โอลิมปิก |
อดีตนักแบดมินตันหมายเลขหนึ่งของโลกกล่าวว่า ถึงตอนนี้ ปัญหาของทีมแบดมินตันมาเลเซียก็คือ การขาดนักกีฬารุ่นใหญ่คอยให้คำแนะนำหรือช่วยเหลือนักกีฬาดาวรุ่ง หลังจากที่ Goh V Shem / Tan Wee Kiong นักแบดมินตันชายคู่ที่เพิ่งคว้าแชมป์ที่ไต้หวัน และ Chan Peng Soon / Goh Liu Ying เจ้าของเหรียญเงินคู่ผสมโอลิมปิก 2016 ออกจากทีมชาติและเลือกเป็นนักกีฬาอิสระทั้ง 2 คู่ |
|
|
“ผมต้องการช่วยในการพัฒนาเด็ก ๆ มันจะต้องใช้เวลาถึง 3-4 ปีในการดูแลพวกเขา ผมต้องการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพื่อกระตุ้น Zii Jia และผู้เล่นคนอื่นๆ" Lee Chong Wei กล่าว
|
|
ทั้งนี้ Lee Zii Jia เพิ่งพ่ายแบบพลิกล็อคต่อ Shesar Hiren Rhustavito ของอินโดนีเซียในศึก Chinese Taipei Open ที่เชื่อว่าเป็นเพราะจิตใจและความอ่อนล้ามากกว่าฝีมือ เพราะก่อนหน้านี้ ในศึกชิงแชมป์โลกที่บาเซิ่ล ดาวรุ่งมาเลเซียสามารถทะลุถึงรอบ 8 คนสุดท้าย และนับตั้งแต่เดือนมกราคม ดาวรุ่งคนนี้ก็แทบจะลงเล่นเกือบทุกทัวร์นาเมนต์ |
“เขาเหนื่อยล้าเกินไป ผมก็เคยเผชิญกับความท้าทายเดียวกันและรู้ว่ายากที่จะมุ่งมั่นกับการแข่งขันทุกครั้ง เขา(Lee Zii Jia) ไม่ควรรู้สึกผิดหวัง แต่ควรเรียนรู้จากความพ่ายแพ้” Lee Chong Wei กล่าวและว่า เขาเตรียมจะเข้าหารือกับ Hendrawan โค้ชชายเดี่ยวมาเลเซียเพื่อช่วยกันทำงาน
ในความเห็นของเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 3 สมัย เขามองว่า Lee Zii Jia สามารถผ่านการคัดเลือกไปเล่นโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียวได้แน่นอน แต่คิดว่าโอกาสที่จะคว้าเหรียญของ”ทายาท”ของเขานั้น จะเป็นโอลิมปิก 2024 ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมทั้งประสบการณ์และอายุที่จะเต็ม 25 ในปีนั้น |
|
|
“ปีนี้มีความสำคัญสำหรับโค้ชที่จะแนะนำ Zii Jia แต่ที่สำคัญก็คือเขาต้องทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุด” Lee Chong Wei กล่าวทิ้งท้าย
คงต้องจับตาว่าคนที่ถูกยกเป็น
”ทายาท” Lee Chong Wei จะพัฒนาได้มากแค่ไหนเมื่ออดีตนักแบดมือหนึ่งโลกอาสาลงมา
”ปั้น”ด้วยมือเขาเอง
อ้างอิง : The Star