การแข่งขันครั้งแรกในช่วงวันที่ 24-29 พฤษภาคม 1989 มี 6 ชาติที่เข้าร่วมแข่งขันในกลุ่ม 1 คืออินโดนีเซีย เกาหลี อังกฤษ อยู่ในกลุ่ม A ส่วนกลุ่ม B มีจีน เดนมาร์ค สวีเดน และสุดท้าย”อินโดนีเซีย”เป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์ เมื่อชนะเกาหลีในรอบชิง 3-2 ย้ำแค้นที่ชนะในรอบแบ่งกลุ่ม 4-1 ผ่านมา 30 ปี หรือจะถึงเวลาที่”อินโดนีเซีย”จะเอาถ้วยรางวัลกลับถิ่นในศึก Sudirman Cup 2019 ที่จะแข่งในอีก 2 สัปดาห์ที่ประเทศจีน |
โดยผู้เล่นในวันนั้นที่ยังคงมีบทบาทในวันนี้คือ Susi Susanti ตำนานแบดมินตันอินโดนีเซีย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกหญิงเดี่ยวคนแรกของโลก ที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่นำแชมป์โลกทีมผสมมาให้บ้านเกิด เมื่อเอาชนะ Lee Young-suk ในรอบชิง 10-12,12-10,11-0 ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค สมาคมแบดมินตันอินโดนีเซีย |
โดยในประเภทชายเดี่ยว นักกีฬาตัวหลักของทีมคือ Anthony Sinisuka GINTING นักแบดมินตันมือ 7 ของโลก Jonatan CHRISTIE นักแบดมินตันมือ 9 ของโลกและ Tommy SUGIARTO นักแบดมินตันมือ 13 ของโลก ก็ล้วนแต่มีผลงานในเวทีการแข่งขันมากมาย |
ส่วนประเภทหญิงเดี่ยว ที่อาจจะยังเป็น”จุดอ่อน”ของทีม แต่ Gregoria Mariska TUNJUNG อดีตแชมป์เยาวชนโลก ปั 2017 Fitriani FITRIANI มือ 30 โลกและ Ruselli HARTAWAN นักแบดหญิงเดี่ยวมือ 40 โลก ก็ยังอยู่ในกลุ่มผู้เล่นที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาแทนนักกีฬารุ่นพี่ |
มาถึงประเภทชายคู่ ที่ถือเป็น”จุดแข็ง”ของอินโดนีเซียนั้น Marcus Fernaldi GIDEON / Kevin Sanjaya SUKAMULJO ชายคู่มือหนึ่งโลก คงไม่ต้องพูดถึงอีกแล้ว ขณะที่ Hendra SETIAWAN / Mohammad AHSAN ที่กำลังกลับมาฟอร์มดีจนขยับมาเป็นมือ 4 โลกก็สามารถช่วยทีมได้เยอะ แถมยังมี Fajar ALFIAN / Muhammad Rian ARDIANTO ชายคู่มือ 5 โลกเป็นตัวเสริมที่ดี |
ดังนั้น แม้จะไม่ใช่ทีมเต็งอย่างญี่ปุ่นและจีน แต่”อินโดนีเซีย” ในฐานะทีมอันดับ 3 ที่จะอยู่ในกลุ่ม 1B ร่วมกับ 2 ทีมจากยุโรปคือเดนมาร์คและอังกฤษ ก็ไม่สามารถมองข้ามได้ และความฝันที่แฟนแบดมินตันอินโดนีเซียจะเห็นถ้วย Sudirman Cup กลับแผนดินเกิด ก็คงไม่ไกลเกินฝัน |