เมื่อสักครู่ Lee Chong Wei พร้อมด้วย Syed Saddiq Syed Abdul Rahman รัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬา กับ Datuk Seri Norza Zakaria นายกสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย  ได้เปิดแถลงข่าวประกาศตัดสินใจแขวนแร็กเก็ต เลิกเล่นแบดมินตันของเขา หลังจากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งโพรงจมูกและสามารถรักษาหายขาดได้แล้ว แต่แพทย์แนะนำว่าร่างกายของเขาไม่เหมาะที่จะลงสนามแข่งขันอีกต่อไป
 

เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 3 สมัยที่เป็นนักแบดมินตันมือหนึ่งโลกยาวนานที่สุดถึง 348 สัปดาห์ยอมรับว่า วันนี้เป็นวันที่เสียใจมากที่สุดในชีวิตที่จะต้องมาแถลงข่าวว่าตัวเองจะต้องเลิกเล่น แต่เพราะสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ จึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และกล่าวว่า นี่คงเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับเขากับครอบครัว ที่จะได้ไป ”ฮันนี่มูน” หลังจากแต่งงานเมื่อปี 2012 และมีบุตรชาย 2 คน

“มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากมากกับการต้องเลิกเล่น ผมรักแบดมินตันจริงๆ มันคือความท้าทายทุกครั้งของผมในการลงเล่น และขอขอบคุณชาวมาเลเซียทุกคนที่สนับสนุนผมตลอด 19 ปีที่ผ่านมา” ยอดนักแบดมินตันวัย 36 กล่าวในการแถลงข่าว



ทั้งนี้ Lee Chong Wei ยอมรับว่า ตามแผนที่เขาวางไว้ก็คือ จะเลิกเล่นหลังจบการแข่งขันโอลิมปิก 2020 และแม้จะเสียใจที่ต้องเลิก แต่ที่สำคัญก็คือ “สุขภาพ” ทำให้การตัดสินใจแม้จะยากลำยาก แต่ก็ไม่เสียใจเพราะที่สำคัญก็คือสุขภาพ
 

“พวกคุณก็รู้ ผมแต่งงานเมื่อปี 2012 แต่เราไม่เคยไปฮันนีมูน ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะทำให้ภรรยาพอใจ” Lee Chong Wei กล่าวพร้อมหยุดร่ำไห้ไปเกือบนาที และกล่าวต่อว่า ตลอด 19 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เขาทำมาตลอดก็คือ ต่อสู้เพื่อประเทศ “วันนี้มันมันเป็นวันเกษียณของผม" Lee Chong Wei กล่าวสรุปสั้นๆ

ด้าน Norza Zakaria นายกสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย ที่มาร่วมแถลงข่าวด้วย กล่าวถึง Lee Chong Wei ว่าเขาเป็น "ตำนาน" ของมาเลเซีย และไม่ใช่เฉพาะเกี่ยวกับ”แบดมินตัน” หากแต่แสดงให้เห็นว่าการเป็นนักกีฬาจะต้องมุ่งมั่นมากแค่ไหนในการจะสร้างความสำเร็จ

“วันนี้มันเป็นวันเศร้าที่ตำนานที่เราไว้วางใจมานานต้องเลิก แต่เรายอมรับการตัดสินใจของเขา” นายกสมาคมแบดมินตันมาเลเซียกล่าว



ทั้งนี้ ประวัติศาสตร์แบดมินตันจะต้องจารึกว่า อดีตนักแบดมินตันหมายเลขหนึ่งของโลก เลิกเล่นขณะที่อันดับโลกอยู่ที่ 191 หลังจากไม่ได้ลงสนามมาเกือบหนึ่งปี

และแน่นอน โลกคงไม่ลืมชื่อของ Lee Chone Wei