เหลือเวลาอีกเพียงประมาณ 18 เดือนหรือปีครึ่ง ก่อนที่จะมีการแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งสำหรับนักแบดมินตันทั่วโลกถือว่าเป็นรายการสำคัญ เพราะจะมี 4 ปีครั้ง ทำให้ทุกคนมุ่งมั่นกับการแข่งขันครั้งนี้ ดังเช่นที่ประเทศจีน ตัดสินใจเลือก Zhang Jun ขึ้นเป็นผู้บริหารเบอร์หนึ่งของสมาคม พร้อมประกาศเป้าหมายคือ 5 เหรียญทองโอลิมปิก 2020
 

ทางฝั่งอินโดนีเซีย อีกประเทศมหาอำนาจลูกขนไก่โลก ซึ่งในโอลิมปิก 2016 ได้เพียงเหรียญทองเดียวจากคู่ผสม และในโตเกียว 2020 ก็ถือเป็น"เต็งหนึ่ง"ในประเภทคู่ผสม Marcus Fernaldi GIDEON / Kevin Sanjaya SUKAMULJO ชายคู่มือหนี่งโลกปัจจุบัน ที่สามารถใช้คำว่า "ไร้เทียมทาน" ในประเภทนี้

 

อย่างไรก็ตาม Susi Susanti อดีตแชมป์หญิงเดี่ยวโอลิมปิกคนแรก ในฐานะประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมแบดมินตันอินโดนีเซีย กล่าวว่า ในปี 2019 นี้ ชายคู่มือหนึ่งโลกจากอินโดนีเซีย จะต้องเลือกโปรแกรมการแข่งขันเท่าที่จำเป็นและเหมาะสม เพราะปีนี้เป็นปีสำคัญสำหรับการคัดเลือกไปโอลิมปิก 2020 ทั้งคู่จึงจะไม่ลงแข่งขันมากเหมือนปีสองปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ Kevin/Marcus เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อฟอร์มกระโดดจนโดดเด่นในปี 2017 โดยสามารถคว้าแชมป์ถึง 7 รายการ Superseries พร้อมก้าวขึ้นเป็นชายคู่มือหนึ่งโลก และยังทำผลงานดีต่อเนื่อง โดยเป็นแชมป์ 8 รายการ World tour ในปี 2018 รวมทั้งแชมป์เอเชี่ยนเกมส์

"Kevin/Marcus จะไม่ลงแข่งขันทุกรายการ เราจะเลือกรายการแข่งเพื่อรักษาอันดับโลก สภาพร่างกาย ความสมดุล และความมุ่งมั่น เพราะทุกคนอยากชนะพวกเขา เราจึงต้องดูแลเพื่อให้ทั้งคู่ยังคงทำได้ดีต่อเนื่องจนถึงโอลิมปิกปีหน้า" อดีตหญิงเดี่ยวมือหนึ่งโลก ในฐานะประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมแบดมินตันอินโดนีเซียกล่าว
 

ทั้งนี้ ตามโปรแกรมที่วางไว้ การลงสนามของชายคู่มือหนึ่งโลกรายการต่อไปคือ All England ในต้นเดือนมีนาคม จากนั้นก็เป็นศึกชิงแชมป์โลก การแข่งขันสุธีรมานคัพ รวมถึง World Tour Final โดยจะไม่เน้นการร่วมแข่งขันมากมาย และมีเป้าหมายให้อันดับโลกปีนี้ยังอยู่ 3 อันดับแรก เพราะอันดับโลกยังสำคัญ จึงยังต้องทำอันดับไว้แม้จะเลือกโปรแกรมลงน้อย

คงต้องติดตามแต่ละรายการว่า Kevin/Marcus จะลงเล่นที่ไหนบ้าง เพราะต้องยอมรับว่า แฟนแบดมินตันทั้งโลกยังอยากดูนักตบลูกขนไก่ชายคู่คู่นี้



อ้างอิง : badmintonplanet