ชัยชนะของ“บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่คว้าแชมป์ประเภทคู่ผสม ในการแข่งขัน Singapore Open 2019 รายการระดับ HSBC BWF World Tour Super 500 เมื่อชนะ TAN Kian Meng / LAI Pei Jing จากมาเลเซียแบบขาดลอย 21-14,21-6 ในเวลาการแข่งขันเพียง 32 นาที ต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้กับ”โค้ชโอม”



“โค้ชโอม”เทศนา พันธ์วิศวาส อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพราะแม้ติดตามนักกีฬาทีมชาติไทยไปหลายเวที หลายๆทัวร์นาเมนต์ แต่มักจะถูกมองข้ามว่าไม่ใช่โค้ชทีมชาติ หากแต่ไปในสถานะ”โค้ช”ของเอสซีจี ที่มีหน้าที่ดูแลนักกีฬาของสโมสรที่ไปในนามทีมชาติ



เหมือนๆกับ”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่จะมีโค้ชจากบ้านทองหยอดเป็นคนดูแลทั้ง”โค้ชเป้”และ”โค้ชเซี่ย”

สำหรับ”โค้ชโอม”เทศนา พันธ์วิศวาส เป็นนักแบดมินตันทีมชาติไทยมายาวนาน โดยติดทีมชาติครั้งแรกในในการแข่งเอเชียนเกมส์ 1998 โดยเล่นประเภทคู่ผสมกับ”หมวดส้ม” สราลีย์ ทุ่งทองคำ และสามารถเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนจะสร้างชื่อเสียงในปีต่อมา เมื่อคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 1999 ในประเภทชายคู่กับปราโมทย์ ธีระวิวัฒน์ และยังคู่กันในการคว้าเหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ 2002 ในประเภทชายคู่



ความรักและหลงใหลแบดมินตัน ทำให้”โค้ชโอม”ตัดสินใจดร็อปการเรียนขณะศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นปีที่ 4 เพื่อฝึกซ้อมสำหรับการแข่งขันแบดมินตันในโอลิมปิกปี 2000 ที่ซิดนีย์ และยังคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิก 2004 ที่เอเธนส์ด้วย 



หลังแขวนแร็คเก็ตในฐานะนักกีฬา “โค้ชโอม”ก็ทำงานเป็นโค้ชให้กับ”เอสซีจี อะคาเดมี” โดยหนึ่งในนักกีฬาที่ถือเป็น”ศิษย์เอก”ของ”โค้ชโอม  คือ”ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ตั้งแต่คว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยวในการแข่งขันกีฬาแบดมินตันในโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2010 และสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์การแข่งขันระดับ Grand Prix Gold ได้ถึง 3 ประเภทคนแรกของโลก คือแชมป์หญิงเดี่ยว US Open 2013 แชมป์หญิงคู่เมื่อครั้งเล่นกับ “เอ็มเอ็ม”สาวิตรี อมิตรพ่าย ในรายการ Syed Modi International Badminton Championships 2012 และคู่กับ”เอิร์ธ”พุธิตา สุภจิรกุล ในรายการ SCG Thailand Open 2016 และแชมป์ประเภทคู่ผสมกับ”บาส”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ในรายการ YONEX Swiss Open 2017



แต่”งานแรก”ที่”โค้ชโอม”แนะนำตัวให้โลกรู้จักก็คือ การทำให้ มณีพงศ์  จงจิตร กับ รจนา จุฑาบัณฑิตกุล คว้าแชมป์เยาวชนโลกในปี 2009 โดยเอาชนะ Angga Pratama / Della Destiara Haris จากอินโดนีเซีย



นอกจากนั้น “โค้ชโอม”ยังทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนนักกีฬาแบดมินตันเยาวชนทีมชาติไทย ชุดเข้าแข่งขันเวิลด์จูเนียร์แชมเปียนชิพ 2012 ประเภททีมผสม ที่ประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอนชุดเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2013 ที่มาเลเซีย 

และความสำเร็จอีกครั้งของ”โค้ชโอม” คือทำให้”บาส-สกาย”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน แชมป์ชายคู่เยาวชนโลกปี 2014 หลังเอาชนะ  Masahide Nakata / Katsuki Tamate จากญี่ปุ่น



“โค้ชโอม”รักที่จะดูแลและพัฒนานักกีฬาเยาวชน จึงไม่ขยับฐานะขึ้นมาในสถานะโค้ชทีมชาติ โดยยังคงทำหน้าที่เป็นเสาหลักสำหรับพัฒนานักกีฬาจาก”เอสซีจี อะคาเดมี่” และจะเห็นมีนักกีฬาจากสโมสรนี้หลายคนออกสู่สนามแข่งขันนานาชาติมากขึ้น เช่น “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน ที่ถูกเลือกขึ้นมาแทนที่”ปอป้อ”ในการเล่นประเภทหญิงคู่กับ”เอิร์ธ”พุธิตา สุภจิรกุล เพื่อให้”ปอป้อ”ทุ่มเทกับการลงสนามประเภทคู่ผสม โดยคู่”เอิร์ธ-เฟม” สามารถคว้าแชมป์แรกแล้วในรายการ KABAL INTERNATIONAL KARVINÁ 2018 และยังคงรอเวลาว่าจะพัฒนาได้แค่ไหน



แต่ถึงตอนนี้ ความสำเร็จครั้งสำคัญในการคว้าแชมป์ระดับ Super500 ครั้งแรกของ”บาส-ปอป้อ”จึงถือเป็นความสำเร็จอีกระดับของ”โค้ชโอม” ผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง