การแข่งขันแบดมินตันรายการ PRINCESS SIRIVANNAVARI Thailand Masters 2019 ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับ HSBC BWF World Tour Super 300 ชิงเงินรางวัล 150,000 เหรียญสหรัฐ ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม มาถึงครึ่งทาง ถือว่ามีผลความสำเร็จในทางที่ดี
ในแง่ของการแข่งขัน น่าดีใจที่แม้จะเป็นรายการ HSBC BWF World Tour Super 300 แต่เนื่องจากในช่วงกลางปี จะเริ่มมีการเก็บคะแนนสะสมในการไปร่วมศึกโอลิมปิก โตเกียว 2020 ทำให้มีนักกีฬา”บิ๊กเนม”มากมายมาร่วมแข่งขัน เริ่มตั้งแต่ชายเดี่ยวคือ LIN Dan ที่มาในฐานะมือวางอันดับ 1 และเป็นนักกีฬาที่แฟนๆทั้งสนามรอชมมากที่สุด
ที่ต้องจับตามองก็คือ LU Guangzu นักแบดมือ 31 โลกจากจีน ที่ผลงานปีก่อน คว้าแชมป์ CROWN GROUP AUSTRALIAN OPEN และ YONEX CANADA OPEN กับ 2 รองแชมป์ที่ LINGSHUI CHINA MASTERS และ SYED MODI INTERNATIONAL BADMINTON CHAMPIONSHIPS
รวมถึง LEE Zii Jia นักแบดมินตันดาวรุ่งพุ่งแรงวัย 20 ของมาเลเซีย เจ้าของแชมป์ YONEX CHINESE TAIPEI OPEN และรองแชมป์ GWANGJU KOREA MASTERS เมื่อปีก่อน ที่ถูกจับตามมองว่าเป็นตัวแทน Lee Chong Wei ตัวจริง
ขณะที่หญิงเดี่ยว ทุกวันนี้ถือว่านักแบดมินตันสาวไทยมีผลงานน่าพอใจ ดังนั้น แม้รายการนี้จะไม่มี”เมย์”รัชนก อินทนนท์ แต่ก็ยังมี”แน๊ต”ณิชชาอร จินดาพล มือ 14 โลก “หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 22 โลก และนักกีฬาดังต่างชาติอย่าง Michelle LI นักแบดมินตันมือ 13 โลกจากแคนาดา หรือ CAI Yanyan นักแบดมินตันมือ 20 โลกจากจีนมาร่วมแข่งขัน
ส่วนในประเภทชายคู่ อาจจะเป็นศึกนอกประเทศระหว่าง GOH V Shem / TAN Wee Kiong ชายคู่มือ 14 โลกที่ตัดสินใจออกจากแคมป์ทีมชาติเมื่อสิ้นปี ที่มาแข่งในฐานะมือ 1 ของรายการ อาจจะเจอ Aaron CHIA / Wooi Yik SOH นักแบดมินตันมือ 22 โลก ที่กลายเป็นคู่มือ 1 ของทีมชาติ ที่จะพิสูจน์ว่าใครจะเป็นมือหนึ่งตัวจริง ก็ต้องไปเจอกันในรอบชิง หากไม่มีใครตกรอบและไม่มาตามนัด
ขณะที่หญิงคู่ เมื่อญี่ปุ่นส่ง Nami MATSUYAMA / Chiharu SHIDA หญิงคู่มือ 13 โลกมาแข่งขัน และเป็นคู่มือ 2 ทำให้สนามนี้ อาจจะเป็นการแข่งขันของคู่ไทย ทั้ง รายการ "กิ๊ฟ-วิว" จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ คู่มือ 8 โลกที่เป็นมือ 1 ของรายการ กับ “เอิร์ธ-ปอป้อ” พุธิตา สุภจิรกุล / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย อดีตคู่มือ 1 ที่กลับมาจับคู่กันอีกครั้ง
โดยมี “เบสท์-จ๋อมแจ๋ม” ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม / ผไทมาส เหมือนวงศ์ คู่มือ 21 โลกที่เป็นมือวางอัน 3 ของรายการ Emilie LEFEL / Anne TRAN คู่มือ 22 โลกจากฝรั่งเศส Selena PIEK / Cheryl SEINEN คู่มือ 24 โลกจากเนเธอร์แลนด์ เป็นตัวแทรกที่น่าจับตามอง ทำให้รายการนี้ ประเภทหญิงคู่จึงเป็นประเภทที่ดุเดือดไม่แพ้ใคร
ส่วนประเภทคู่ผสม แม้ CHAN Peng Soon / GOH Liu Ying แชมป์เก่าเป็นคู่มือ 1 ของรายการ แต่กองเชียร์ไทย คงอยากเห็น”บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย มือวางอันดับ 2 เป็นผู้ชนะ โดยหากไม่มีพลิกล็อค คู่นี้ก็จะตัดสินว่าคู่มือ 5 ของโลกจากไทยและคู่มือ 6 ของโลกจากมาเลเซีย ใครคือผู้ชนะในวันสุดท้าย
ที่น่ายินดีก็คือ จนถึงรอบ Quarter Final วันนี้(11ม.ค.) นักกีฬาแทบทั้งหมดยังผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ ทำให้การขับเคี่ยวแข่งขันยังคงตื่นเต้นและน่าชม
ในส่วนของการจัดการแข่งขัน อาจจะน่าเสียดายที่ระบบการคมนาคมในกรุงเทพฯขณะนี้กำลังติดขัด เนื่องจากอยู่ในช่วงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินพร้อมกันนับสิบสาย ทำให้ถนนหนทางแทบจะทั้งกรุงเทพฯติดขัด แต่ภาพรวมของผู้ชม ก็ยังถือว่าน่าพอใจ เพราะต้องยอมรับว่า”แบดมินตัน” ไม่ใช่กีฬายอดนิยมของคนไทย และการแข่งขันรอบ 2 เมื่อวาน(10ม.ค.) ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทีมฟุตบอลไทยลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แก่งชาติเอเชีย ทำให้มีแฟนกีฬาหลายคนเปิดสมาร์ทโฟนดูฟุตบอลไปขณะเชียร์แบดมินตัน ส่วนอีกหลายคนตัดสินใจกลับบ้านไปดูฟุตบอลที่ถ่ายทอดสดมาให้ชม
เหลือการแข่งขันอีก 3 วัน เชื่อว่าจะมีผู้ชมมากขึ้น โดยเฉพาะในรอบ Semi Final และ Final ที่จะตรงกับวันหยุดราชการ ขณะเดียวกัน ในวันเสาร์ที่ 12 ม.ค. เป็น”วันเด็กแห่งชาติ”ในประเทศไทย จึงเชื่อว่าจะมีเด็กๆมากมายที่ผู้ปกครองพามาดูการแข่งขันแบดมินตันระดับโลกรายการนี้
Thailand Masters 2019 จึงคักคักไม่น้อย