ถึงตอนนี้ เรามีตรวจสอบผลงานนักกีฬาไทยว่า ”สอบผ่าน” มากแค่ไหน เริ่มที่รายการ Thailand Masters ซึ่งรายการนี้เมื่อปีก่อน นักกีฬาไทยเป็นแชมป์ 3 ประเภท คือ ”แน๊ต” ณิชชาอร จินดาพล เป็นแชมป์หญิงเดี่ยว , "ติน-ดีโก้” ติณณ์ อิสริยะเนตร / กิตติศักดิ์ นามเดช เป็นแชมป์ชายคู่ และ ”กิ๊ฟ-วิว” จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ เป็นแชมป์หญิงคู่ |
แต่ผลงานปีนี้ นักกีฬาไทยได้แชมป์เพียงหญิงคู่ แต่เป็นคู่ ”เอิร์ธ-ปอป้อ” พุธิตา สุภจิรกุล / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ขณะที่ ”ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ เป็นรองแชมป์หญิงเดี่ยว และ ”บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เป็นรองแชมป์คู่ผสม |
ที่ต้องกล่าวว่าผลงานยังไม่ดีพอก็คงเป็นประเภทชายเดี่ยว เพราะทั้ง ”เพชร” โฆษิต เพชรประดับ / “กัน” กันตภณ หวังเจริญ และ ”ไบรท์” สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ ที่เป็นมือวาง 2-3-4 ต่างก็ตกรอบแรก ส่วนที่มาไกล คือ ”ตะวัน” ปัญญวิชย์ ทองน่วม กับ ”โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ก็มาไกลแค่รอบ 2 เท่านั้น |
เมื่อมองว่า ”แชมป์” ชายเดี่ยวปีนี้ คือ Loh Kean Yew นักแบดมินตันดาวรุ่งเยาวชนมือ 120 ในวันแข่งขัน ก็น่าจะเป็นการบ้านให้สมาคมแบดมินตันฯ ต้องพิจารณาแก้ไขว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักกีฬาชายเดี่ยวไทย ขณะที่หญิงเดี่ยว ”หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ และคู่ผสม ”ต้นน้ำ-เอ็มเอ็ม” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร / สาวิตรี อมิตรพ่าย ก็มาถึงรอบรองชนะเลิศ |
ถัดมาเป็นรายการ PERODUA Malaysia Masters ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับ BWF World Tour Super 500 ก็ถือว่าผลงานนักกีฬาไทยยัง ”สอบผ่าน” ในระดับ Superseries เพราะ ”เมย์” รัชนก อินทนนท์ คว้าแชมป์หญิงเดี่ยว และเป็นการป้องกันแชมป์ได้ ขณะที่ ”บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เป็นรองแชมป์คู่ผสมอีกรายการ |
เช่นเดียวกับที่ประเทศไทย กลุ่มนักกีฬาที่ผลงานไม่ดียังคงเป็นชายเดี่ยว เพราะที่มาไกลที่สุดคือ”กัน”กันตภณ หวังเจริญ กับ ”ไบรท์”สัพพัญญู อวิหิงสานนท ที่มาถึงรอบ 2 เช่นเดียวกับหญิงคู่ที่มีเพียง “เอิร์ธ-ปอป้อ” และคู่ผสม ”ต้นน้ำ-เอ็มเอ็ม” ที่ผ่านมาถึงรอบ 2 ปิดท้ายสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือรายการ DAIHATSU Indonesia Masters ที่อาจจะเป็นเพราะนักกีฬา ”ล้า” มาจากมาเลเซียหรือไม่ก็คงต้องหาคำตอบ เพราะไม่มีนักกีฬาไทยคนไหนผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศได้เลยแม้แต่คนเดียว |
โดยนักกีฬาไทยที่ทำผลงานเข้ารอบลึกที่สุดคือผ่านมาถึงรอบ Quarter Final คือหญิงเดี่ยว”เมย์”รักชนก อินทนนท์ กับ ”หมิว” พรปวีณ์ ช่อขูวงศ์ และหญิงคู่ ”กิ๊ฟ-วิว” จงกลพรรณ กจิธรากุล / รวินดา ประจงใจ ขณะที่ชายคู่ ”บาส-สกาย” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน ทำผลงานในรอบแรกด้วยการตบ 11 แต้มรวดในเกมตัดสินเอาชนะชายคู่ไต้หวันก่อนจะมาตกรอบ 2 แต่ก็ถือว่าทำน่าชื่นชมกับจิตใจนักสู้ |